ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 26-11-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


รมว.ทรัพยากรฯ เผยภาพการค้นพบซาก "วาฬโบราณ" บ้านแพ้ว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรฯ เผยภาพการค้นพบซาก "วาฬโบราณ" บ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร และคณะสำรวจยังพบซากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ รวมอยู่ด้วย เตรียมส่งวิเคราะห์หาอายุ คาดทราบในหนึ่งเดือน



วันนี้ (25 พ.ย.) เพจ "TOP Varawut - ท็อป วราวุธ ศิลปอาชา" หรือ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ลงพื้นที่ติดตามการสำรวจขุดค้นโครงกระดูกวาฬโบราณ บ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร โดยเผยว่า ?วันนี้ ผมอยู่ที่ตำบลอำแพง อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อติดตามการสำรวจขุดค้นโครงกระดูกวาฬ หลังได้รับแจ้งการค้นพบจาก บริษัท ไบรท์ บลู วอเตอร์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด เจ้าของพื้นที่ เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา

โดยการสำรวจขุดค้นซากวาฬตามหลักวิชาการในพื้นที่ได้มีการดำเนินการ โดย กรมทรัพยากรธรณี กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง และได้รับความอนุเคราะห์และความร่วมมือจากเจ้าของพื้นที่ จากผลการสำรวจขุดค้นเพิ่มเติม พบว่า ชิ้นส่วนกระดูกวาฬสะสมตัวอยู่ในตะกอนดินเหนียวทะเลโบราณ โครงกระดูกวาฬที่พบมีการเปลี่ยนสภาพจากการแทนที่ของแร่ธาตุอื่นยังไม่สมบูรณ์ ส่วนใหญ่มีสภาพค่อนข้างเปราะบาง ทีมงานจึงเร่งทำการสำรวจขุดค้น ตั้งแต่วันที่ 9-15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 และพบกระดูกวาฬอีกหลายชิ้นที่เรียงตัวต่อเนื่อง สามารถขุดค้นได้มากกว่า 50% ประกอบด้วย กระดูกสันหลังที่สมบูรณ์ 19 ชิ้น กระดูกซี่โครง ข้างละ 5 ชิ้น สะบักไหล่ และครีบด้านซ้าย

ต่อมาคณะสำรวจได้เข้าพื้นที่เพื่อทำการสำรวจเพิ่มเติมอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 ค้นพบชิ้นส่วนกระดูกวาฬเพิ่มเติม รวมมากกว่า 80% ได้แก่ กระดูกสันหลังส่วนลำตัวถึงส่วนคอ กระดูกซี่โครง และกะโหลกพร้อมขากรรไกรสภาพสมบูรณ์ โดยหลังจากนี้ จะนำตัวอย่างไปอนุรักษ์ในห้องปฏิบัติการและเตรียมศึกษาวิจัยเพื่อระบุสายพันธุ์ต่อไป

นอกจากโครงกระดูกวาฬ คณะสำรวจยังพบซากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในบริเวณโดยรอบ เช่น ฟันฉลาม ฟันกระเบน เปลือกหอย ปูทะเล เพรียงทะเล และเศษไม้ และได้นำตัวอย่าง เปลือกหอย ซากพืช และกระดูกวาฬ ส่งวิเคราะห์หาอายุด้วยวิธีศึกษาธาตุคาร์บอน-14 (C-14) แล้ว คาดว่า จะทราบผลประมาณอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าครับ

จากการพบโครงกระดูกวาฬบนแผ่นดินซึ่งห่างจากชายฝั่งทะเลปัจจุบันประมาณ 12 กิโลเมตร ในครั้งนี้ เป็นหลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ถึงการรุกของน้ำทะเลเข้ามาในแผ่นดินเมื่อหลายพันปีก่อน ทั้งยังสามารถศึกษาประวัติและวิวัฒนาการของวาฬและสัตว์ทะเลในอดีต บ่งชี้ถึงความหลากหลายทางชีวภาพจากการพบซากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ร่วมกับวาฬ นอกจากนี้ ผลที่ได้จากการสำรวจด้วยวิธีการเจาะสำรวจศึกษาชั้นตะกอนดินและเทียบสัมพันธ์ ยังช่วยในการแปลความหมายถึงสภาพแวดล้อมในอดีต การหาขอบเขตชายทะเลโบราณในพื้นที่ราบลุ่มเจ้าพระยา ตลอดจนศึกษาการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเลในปัจจุบันและอนาคตที่มีผลจากปัจจัยทางธรณีวิทยาและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ซึ่งผมได้มอบหมายให้กรมทรัพยากรธรณีดำเนินการศึกษาวิจัยในเรื่องนี้ต่อไป


https://mgronline.com/onlinesection/.../9630000121550


*********************************************************************************************************************************************************


เกิดอะไรขึ้น!วาฬเกยตื้นหมู่อีกแล้ว ตายเกือบ100ตัวบนชายฝั่งเกาะนิวซีแลนด์

วาฬนำร่องเกือบ 100 ตัวสิ้นลมอย่างน่าสลด หลังเกยตื้นหมู่ที่ชาแธม หมู่เกาะห่างไกลของนิวซีแลนด์ เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าอะไรคือสาเหตุที่นำมาพวกมันมาเกยตื้นหมู่ครั้งนี้



เจ้าหน้าที่อนุรักษ์สัตว์เปิดเผยว่าได้รับแจ้งเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้เมื่อวันอาทิตย์(22พ.ย.) แต่ตอนไปถึงจุดที่เหล่าวาฬเกยตื้น ตามแนวชายหาดไวตางีเวสต์ พบว่าเหลือวาฬเพียงไม่กี่ตัวที่ยังมีชีวิตอยู่

รวมแล้วทั้งสิ้นมีวาฬตาย 97 ตัวและโลมา 3 ตัว อย่างไรก็ตามเบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้พวกมันเกยตื้นหมู่เกาะแห่งนี้ ซึ่งอยู่ห่างจากนิวซีแลนด์ ไปทางตะวันออกราวๆ 800 กิโลเมตร

เจมมา เวลช์ เจ้าหน้าที่ประจำกระทรวงอนุรักษ์ธรรมชาติของนิวซีแลนด์(DOC) รบุในถ้อยแถลงว่าเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องทำการุณยฆาตวาฬเกยตื้น 26 ตัว สืบเนื่องจากสภาพคลื่นทะเลปั่นป่วน และแน่นอนกว่าการเกยตื้นเช่นนี้ จะนำพาฝูงฉลามขาวมายังน่านน้ำ

กระทรวงอนุรักษ์ธรรมชาติเผยว่าสมาชิกชนพื้นเมืองโมริโอริและมาโอริ ได้ประกอบพิธีเพื่อแสดงความเคารพเหล่าดวงวิญญาณของวาฬ และซากของพวกมันจะถูกทิ้งไว้ให้เน่าเปื่อยตามธรรมชาติ

วาฬนำร่องเป็นหนึ่งในสายพันธุ์วาฬที่พบเห็นบ่อยที่สุดในน่านน้ำต่างๆของนิวซีแลนด์ และมันสามารถโตได้สูงสุด 6 เมตร

เหตุเกยตื้นหมู่เกิดขึ้นเป็นประจำแถวหมู่เกาะชาแธม และเมื่อปี 1918 เคยมีวาฬว่ายมาเกยตื้นมากถึงราวๆ 1,000 ตัว นับเป็นเหตุการณ์เกยตื้นหมู่ครั้งใหญ่ที่สุดในนิวซีแลนด์



ขณะเดียวกันเหตุการณ์นี้ยังเกิดขึ้นราวๆ 2 เดือน หลังจากเกิดเหตุวาฬเกยตื้นครั้งใหญ่ที่สุดอีกหนหนึ่งในประวัติศาสตร์ โดยมีวาฬตายอย่างน้อย 380 ตัวตายบนชายหาดเกาะแทสมาเนียของออสเตรเลีย

ยังไม่ทราบคำตอบอย่างชัดเจนว่าทำไมวาฬถึงเกยตื้น แต่วาฬนำร่องชักว่ายเข้ามาเกยตื้นชายฝั่งบ่อยขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้วาฬนำร่องไม่ได้ถูกพิจารณาว่าเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ แม้ไม่ทราบจำนวนประชากรที่้แท้จริงของพวกมัน

เมื่อ 2 ปีก่อน ฝูงวาฬนำร่องราวๆ 145 ตัว ตายหลังจากเกยตื้นชายหาดเกาะสจ๊วร์ต ซึ่งตั้งอยู่ทางใต้ของเกาะใต้ของนิวซีแลนด์

มีหลากหลายทฤษฎีที่พยายามตอบคำถามว่าทำไมเหตุเกยตื้นหมู่จึงเกิดขึ้น โดยบางส่วนบอกว่าฝูงวาฬอาจสับสน หลังไล่ตามฝูงปลาที่พวกมันไล่ล่าเข้ามาใกล้ชายฝั่ง ส่วนคนอื่นๆเชื่อว่าผู้นำฝูงอาจผิดพลาดพาสมาชิกทั้งฝูงเกยตื้นชายฝั่ง

เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน กองทัพเรือศรีลังกา และอาสาสมัครกู้ภัย เข้าช่วยเหลือฝูงวาฬนำร่องกว่า 120 ตัว ซึ่งว่ายมาเกยตื้นบริเวณชายหาดของเมืองปานาดูรา (Panadura) นับเป็นเหตุวาฬเกยตื้นที่มีจำนวนวาฬฝูงใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ


https://mgronline.com/around/detail/9630000121588


*********************************************************************************************************************************************************


ทีมแพทย์ดีใจ!! "วาฬเพชฌฆาตดำ" กินอาหารเองได้แล้ว

เป็นครั้งแรกในรอบ 10 วันที่วาฬเพชฌฆาตดำที่เกยตื้น บริเวณบ้านเกาะเตียบ อ.ปะทิว จ.ชุมพร สามารถกินอาหารเองได้ หลังจากก่อนหน้านี้ต้องให้อาหารทางสายยาง



นับเป็นครั้งแรกที่วาฬฯ ตัวนี้ สามารถกินอาหารได้เอง หลังจากที่พบวาฬฯ ตัวนี้วันแรกเมื่อวันที่14 พฤศจิกายน2563 โดยมีการรายงานว่า กรม ทช.ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โครงการส่วนพระองค์ฯ อ.ปะทิว จ.ชุมพร กรณีพบ วาฬเกยตื้น บริเวณชายหาดหน้าโครงการฯ ผลการตรวจสอบเป็น วาฬเพชฌฆาตดำ ความยาวประมาณ ๔ เมตร เกยตื้นแบบมีชีวิต เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันผลักดันออกสู่ทะเล แต่วาฬไม่สามารถว่ายน้ำออกไปได้ จึงเคลื่อนย้ายมาในพื้นที่อ่าวเกาะเตียบ ซึ่งมีคลื่นลมสงบ และพยายามผลักดันสู่ทะเลอีกครั้ง แต่วาฬก็กลับมาเกยตื้นซ้ำ จึงเริ่มปฐมพยาบาลและเฝ้าดูอาการเพื่อประเมินสภาพของวาฬต่อไป

ต่อจากนั้น ทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่จึงมีการรักษา ติดตามอาการ และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด มาโดยตลอดช่วง 10 วันที่ผ่านมา เช่น การทรงตัว การหายใจ และมีการเจาะเลือดเพื่อส่งตรวจสุขภาพ การให้สารน้ำ น้ำตาล และวิตามินทางเส้นเลือด เป็นต้นซึ่งในช่วงที่ผ่านมาอาการจะค่อนข้างทรงตัวและจากรายงานเมื่อวานนี้ (24 พ.ย.2563)ยังคงให้อาหารทางสายยาง ผลการตรวจเลือดพบว่า วาฬมีภาวะเครียดและกล้ามเนื้ออักเสบ จึงให้ยาซึมและยาแก้การอักเสบ นอกจากนี้ยังพบพยาธิใบไม้ปนมากับเสมหะ จึงเก็บตัวอย่างเพื่อระบุชนิดพยาธิต่อไป

ทั้งนี้ วาฬชนิดนี้ พบได้บริเวณนอกชายฝั่งทั้งอ่าวไทยและอันดามัน บริเวณอ่าวไทยตอนกลาง สำรวจพบบริเวณเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี มีประมาณ ๕๐ ตัว


https://mgronline.com/greeninnovatio.../9630000121391

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม