ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 19-08-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,241
Default

ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า


เมื่อไร้มนุษย์รบกวน ธรรมชาติกลับฟื้นตัว !! เที่ยวอุทยานฯ สุขใจทำอย่างไร เมื่อเจอสัตว์ป่า



18 ส.ค.2563นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติว่า หลังจากกรมฯได้ปิดให้บริการแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาตินานกว่า 3 เดือนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ "การติดเชื้อไวรัสโควิด-19" ปรากฎว่าอุทยานฯ ,เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หลายแห่ง ธรรมชาติกลับมาฟื้นตัว ระบบนิเวศอุดมสมบูรณ์อย่างเห็นได้ชัด ตลอดจนสัตว์ป่าหายาก ปรากฏตัวให้เห็นมากขึ้นเวลานี้ไปที่ไหนนักท่องเที่ยวมีโอกาสพบสัตว์ป่าสูงมาก ดังนั้นข้อระมัดระวังเมื่อพบเจอสัตว์ป่าคือต้องไม่บีบแตรหรือเปิดไฟส่องโดยเด็ดขาด ควรค่อยๆ ถอย หรือจอดรถ เพราะหากไม่ทำตามข้อระมัดระวังอาจจะทำให้สัตว์แตกตื่นตกใจได้ และต้องเว้นระยะห่างจากสัตว์ป่าอย่างน้อย 50 เมตร แต่หากเป็นสัตว์นักล่า เช่น เสือ ต้องเว้นระยะห่างอย่างน้อย 150 เมตรเพื่อความปลอดภัย

อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวต้องไม่ประมาท อย่าทำอะไรที่ทำให้สัตว์ป่าเกิดอาการตกใจ มีสัญชาตญาณป้องกันตัวจนทำร้ายเราได้

"ถ้าเจอสัตว์พลัดหลง แจ้งเจ้าหน้าที่ โทร. 1362 เจ้าหน้าที่จะมาช่วยหรืออำนวยความสะดวก ทั้งนี้ ควรไปที่ทำการอุทยานฯ ก่อน เจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำว่าเจอสัตว์ป่าจะต้องปฏิบัติตนอย่างไร หรือจุดเสี่ยงต้องให้เจ้าหน้าที่นำไป อย่าไปโดยพลการ ต้องเชื่อฟังคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่"

นายธัญญา กล่าวต่อไปว่า วันนี้สัตว์ที่หายากเริ่มกลับมา เริ่มวางไข่ ดังนั้นนักท่องเที่ยวต้องไม่ทำให้สัตว์เกิดความหวาดกลัวตื่นตระหนก อย่าหวังแต่ต้องการถ่ายภาพอยู่ใกล้กับสัตว์ในระยะประชิด เมื่อสัตว์หวาดกลัวอาจจะหนีไปเจอสัตว์นักล่าได้ ก็จะทำให้เกิดปัญหาได้ นักท่องเที่ยวต้องมีจิตสำนึกเข้าใจชีวิตสัตว์ ไม่รบกวน ส่วนเรื่องการให้อาหารสัตว์เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ เพราะอุทยานฯ จะกำหนดจุดให้อาหารสัตว์

"กรณีนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ โทร. 1362 เจ้าหน้าที่อุทยานฯ จะสามารถช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นนักท่องเที่ยวได้ หากบาดเจ็บร้ายแรงจะประสานเฮลิคอปเตอร์มารับผู้บาดเจ็บได้ทันท่วงที อุทยานฯ แต่ละแห่งจะมีอุปกรณ์กู้ชีพช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ เรายังได้เก็บเงินค่าบริการเป็นเงินประกันชีวิตให้กับนักท่องเที่ยว 10 บาท เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการท่องเที่ยวอุทยานฯ ด้วยความปลอดภัย"

"ผมขอย้ำว่านักท่องเที่ยวควรปฏิบัติตามกฎระเบียบและเชื่อฟังคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะทำให้ทุกท่านสามารถท่องเที่ยวอย่างมีความสุข และปลอดภัย"



สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวในอุทยานฯ จะเปิดให้มีจองล่วงหน้าเป็นเวลา 15 วัน ผ่านแอพพลิเคชั่น QueQ โดยเข้าไปจองที่พักได้ทุกอุทยานทั่วประเทศ สามารถทราบผลได้ทันทีว่ามีที่พักว่างในช่วงเวลาที่ต้องการเดินทางหรือไม่ ทั้งนี้จะเปิดให้จองล่วงหน้าผ่านแอพฯ ร้อยละ 70 ส่วนที่เหลือร้อยละ 30 จะรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่อุทยานฯ

พร้อมแล้วไปกัน! ท่องเที่ยววิถีใหม่แบบนิว นอร์มอล สัมผัสความงดงามของธรรมชาติและสัตว์ป่า ท่ามกลางระบบนิเวศที่สมบูรณ์ตื่นตาตื่นใจ หลังจากทุกสรรพสิ่งในผืนป่า ท้องทะเลไทย ได้รับการพักฟื้น เพราะอานิสงส์จากโควิดอย่าเที่ยวเพลิน จนลืมใส่ใจธรรมชาติ และหากพบเจอสัตว์ป่าที่ใด ทั้งในป่า นอกป่า หรือในเส้นทางที่บรรดาสัตว์ป่าลงมาหากิน หรือเดินข้ามเพื่อไปแหล่งอาหารยังอีกฝั่งหนึ่งของป่า ก็ควรปฏิบัติตามข้อบังคับของอุทยานแห่งชาติ อย่างเคร่งครัดเพราะการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ พาตัวเองหลีกหนีชีวิตเมืองเข้าสู่ป่า จะเป็นสิ่งงดงาม ถ้าเราช่วยกันดูแล ใส่ใจ และรักษาบ้านของสัตว์ป่าให้อุดมสมบูรณ์ดังเดิม


https://www.naewna.com/local/512366


*********************************************************************************************************************************************************


สุดเศร้า! พบซากโลมาเกยตื้นที่หาดท้ายเหมือง



วันที่ 18 สิงหาคม 2563 นายปรารพ แปลงงาน หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 จังหวัดภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน พบซากโลมาตายเกยตื้น บริเวณปากน้ำท้ายเหมือง หาดท้ายเหมือง เขตหมู่ที่ 3 บ้านพอแดง ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอท้ายเหมือง กำนันตำบลท้ายเหมือง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง เข้าตรวจสอบ พบว่าเป็นซากโลมากระโดด 1 ตัว ขนาดความยาว 107 เซนติเมตร สภาพเริ่มเน่าเปื่อยส่งกลิ่นเหม็น ตรวจพบมีบาดแผลเป็นรอยกัดบริเวณด้านหลังค่อนมาทางหาง จึงขนย้ายซากโลมานำส่งสัตวแพทย์เพื่อหาสาเหตุการตาย เบื้องต้นคาดว่าบาดแผลที่พบเกิดจากถูกฉลามกัด เพราะรอยบาดแผลเรียบคล้ายของมีคมตัด ทั้งนี้ต้องรอผลการผ่าพิสูจน์ซากต่อไป

ซึ่งล่าสุดทีมสัตว์แพทย์จากศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งผ่าพิสูจน์ พบว่าเป็นโลมากระโดเพศเมีย น้ำหนักประมาณ 15 กก มีฟันบน 46 ซี่ ฟันล่างซ้าย 45 ซี่ ฟันล่างขวา 43 ซี่ สำหรับสาเหตุการตายนั้นยังไม่สามารถระบุได้ ส่วนบาดแผลที่เป็นรอยตัดนั้น อาจเกิดภายหลังการตายจากการตัดครีบออกด้วยวัตถุมีคม ทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บชิ้นเนื้อนำไปเข้าห้องแลป เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้งหนึ่ง


https://www.naewna.com/likesara/512505
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม