ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 17-01-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,241
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


มหาสมุทรโลก ทุบสถิติร้อนสุด เท่าระเบิดนิวเคลียร์ 3 พันล้านลูก


เพนกวิน หนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่มีถิ่นอาศัยในขั้วโลกเหนือ ซึ่งกำลังเผชิญวิกฤติจากสภาวะโลกร้อน (ภาพซินหัว)

ปักกิ่ง, 14 ม.ค. (ซินหัว) - บทความการศึกษาของคระนักวิทยาศาสตร์นานาชาติ ซึ่งประจำอยู่ในสถาบันต่างๆ 11 แห่งทั่วโลก จำนวน 14 คน เปิดเผยว่า "มหาสมุทร" ทั่วโลกในปี 2019 มีอุณหภูมิสูงสุดเท่าที่เคยบันทึกมาในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ และอุณหภูมิยังคงทวีสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วด้วย

บทความที่ตีพิมพ์ในวารสารแอดวานเซส อิน แอตโมสเฟียริก ไซแอนซ์ (Advances in Atmospheric Sciences) เมื่อวันอังคาร (14 ม.ค.) ระบุว่าอุณหภูมิของมหาสมุทรทั่วโลกในปี 2019 เพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ยระหว่างปี 1981-2010 ประมาณ 0.075 องศาเซลเซียส

เฉิงลี่จิ้ง นักวิจัยจากสถาบันฟิสิกส์บรรยากาศ (IAP) แห่งสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน (CAS) และผู้เขียนนำของบทความฉบับดังกล่าว ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิเพียงน้อยนิดนั้น เกิดขึ้นจากการที่มหาสมุทรทั่วโลกดูดซับความร้อนจำนวนมหาศาล เทียบเท่ากับระเบิดปรมาณูฮิโรชิมาจำนวน 3,600 ล้านลูก

"ปรากฏการณ์มหาสมุทรร้อนที่วัดเป็นตัวเลขได้นี้ คือ 'ความจริง' ที่มิอาจโต้แย้งได้ และบทพิสูจน์ 'ภาวะโลกร้อน' อีกครั้งหนึ่งด้วย" เฉิงกล่าว

ข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาถูกบันทึกโดยสถาบันฯ ของจีน และองค์การบริหารสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ (NOAA) โดยวิธีการใหม่ช่วยให้นักวิจัยสามารถตรวจสอบแนวโน้มการปรับเพิ่มของอุณหภูมิ ที่ย้อนหลังไปถึงทศวรรษ 1950

ผลการศึกษาพบว่า อุณหภูมิมหาสมุทรทั่วโลกทุบสถิติใหม่เกือบทุกปี นับตั้งแต่ปี 2017 และช่วง 6 ทศวรรษที่ผ่านมา มหาสมุทรทั่วโลก มีอุณหภูมิสูงขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 450 ส่วนอุณหภูมิช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ถือว่าร้อนที่สุดเท่าที่เคยบันทึกมา

"หากคุณอยากทำความเข้าใจภาวะโลกร้อน คุณต้องวัดจากความร้อนของน้ำในมหาสมุทร" จอห์น อับราฮัม ผู้เขียนร่วมและศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยเซนต์โทมัส ในสหรัฐฯ กล่าว พร้อมย้ำว่า การที่น้ำในมหาสมุทรร้อนขึ้น เป็นตัวบ่งชี้การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลก เนื่องจากมหาสมุทรเป็นแหล่งสะสมความร้อนส่วนใหญ่ในโลก

ผลกระทบของภาวะโลกร้อนปรากฏให้เห็นชัดเจนแล้ว และจะสำแดงออกมาอย่างต่อเนื่องในปี 2020 ด้วยรูปแบบสภาพอากาศแปรปรวนสุดขุ้น ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น และการสูญเสียสัตว์ทะเลจำนวนมาก


https://mgronline.com/china/detail/9630000004971


*********************************************************************************************************************************************************


ทช.จับมือกับกลุ่มอาสาสมัครนักดำน้ำ ร่วมเก็บขยะใต้ทะเลยังพบขยะพลาสติกจำนวนมาก

"กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง" ร่วมกับกลุ่มอาสาสมัครนักดำน้ำ ช่วยกันเก็บขยะใต้ทะเลบริเวณหน้าหาดท้ายเหมือง จ.พังงา เพื่อช่วยลูกเต่ามะเฟืองว่ายไปติดเศษขยะ พบเป็นขยะพลาสติกและเศษอวน น้ำหนักกว่า 15 กิโลกรัม



เมื่อวันที่ 15 ม.ค. เพจ "กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง" ได้โพสต์รูปภาพสุดเศร้าใต้ท้องทะเล เมื่อรูปภาพดังกล่าวเผยให้เห็นกลุ่มอาสาสมัครนักดำน้ำ 4 คนช่วยกันเก็บขยะที่กองอยู่ใต้ท้องทะเล เพื่อเป็นการป้องกันขยะพลาสติกแก่สัตว์น้ำทั้งหลาย ทั้งนี้ทีมนักดำน้ำสามารถเก็บขยะได้มากถึง 15 กิโลกรัม โดยส่วนใหญ่พบเป็นขยะประเภทพลาสติกและเศษอวน

สำหรับกิจกรรมดังกล่าวเป็นการร่วมมือกันของสำนักงาน ทช.ที่ 6 (พังงา) ร่วมกับกลุ่มอาสาสมัครนักดำน้ำ เพื่อเก็บขยะใต้ทะเล บริเวณหน้าหาดท้ายเหมืองใกล้กับหลุมไข่เต่ามะเฟือง เพื่อป้องกันแม่เต่าที่จะวางไข่ และป้องกันในช่วงลูกเต่ามะเฟืองที่จะฟักว่ายไปติดเศษขยะและเครื่องมือประมงใต้ทะเล

จากโพสต์ดังกล่าวได้มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นชื่นชมเจ้าหน้าที่และกลุ่มนักดำน้ำกลุ่มนี้เป็นจำนวนมากที่ช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมใต้ทะเลและกำจัดขยะพลาสติกที่เกิดจากฝีมือมนุษย์


https://mgronline.com/onlinesection/.../9630000004886


*********************************************************************************************************************************************************


เผยภาพ จนท.อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง เปิดเส้นทางรอลูกเต่ามะเฟืองชุดแรกลงทะเล

เพจ "Phuketandamannews" เผยภาพเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง เปิดทางลงสู่ทะเลของหลุมฟักไข่เต่ามะเฟืองที่ครบกำหนดจะออกจากไข่ลืมตาดูโลก คาด 17 มกราคม ได้เจอลูกเต่ามะเฟืองหลุมแรก



เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 62 แม่เต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่บริเวณหลุมไข่อยู่ในเขตที่น้ำทะเลท่วมถึง ทางเจ้าหน้าที่าอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงทำการย้ายไข่ไปฟักต่อบริเวณชายหาดในเขตอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง

ต่อมา ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ได้เปิดเมื่อวันที่ (13 ม.ค.) ว่า ลูกเต่ามะเฟืองจากการวางไข่หลุมแรกใกล้จะออกมาชมโลกแล้ว หลังผ่านไปกว่า 60 วัน ซึ่งโดยปกติไข่จะฟักตัวออกมาไม่เกิน 65 วัน

ล่าสุดวันนี้ (16 ม.ค.) เพจ "Phuketandamannews" ได้ออกมาโพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพที่เผยให้เห็นเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง เปิดทางลงสู่ทะเลของหลุมฟักไข่เต่ามะเฟืองที่ครบกำหนดจะออกจากไข่ลืมตาดูโลก โดยวันที่ 17 มกราคมนี้จะครบกำหนดการฟักตัว 65 วัน หากไม่มีอะไรผิดพลาดตามที่นักวิชาการได้ประมาณการเอาไว้ ลูกเต่ามะเฟืองจะออกมาจากไข่อย่างแน่นอน


https://mgronline.com/onlinesection/.../9630000004945

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม