ชื่อกระทู้: Bryde's Whale Watching @ Bangtaboon
ดูแบบคำตอบเดียว
  #8  
เก่า 16-06-2011
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,159
Default



สายชลนั่งมองน้องตึกที่นั่งอยู่หัวเรือ แล้วก็ได้แต่นึกชื่นชม ในความน่ารักและความเก่งของดอกเตอร์สาวจาก มหาวิทยาลัยริวกิว ประเทศญี่ปุ่น ผู้ชำนาญการด้านสัตว์ทะเลหายาก ทั้งพะยูน โลมา และ วาฬ


เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2551...น้องตึก ซึ่งขณะนั้นกำลังศึกษาระดับปริญญาเอกอยู่ที่ญี่ปุ่น ได้ส่งเรื่อง "การพบวาฬกลุ่มบรูด้า (Bryde’s whale) ในน่านน้ำไทย" และ "การล่าหัวกะโหลกวาฬบรูด้า ตอนที่ 1 และ 2" มาให้คุณสายน้ำนำลงใน "ห้องสรรพชีวิตในท้องทะเล" ของ SOS ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ดีมาก มีผู้เข้าคลิ๊กอ่านมากมาย นับเป็นคุณูปการที่เป็นประโยขน์ต่อผู้อ่านมาก


ในเรื่องเกี่ยวกับวาฬบรูด้า ที่น้องตึกได้เขียนขึ้นนั้น ทำให้เราได้ทราบว่า...


"วาฬบรูด้าเป็นสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม จัดอยู่ในวงศ์บาลีนน็อบเทอริดี (Balaenopteridae) เป็นวาฬไม่มีฟันขนาดกลาง โดยมีซี่กรองที่เรียกว่าบาลีน (baleen plate) สำหรับกรองอาหารจำพวกลูกปลา หรือกุ้ง





วาฬบรูด้าพบแพร่กระจายทั่วโลกในน่านน้ำเขตอบอุ่น เขตกึ่งร้อนและเขตร้อน เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการศึกษาการแพร่กระจายประชากรของวาฬกลุ่มบรูด้านี้ ได้พบว่ามีความแตกต่างกันในด้านของพันธุกรรมและสัณฐานวิทยาของรูปร่างภายนอกและลักษณะของหัวกะโหลก


ปัจจุบันสามารถแบ่งออกเป็น 3 ชนิดด้วยกันคือ วาฬอิดิไน (Balaenoptera edeni) ซึ่งเป็นชนิดที่เรารู้จักกันดีอยู่ก่อนแล้ว, วาฬบรูดิไอ (Balaenoptera brydei) และวาฬโอมูไล (Balaenoptera omurai)


อิดิไน


มีขนาดยาวลำตัวสูงสุด 13.7 เมตร อาศัยอยู่ใกล้ชายฝั่งทางตะวันออกของมหาสมุทรอินเดียและตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก ส่วนบรูดิไอ มีขนาดใหญ่กว่ามีความยาวสูงสุด 14.6 เมตร พบแพร่กระจายทั่วโลก




โอมูไล B. omurai


มีขนาดเล็กที่สุดมีขนาดความยาวสูงสุด 12 เมตร (ในเรื่องของความยาวนี้ เอกสารแต่ละเล่มอาจให้ข้อมูลแตกต่างกันเล็กน้อย แต่ก็จะอยู่ในระหว่างประมาณ 11-15 เมตร) ซึ่งตัวอย่างส่วนใหญ่ที่ใช้ในการศึกษาได้มาจากด้านตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกและตะวันออกของมหาสมุทรอินเดีย วาฬกลุ่มนี้มีน้ำหนักตัวสูงสุด 20-25 ตัน ตั้งท้องนานประมาณ 1 ปี ลูกแรกเกิดมีความยาวประมาณ 4 เมตร




แม่หมูน้ำยังไม่มีรูปของ วาฬบรูดิไอ แต่โดยทั่วไปส่วนหัวจะมีสันตรงกลางเพียงสันเดียวเช่นเดียวกันกับวาฬโอมูไล


วาฬบรูด้าในประเทศไทย เคยถูกแยกไว้เพียงชนิดเดียว คือ อิดีไน (B. edeni) แต่พวกเรานักวิจัยต่างก็มีข้อสงสัยตลอดเวลาว่าลักษณะของซี่โครงคู่แรกนั้นแตกต่างกันเป็น 2 แบบ คือ หัวเป็น 2 แฉก หรือเรียกว่า bifurcate rib ซึ่งนับว่าโชคดีมากที่ซี่โครงคู่แรกที่อยู่ชิดกับกระดูกคอและส่วนหัวที่แม้ว่าตัวอย่างจะเน่าหรือขาดหายไปบางท่อน แต่กระดูกซี่โครงคู่แรกนี้มักจะยังติดอยู่กับซากเสมอๆ ทำให้เราระบุได้ง่ายในเบื้องต้นว่าเป็นวาฬชนิดอิดิไน และอีกส่วนที่เราตั้งข้อสังเกตคือจำนวนสันที่หัว เราจึงคาดว่ามันอาจเป็นข้อแตกต่างที่อาจเกิดขึ้นได้ในสัตว์ชนิดเดียวกัน แต่ในส่วนของหัวกะโหลกนั้น เรายังไม่มีความรู้ละเอียด และยังไม่ได้มีการศึกษาเรื่อง DNA ในวาฬกลุ่มนี้ในเมืองไทย"



"เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2550 นักวิจัยชาวญี่ปุ่น คือ Dr.Tadasu K. Yamada จาก National Museum of Science and Nature ได้นำทีมงานเข้ามาศึกษาวิจัยชนิดของวาฬบรูด้า จากลักษณะของหัวกะโหลกโครงกระดูกในประเทศไทย และ DNA ร่วมกับสถาบันฯ ภูเก็ต (ที่เราต้องออกตามล่าหัวกะโหลก ในเรื่องตอนที่ 1 และ 2) Dr.Yamada และ ทีมงานได้ทำการศึกษาวิจัยวาฬกลุ่มบรูด้าในประเทศต่างๆ มาหลายปีแล้ว เช่น จีน ไต้หวัน พม่า อินเดีย นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อาฟริกาใต้ และไทย

การสำรวจหัวกะโหลกวาฬบรูด้าในไทย พบว่าตัวอย่างทั้งหมดประมาณ 50 กว่าตัวที่เก็บไว้ตามสถานที่ราชการและวัด สามารถแยกออกเป็น 2 ชนิด โดยที่วาฬอิดิไน (B. edeni) และวาฬโอมูไล (B. omurai) พบได้ทั้งสองฝั่งทะเลของไทยคือฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย น่าสังเกตว่าตัวอย่างหัวกะโหลกในอ่าวไทยตอนบนจาก จ.นครศรีธรรมราชขึ้นไป และชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก ตัวอย่างเกือบ 100% เป็นชนิด อิดิไน"


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่....

http://www.saveoursea.net/boardapr20...p?topic=1350.0

http://www.saveoursea.net/boardapr20...p?topic=1295.0

http://www.saveoursea.net/boardapr20...p?topic=1333.0



หมายเหตุ: จากข้อมูลล่าสุดทราบจากน้องตึกว่า ในปี 2539 นักวิจัยชาวญี่ปุ่นได้แยกวาฬ โอมูไล หรือ โอมูร่า (B. omurai) ออกจากกลุ่มวาฬบรูด้า หลังจากได้ศึกษาทางสภาพสรีรวิทยา สภาพโครงกระดูก และพันธุกรรม (DNA) อย่างละเอียดแล้ว


อ่านข้อมูลได้จาก http://www.dmcr.go.th/dmcr2009/News/data/241.html

__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 18-07-2011 เมื่อ 04:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม