ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
ใช้ข้อมูลดาวเทียมตรวจจับพลาสติกในทะเล
ขยะลอยทะเลได้กลายเป็นปัญหาใหญ่ของโลกที่ดูจะยืดเยื้อยาวนาน นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยจำนวนมากพยายามค้นหาวิธีแก้ปัญหามลพิษเหล่านี้ การใช้ดาวเทียมมาช่วยก็คือแนวทางหนึ่ง โดยเฉพาะการตรวจหาพลาสติกชิ้นขนาดใหญ่ในสภาพแวดล้อมทางทะเล ซึ่งพลาสติกประเภทนี้เมื่ออยู่ในทะเลนานๆก็จะแตกหักย่อยสลาย
ความคิดการใช้ข้อมูลจากดาวเทียมสำรวจทรัพยากรขององค์การอวกาศยุโรปในโครงการ Sentinel-2 ถูกเสนอขึ้น เนื่องจากสามารถแยกแยะพลาสติกจากวัสดุอื่นได้อย่างแม่นยำ ดาวเทียมดังกล่าวจะตรวจวัดความยาวคลื่นของแสงที่มองเห็นและแสงอินฟราเรดที่ดูดกลืนและสะท้อนออกมา
Credit : CC0 Public Domain
นักวิทยาศาสตร์ได้ทดสอบวิธีการจากข้อมูลใน Sentinel-2 ตรงน่านน้ำชายฝั่ง 4 แห่งที่แตกต่างกันคือ กรุงอักกราของกานา, หมู่เกาะซานฮวนในแคนาดา, เมืองดานังในเวียดนาม และตะวันออกของสกอตแลนด์
พบว่าวิธีการนี้ประสบความสำเร็จในการแยกแยะพลาสติกจากวัสดุอื่นๆที่ลอยน้ำหรือน้ำทะเล มีความแม่นยำเฉลี่ย 86% และจากทั้ง 4 ตำแหน่ง มีความแม่นยำ 100% จากหมู่เกาะซานฮวน ซึ่งคาดหวังว่าจะสามารถใช้วิธีนี้กับโดรนหรือดาวเทียมความละเอียดสูง เพื่อปรับปรุงการติดตามเกี่ยวกับการทิ้งขยะพลาสติกในทะเลทั่วโลกและช่วยในการทำให้สภาพแวดล้อมสะอาดขึ้น.
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1840769
*********************************************************************************************************************************************************
ฟอสซิลกระดูกฉลามยักษ์ยุคไดโนเสาร์
ในปี พ.ศ.2539 มีนักบรรพชีวินวิทยาค้นพบซากดึกดำบรรพ์ หรือฟอสซิลโครงกระดูกของฉลามยักษ์ทางชายฝั่งตอนเหนือของสเปนใกล้กับเมืองซันตันเดร์ ชายฝั่งแถบนี้มีกำแพงหินปูนสูงราวๆเมตร ซึ่งทับถมมานานนับจากยุคครีเตเชียสเมื่อประมาณ 85 ล้านปีก่อนในช่วงที่ไดโนเสาร์ยังคงครองดินแดนบนบกทั่วโลก
ล่าสุด นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเวียนนา ในออสเตรีย ได้ตรวจสอบบางส่วนของกระดูกสันหลังของฉลามดังกล่าว ระบุได้ว่าอยู่ในกลุ่ม Ptychodontidae คือฉลามที่สูญพันธุ์ไปแล้ว นักวิทยาศาสตร์เผยว่าฟันและกระดูกสันหลังของฉลามจะมีข้อมูลทางชีวภาพ เช่น ขนาดร่างกาย การเติบโต และอายุ ซึ่งกระดูกสันหลังทำให้ได้ข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆเกี่ยวกับชีววิทยาของกลุ่มฉลามลึกลับนี้ที่หายตัวไปก่อนเหตุการณ์สูญพันธุ์ครั้งใหญ่
นอกจากกระดูกสันหลังแล้วยังพบเกล็ดแบบแพลคอยด์ (placoid scales) ซึ่งมีลักษณะคล้ายฟันที่หายากกว่าฟอสซิลฟัน ช่วยให้สามารถถอดรหัสข้อมูลและสร้างระบบนิเวศของกลุ่มฉลาม Ptychodontidae ขึ้นมา จากแบบจำลองที่สร้างขึ้น นักวิทยาศาสตร์คำนวณว่ามันน่าจะมีขนาดได้ 4-7 เมตร และอายุ 30 ปี ที่น่าประหลาดใจคือฉลามตัวนี้ยังไม่โตเต็มที่เมื่อมันตาย แม้ว่ามันจะแก่ขึ้นก็ตาม.
https://www.thairath.co.th/news/foreign/1840763
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
|