ชื่อกระทู้: โลกร้อน (3)
ดูแบบคำตอบเดียว
  #31  
เก่า 09-01-2010
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default


เหมือนโลกหนาว เพราะปมโลกร้อน!



สัปดาห์นี้ทั้งในกรุงเทพฯ และในอีกหลายจังหวัดของไทยเจอกับสายฝนหลงฤดู ทำเอาหลายท่านเกิดอาการมึนงงว่า "นี่มันฤดูอะไรกันแน่"

ส่วนในต่างประเทศ ทั้งเอเชีย ยุโรป และอเมริกา เช่น จีน อังกฤษ แคนาดา และสหรัฐบางส่วนที่ประสบกับภาวะหนาวจับขั้วหัวใจ ต่างพูดคุยถึงประเด็นความแปรปรวนของอากาศเพราะภาวะโลกร้อนหนาหูไม่แพ้กัน

โดยมีคำพูดเป็นมุขตลกว่า "ไหนว่าโลกร้อน ในเมื่อหนาวจะตายอยู่แล้ว"

คำชี้แจงด้านวิทยาศาสตร์จากบรรดานักวิชาการและนักอุตุนิยมวิทยาก็คือ อุณหภูมิโดยเฉลี่ยของอากาศทางซีกโลกเหนือเส้นศูนย์สูตรหลายพื้นที่มีแนวโน้มอุ่นมากขึ้น 5-10 องศาเซลเซียส เช่น ทวีปอลาสกาและแคนาดาเหนือ แม้อุณหภูมิเฉลี่ยของขั้วโลกเหนือยังยะเยือกอยู่ที่ -30 องศาเซลเซียส



ด้าน แอฟริกาเหนือและแถบเมดิเตอเรเนียนอุ่นขึ้นเฉลี่ยราว 10 องศาเซลเซียส ขณะที่ยุโรปทางเหนืออุ่นขึ้น 5 องศาเซลเซียส แต่ในบางพื้นที่กลับมีอุณหภูมิลดลงทำให้หนาวจัดขึ้น

นายสตีเฟน ดอร์ลิ่ง อาจารย์จากสำนักวิชาสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยอีสต์ แองเกลีย ประเทศอังกฤษ กล่าวว่า ตนไม่รู้สึกแปลกใจที่จะมีผู้คนหันมาตั้งคำถามกันเกี่ยวกับเรื่องวิกฤตโลกร้อนมากขึ้นในช่วงที่กำลังประสบกับภาวะอากาศหนาวจัดผิดปกติ แต่ไม่ควรนำเรื่องนี้มาตัดสินว่า โลกไม่ได้ร้อนขึ้น

เนื่องจากการที่อากาศหนาวจัดไม่ได้หมายความว่าปัญหาโลกร้อนกำลังลดลงหรือหมดไป

ต่อไปนี้ มนุษยชาติจะต้องประสบกับภาวะอากาศที่ร้อนและเย็นผิดปกติ ซึ่งจะชัดเจนที่สุดในระหว่างเดือนธันวาคมถึงมกราคม เป็นเพียงผลลัพธ์จากต้นเหตุที่แท้จริง

สถิติการบันทึกพบว่า อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกในทศวรรษที่ผ่านมานั้นสูงที่สุด โดยใน 3 ปีสุดท้ายนั้น หากเฉลี่ยต่อ 1 ปีจะสูงกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยในทศวรรษก่อนหน้านั้นอีกด้วย

ขณะที่การสำรวจในปีล่าสุดพบว่า โลกกำลังอุ่นขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง นายดอร์ลิ่งระบุว่าจะต้องมีการดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อหยุดยั้งแนวโน้มดังกล่าวของอุณหภูมิไม่ให้พุ่งสูงขึ้นเกินขีดอันตรายซึ่งจะทำให้เกิดผลกระทบที่ร้ายแรงอย่างมากต่อสภาพอากาศของโลก

เนื่องจากความกดอากาศสูงทำหน้าที่เสมือนกับกำแพงซึ่งตั้งขวางการเคลื่อนที่ของลม ทำให้ลมต้องพัดหนีไปทางอื่น ความกดอากาศสูงดังกล่าวพาดผ่านตั้งแต่ยุโรปตะวันออกไปจนถึงไซบีเรีย ทำให้ลมอุ่นจากมหาสมุทรแอตแลนติกทางตะวันตกของเกาะอังกฤษพัดเข้ามาไม่ได้ จึงต้องเผชิญกับอากาศหนาวจัดที่มาจากแถบขั้วโลกเหนือ

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้อุณหภูมิในสกอตแลนด์ดิ่งลงติดลบแม้ในเวลากลางวัน

อย่างไรก็ตามนักอุตุนิยมวิทยาคาดว่าอุณหภูมิของโลกจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งหิมะในฤดูหนาวของประเทศทางเหนือละลาย

ผนวกกับปรากฏการณ์เอล นิโน่ ในมหาสุทรแปซิฟิก ซึ่งจะส่งผลให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มสูงขึ้น



จาก : ข่าวสด คอลัมน์สกู๊ปพิเศษ วันที่ 9 มกราคม 2553
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม