ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 21-07-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


อุทยานฯ เชื่อป่ายังอุดมสมบูรณ์ หลังกล้องดักถ่ายอัตโนมัติจับภาพ "เสือโคร่ง" ได้

อุทยานแห่งชาติคลองลาน เผยคลิปภาพเสือโคร่ง จากกล้องดักถ่ายภาพอัตโนมัติ พร้อมวลี "จ้าวป่ามาแล้ว" ชี้การได้พบเสือโคร่งในพื้นที่นั่นหมายความว่าสัตว์ป่าและผืนป่ายังมีความอุดมสมบูรณ์อย่างมาก



วันนี้ (20 ก.ค. )เพจ "อุทยานแห่งชาติคลองลาน-Khlong Lan National Park" โพสต์คลิปวีดีโอความยาวกว่า 0.16 วินาที เป็นภาพเสือโคร่ง โดยเผยรายละเอียดว่า "จ้าวป่ามาแล้ว หลังจากพบเสือดาว และเสือดำในอุทยานแห่งชาติคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร เป็นที่น่าตื่นเต้นดีใจของทีมเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าและเจ้าหน้าที่ WWF ประเทศไทยในการเข้าไปเก็บข้อมูลชุดที่สอง กับการได้มาซึ่งภาพของเสือโคร่ง เจ้าแห่งพงไพรจากการทำงานร่วมกันมาเกือบ 10 ปี ระหว่างอุทยานแห่งชาติคลองลานและองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล สำนักงานประเทศไทย (WWF Thailand) โดยได้รับการอนุมัติจาก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อศึกษาการกระจายพันธุ์ของเสือโคร่งและสัตว์ป่าในพื้นที่ ตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา ครั้งนี้เป็นรอบที่ 5 ในการติดตั้งกล้องดักถ่ายภาพอัตโนมัติ

ทั้งนี้ เสือโคร่ง เป็นสัตว์ผู้ล่าที่อยู่ในอันดับสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร การได้พบเห็นเสือโคร่งในพื้นที่ นั่นหมายความว่า สัตว์ป่าและผืนป่ายังมีความอุดมสมบูรณ์อย่างมากซึ่งแน่นอนที่สุด ต้องได้รับการปกป้องดูแลอย่างดีที่สุดเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม มีชาวเน็ตร่วมชมคลิปมากมาย และขอส่งกำลังใจชื่นชมเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ที่ทำงานอย่างหนักเพื่อดูแลป้องป้องฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติป่าไม้ในประเทศไทย โดยมียอดกดไลก์โพสต์แล้วกว่า 490 ครั้ง และแชร์ไปกว่า 190 ครั้งด้วยกัน


https://mgronline.com/onlinesection/.../9630000074372

*********************************************************************************************************************************************************


ศรชล.เขต 2 งัดกฎหมายจัดการเด็ดขาดคอกหอยแครงเถื่อน ปปง.พร้อมยึดทรัพย์

สุราษฎร์ธานี - ศรชล.เขต 2 เดินหน้าจัดการเด็ดขาด คอกหอยแครงเถื่อนต้องรื้อภายใน 15 วัน หากไม่ดำเนินการจะรื้อเอง ขณะที่ ปปง. เดินหน้าเอาผิดข้อหาฟอกเงิน พร้อมยึดทรัพย์เข้าหลวงต่อไป



เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (20 ก.ค.) ที่กองกำกับการตำรวจน้ำจังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ร.ท.สำเริง จันทร์โส ผบ.ทร.ภาค 2 ในฐานะ ผอ.ศรชล.ภาค 2 เป็นประธานประชุมวางมาตรการดำเนินการตามกฎหมายฟอกเงิน กฎหมาย หรือ พ.ร.บ.อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ ปปง. และอำนาจของเจ้าพนักงานสรรพากร ในการดำเนินการต่อผู้บุกรุกพื้นที่สาธารณะอ่าวบ้านดอน และก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำลำน้ำ ร่วมกับนายวิชวุทย์ จินโต ผอ.ศรชล.จังหวัดสุราษฎร์ธานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงในการประชุม ในการประชุมครั้งนี้ไม่อนุญาตให้สื่อเข้าร่วมฟัง

หลังจากนั้น ผอ.ศรชล.ภาค 2 พร้อมคณะได้ลงมาแถลงถึงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่อ่าวบ้านดอน โดยระบุ ว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ไปแล้วจำนวน 93 คดี ส่วนพื้นที่อำเภอพุนพิน ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.พุนพิน ไปแล้วจำนวน 83 คดี และในวันพรุ่งนี้ (21 ก.ค.) พล.ร.ท.สำเริง จันทร์โส ผอ.ศลชล.ภาค 2 จะนำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ดีเดย์ปิดหมายคำสั่งทางคดีที่ขนำในพื้นที่ อำเภอเมืองและอำเภอพุนพิน โดยมีกรอบเวลาให้ผู้ประกอบการเร่งรื้อขนำออกจากพื้นที่ภายในเวลา 15 วันนับตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ทั้ง 176 คดี หากเลยเวลากำหนด ทาง ศรชล.จะนำทหารเรือจากฐานทัพสัตหีบ และฐานทัพเรือสงขลา พร้อมกำลัง ศรชล.ในพื้นที่เข้าทำการรื้อถอน หากผู้ประกอบการรายใดที่จะแสดงตนขอยื่นอุธรณ์ก็สามารถทำได้ในกรอบของกฎหมาย ซึ่งทางผู้แสดงตนจะต้องเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเสียก่อน

ขณะที่นางชลธิชา ดาวเรือง ผอ.กองคดี 3 สำนักงาน ปปง. กล่าวว่า หากในสำนวนการสืบสวนสอบสวนมีการระบุตัวบุคคลที่ชัดเจนทาง ปปง.ก็จะเข้าดำเนินการตรวจเส้นทางการเงินและทรัพย์สินเพื่อเข้าสู่กฎหมายฟอกเงินที่มีความผิดทั้งทางอาญาและแพ่ง เนื่องจากเป็นการบุกรุกครอบครองแสวงหาผลประโยชน์ในพื้นที่สาธารณะ ตามความผิดกฎหมาย ปปง.


https://mgronline.com/south/detail/9630000074419


*********************************************************************************************************************************************************


ขยะอิเล็กทรอนิกส์ อันตรายต่อชุมชน ! เหตุไม่คัดแยก และกำจัดไม่ถูกวิธี



กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เตือนขยะอิเล็กทรอนิกส์ยังอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อมในชุมชน ปัจจุบันพบปริมาณมากขึ้น ชี้เหตุสำคัญของการปล่อยสารพิษจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ อย่าง "สารปรอท" คือ ไม่คัดแยกขยะก่อนทิ้ง และนำไปกำจัดอย่างไม่ถูกต้อง

ดร.หทัยรัตน์ การีเวทย์ ผู้อำนวยการกลุ่มอากาศ เสียงและความสั่นสะเทือน ศูนย์วิจัยและการฝึกอบรมด้านสิ่งแวดล้อม กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กล่าวว่าปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ ที่ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมในชุมชนในปัจจุบัน เกิดจากการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ไม่ถูกวิธีของชุมชน เช่น หลอดฟลูออเรสเซนต์ จอ LCD โทรศัพท์มือถือ แบตเตอรี่ หลอดไฟ ภาชนะบรรจุสารเคมี เป็นต้น เมื่อถูกทิ้งเป็นขยะโดยไม่คัดแยก หากนำไปกำจัดไม่ถูกวิธี ซึ่งหมายถึงการนำไปฝังกลบ แต่กลับนำไปเข้าเตาเผา สารโลหะหนัก เช่น ปรอท (Mercury) ที่ปนในขยะอิเล็กทรอนิกส์ เช่น หลอดฟลูออเรสเซนต์ จอ LCD ซึ่งมีจุดหลอมเหลวต่ำก็จะระเหยกลายเป็นไอและแขวนลอยอยู่ในอากาศที่คนหายใจเข้าไป และตกตะกอนลงสู่ดินและแหล่งน้ำเมื่อฝนตก สารปรอทก็เคลื่อนย้ายไปได้ไกลในสิ่งแวดล้อม พิษของปรอทมีตั้งแต่เล็กน้อยจนรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต อย่างเช่นการที่คนไปกินปลาที่มีการสะสมของสารปรอทผ่านทางห่วงโซ่อาหารจะส่งผลต่อระบบการทำงานของไต ระบบทางเดินหายใจ


https://mgronline.com/greeninnovatio.../9630000074478

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม