ดูแบบคำตอบเดียว
  #42  
เก่า 10-10-2009
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default


ถึงตรงนี้ ผมขอนำสกู๊ปข่าวจาก นสพ.ข่าวสด วันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 ที่ได้ลงเกี่ยวกับธนาคารปูของชาวประมงที่นี่ มานำเสนอให้ได้รู้จักครับ



ชาวประมงแหลมผักเบี้ย รวมกลุ่มตั้งธนาคารปูม้า

ในแต่ละวันสมาชิกกลุ่มชาวประมงพื้นบ้าน ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี มีนายไพฑูรย์ รื่นรวย อายุ 46 ปี เป็นประธานกลุ่ม จะต้องนำเรือออกไปที่สถานเลี้ยงอนุบาลปูม้า ที่สร้างไว้ในทะเล ห่างจากฝั่งประมาณ 2,000 เมตร เพื่อนำปูม้าที่มีไข่ติดอยู่ที่หน้าท้องปริมาณหลายแสนชีวิต ออกไปปล่อยลงในกระชังที่สร้างไว้ เพื่อให้ลูกปูม้าเจริญเติบโต และออกจากบริเวณใต้ท้องจนหมด ซึ่งจะใช้เวลาไม่เกิน 10 วัน และหลังจากไข่ปูม้าเจริญเติบโตกลายเป็นลูกปูม้าวิ่งออกสู่ทะเลเรียบร้อยแล้ว ก็จะนำปูม้ากลับมาคืนสมาชิกที่นำมาให้ เพื่อขายหรือบริโภคเป็นอาหาร ส่วนปูม้าที่ทางสมาชิกให้กับกลุ่มโดยไม่เอาคืน ทางกลุ่มก็จะเอาไปขายนำรายได้มาซื้อปลาทะเล มาเป็นอาหารใช้เลี้ยงปูที่อยู่ในกระชัง และเป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของกลุ่ม แม้ว่าแต่ละครั้งที่ขับเรือออกไป จะต้องใช้น้ำมันที่มีราคาแพงมากก็ต้องยอม

นายไพฑูรย์ รื่นรวย อยู่บ้านเลขที่ 77/2 หมู่ 1 ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม ประธานกลุ่มชาวประมงแหลมผักเบี้ย เปิดเผยว่า หลังจากตั้งกลุ่มได้ไม่นาน โดยการสนับสนุนงบประมาณก่อสร้างแพและกระชังเลี้ยงอนุบาลปูม้ากลางทะเล ในจำนวนเงิน 5,000 บาท จากกลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

สมาคมรักทะเลไทย มีชาวประมงพื้นบ้านใน ต.แหลมผักเบี้ย เข้าร่วมเป็นสมาชิกแล้วกว่า 40 ราย จากจำนวนชาวประมงทั้งหมดที่มีอยู่ประมาณ 80 ราย ลักษณะของธนาคารปูม้าที่ตั้งขึ้น เพื่อต้องการเพิ่มปริมาณปูม้าให้กับท้องทะเล เพราะปัจจุบันชาวประมงพื้นบ้านนอกจากจะต้องต่อสู้กับปัญหาน้ำมันแพงแล้ว ยังพบว่าปริมาณสัตว์น้ำที่จับขายเลี้ยงครอบครัวกันอยู่ก็มีปริมาณลดลงอย่าง น่าใจหาย โดยเฉพาะปูม้าที่ในอดีตชุกชุมมาก เคยจับได้หลายสิบกิโลกรัมต่อการออกทะเลแต่ละครั้ง แต่ปัจจุบันเหลือเพียงไม่ถึง 5 กิโลกรัมต่อครั้ง เมื่อหักค่าน้ำมันแล้ว ชาวประมงแทบไม่เหลืออะไร แต่ก็ยังดีที่ราคาปูม้าค่อนข้างดี ขายส่งอยู่ที่กิโลกรัมละ 50-60 บาท แต่ถ้าชาวประมงที่ไม่เป็นหนี้พ่อค้า หยิบยืมเงินมาใช้ลงทุนก่อน ก็จะนำไปขายเองจะได้ราคาสูงอยู่ที่กิโลกรัมละ 100-150 บาท ทำให้ชาวประมงย่านนี้ ยังสามารถออกเรือทำมาหากินในทะเลอยู่ได้ ท่ามกลางสภาวะที่ราคาน้ำมันแพง แต่ถ้าปริมาณสัตว์น้ำที่จับกันอยู่ลดลงหรือหมดไป คราวนี้แหละชาวประมงต้องเดือดร้อนแน่ จึงเป็นสาเหตุของการรวมตัวกันตั้งธนาคารปูม้าขึ้น

ลักษณะการทำงาน จะมี 2 วิธี เมื่อชาวประมงได้ปูม้าที่มีไข่อยู่ใต้ท้องจำนวนมาก ก็จะนำมาให้ทางกลุ่ม ซึ่งมีที่ทำการอยู่บนฝั่ง เมื่อได้ปริมาณพอสมควร ชาวประมงนำไปใส่ไว้ในกระชังที่สร้างไว้กลางทะเลเอง หากต้องการนำปูม้ากลับคืนหลังไข่ฟักเป็นตัวหมดแล้ว ชาวประมงจะใช้สีเขียนชื่อติดไว้ที่กระดองปูม้า

นายสมควร น้อยแสง อายุ 45 ปี ชาวประมงที่เข้าร่วมโครงการ เปิดเผยว่า ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีของชาวประมง เพราะถ้าไม่ทำแบบนี้อีกไม่นานปูม้าคงจะค่อยๆ หมดไปจากท้องทะเลแน่นอน เนื่องจากจับกันอย่างเดียว แถมปูไข่ก็ไม่เว้น ก็จะทำให้ปริมาณลดลงไปเรื่อยๆ นอกจากนั้นปัญหาที่ส่งผลกระทบอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ปูม้าลดลง คือการลักลอบเข้ามาคราดหอยของเรือขนาดใหญ่ในพื้นที่อนุรักษ์ชายฝั่ง ผลของตะแกรงเหล็กที่ใช้คราดหอย นอกจากหอยตัวเล็กจะติดไปด้วยแล้ว ยังทำให้หน้าดินเน่าเสีย ลูกปูไม่มีอาหารกิน เสียชีวิตไปด้วย จึงขอวิงวอน ขอร้องเรือคราดหอยขนาดใหญ่ อย่ามาบุกรุกพื้นที่ทำกินของเรือประมงพื้นบ้านในพื้นที่ 3,000 เมตรอีกเลย

รูป
 
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายน้ำ : 10-10-2009 เมื่อ 20:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม