ดูแบบคำตอบเดียว
  #26  
เก่า 04-04-2011
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default


บทเรียนความพร้อมรับมือภัยพิบัติ



19 23 21 27 29….. ไม่ได้มาใบ้หวย แต่ตัวเลขทั้งหมดเป็นตัวเลขของอุณหภูมิที่เกิดขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา จนกลายเป็นเรื่องที่สร้างความฮือฮาให้กับเมืองไทยอยู่มิใช่น้อย กับสภาพอากาศที่แปรปรวนอย่างผิดปกติมาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมี.ค.54 ที่ผ่านมา วันหนึ่งมีถึงสามฤดู เช้ามืดมีฝนตกโปรยปราย สายหน่อยลมหนาวพัดโชย ช่วงบ่ายอากาศร้อนแดดแรงขึ้นมา ทำให้คนที่มีสุขภาพร่างกายอ่อนแอถึงกับล้มหมอนนอนเสื่อกันเลยทีเดียว ทั้งที่ประเทศไทยเราน่าจะเริ่มขยับเข้าสู่ฤดูร้อน เพราะใกล้เดือนเมษายนเต็มทน

สภาพอากาศจู่ๆ อุณหภูมิลดลงแบบเหลือเชื่อจนหลายจังหวัดเกิดอากาศหนาว เท่านั้นไม่พอยังเกิดพายุฝนกระหน่ำตกอย่างหนัก ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร ฝนถล่มช่วงเช้ามืดจนทำให้หลายพื้นที่มีน้ำขังเจิ่งนอง ส่งผลกระทบการจราจรกลายเป็นอัมพาตเกือบทั้งวัน หลังฝนซาจากเมืองกรุง

แต่ทางภาคใต้ กลับกลายไปเกิดพายุฝนตกหนัก ตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค. ทำให้หลายพื้นที่ในจังหวัดภาคใต้มีน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง และดินถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ จ.พัทลุง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล และนราธิวาส ฯลฯ สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานเนื่องมาจากความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีน แพร่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนส่งผลให้ลมตะวันออกพัดปกคุมอ่าวไทยและภาคใต้กำลังแรง

อย่างไรก็ดีตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค.เป็นต้นมา หลายจังหวัดทางใต้ยังมีตกอย่างลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 4 จังหวัด ที่ต้องกลายเป็นเมืองบาดาลและอีกหลายจังหวัดมีดินถล่ม ทำให้หลายพื้นที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ไล่ตั้งแต่ จ.พัทลุง นครศรีธรรมราช สุราษฏร์ธานี และชุมพร

แทบไม่มีใครคาดคิดว่า เดือนเมษายน !! บ่งบอกถึงฤดูร้อนเริ่มต้นได้เพียงไม่กี่วัน แต่บางจังหวัดในภาคใต้กลับมีฝนตกแบบไม่ลืมหูลืมตา จนทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน อย่างที่ จ.นครศรีธรรมราช น้ำป่าทะลักเข้าท่วมเมือง และท่าอากาศยานครศรีธรรมราช รวมไปถึงเส้นทางรถไฟบางช่วงต้องหยุดไปโดยปริยาย แถมยังมีเรื่องหวาดเสียวให้น่าตื่นเต้นเข้าอีก เพราะจระเข้ตัวเขื่องหลุดออกมาเพ่นพ่าน เส้นทางการจราจรหลายแห่งถูกตัดขาดแบบสิ้นเชิง

จากเดิมที่หลายคนเคยคาดการณ์ไว้ว่าเดือนเมษายนนี้จะลาพักร้อน เพื่อไปพักผ่อนกับครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามพื้นที่ท่องเที่ยว หมู่เกาะและชายหาดต่างๆ กลับต้องมาจมปลักอยู่ในห้องพักของโรงแรมด้วยสภาพฝนตกอย่างหนัก ไปท่องเที่ยวที่ไหนไม่ได้ หรือแย่ไปกว่านั้นต้องมาติดค้างที่เกาะต่างๆ เพราะคลื่นลมแรงเรือเล็กไม่สามารถเดินทางได้ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ยอดนิยมอย่างเกาะสมุย เกาะเต่า จังหวัดสุราษฏร์ธานี หรือแม้กระทั่งเขยิบขึ้นมาทางตอนบนอย่างจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่อำเภอหัวหินก็ตาม นอกจากนั้นหลายคนยังวิตกกังวลว่า “สงกรานต์” ปีนี้ถ้าสภาพอากาศยังแปรปรวนขนาดนี้ จะส่งผลกระทบต่อการเดินทางกลับบ้านอย่างแน่นอน

กรมอุตุนิยมวิทยารายงาน“สภาวะน้ำท่วมในภาคใต้” ระบุสาเหตุจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงยังคงปกคลุมบริเวณภาคใต้ตอนกลาง ทำให้มีฝนตกชุกหนาแน่นและหนักมากในหลายพื้นที่ จึงให้ระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก หลังจากนั้นปริมาณฝนตกหนักจะลดลง ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยและทะเลอันดามันสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือ เพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงนี้ไว้ด้วย

ในขณะที่ทางภาคใต้กำลังเกิดปัญหาอุทกภัยหนัก และก็เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดอีกเช่นกัน ช่วงเช้าวันที่ 29 มี.ค. อากาศในเมืองกรุงและอีกหลายพื้นที่ได้เย็นลงราวกับฤดูหนาว เมื่อตรวจสอบข้อมูลจากทางกรมอุตุนิยมวิทยา ยังระบุอีกว่า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และ ภาคตะวันออก มีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป อุณหภูมิจะลดลงอีก และมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิต่ำสุด 13-14 องศา อุณหภูมิสูงสุด 22-25 องศา เรียกว่าสภาพร่างกายของเด็กและผู้ใหญ่บางคนที่ปรับตัวไม่ทันมีอาการเป็นไข้ไอจามกันจำนวนมาก

คุณเคยคิดหรือไม่ว่ากรุงเทพจะมีอุณหภูมิที่ต่ำกว่าจังหวัดเชียงใหม่ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาหลายคนถึงกับอึ้งเมื่ออุณหภูมิที่กรุงเทพลดต่ำลงถึงขนาด 21 องศาเซลเซียสและเมื่อเดินทางขึ้นเครื่องบินเพื่อไปลงยังเชียงใหม่ เพียงแค่ลงสู่สนามบินอากาศร้อนจากภายนอกทำให้เรารู้สึกได้ทันทีว่าอุณหภูมิที่เชียงใหม่สูงกว่ากรุงเทพแน่นอน ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมาก น้อยมากที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น

หากนำบทเรียนเหตุการณ์ในช่วงที่เกิดในเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา เริ่มตั้งแต่ 11 มี.ค. เหตุแผ่นดินไหวนิวซีแลนด์ จีน ญี่ปุ่น พม่า และอากาศแปรปรวน ฝนตก น้ำท่วมในภาคใต้มาเป็นบทเรียน ทุกหน่วยงานที่มีส่วนรับผิดชอบในเรื่องนี้ ถึงเวลาหรือยังกับความเตรียมพร้อมรับมือในเรื่องภัยพิบัติต่างๆ หรือจะต้องรอให้ธรรมชาติเป็นฝ่ายเริ่มต้นลงมือกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งก่อน เราทั้งหลายถึงค่อยยื่นมือช่วย ทำตั้งแต่วันนี้เถอะ ถ้าไม่อยากที่จะสูญเสียไปมากกว่านี้ในวันข้างหน้า

ในเรื่องราวของภัยพิบัติธรรมชาติ ที่เปรียบสมือนเป็นการส่งสัญญานเตือนล่วงหน้าให้บรรดามวลมนุษยชาติได้รับรู้กันแล้ว ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ??.




จาก .................. เดลินิวส์ วันที่ 4 เมษายน 2554
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม