ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 19-12-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,276
Default

ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า


'ลูกเต่ามะเฟือง'รังแรกชายหาดบางขวัญ? ลืมตาดูโลกแล้ว?!!



เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 (พังงา-ระนอง) ปฏิบัติงานเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เต่ามะเฟือง จ.พังงา ของศูนย์เฝ้าระวังฯ หาดบางขวัญ ได้ตรวจพบลูกเต่ามะเฟืองได้ฟักตัวและขึ้นมาบริเวณปากหลุมฟักไข่ที่ 1 เจ้าหน้าที่จึงได้นำลูกเต่าไปใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้? จำนวน 72 ตัว จากนั้นได้ปล่อยให้ลูกเต่าทั้งหมดคลานลงสู่ทะเลตามธรรมชาติทั้งหมด? ก่อนที่นักวิชาการจะทำการตรวจสอบหลุม โดยพบว่ามีลูกเต่ามะเฟืองรังแรกแข็งแรงดีมาก มีที่ฟักออกมา? จำนวน? 72 ฟอง? ไข่ที่ไม่ได้รับการผสม จำนวน 13 ฟอง? เป็นไข่ที่?ไม่ได้รับการพัฒนา? จำนวน 19 ฟอง? และไข่ลม? 10? ฟอง? รวมทั้งสิน? จำนวน? 114? ฟอง



ด้าน ดร.ก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน กล่าวว่า ในวันนี้มีลูกเต่าขึ้นมาจากหลุม จำนวน 49 ตัว และไม่สามารถขึ้นมาจากหลุมได้ จำนวน 8 ตัว ส่วนที่เหลือเป็นไข่ที่ไม่มีการผสม โดยพบอัตราการฟักอยู่ที่ 63?% โดยเต่าหลุมนี้ขึ้นมาวางไข่เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยใช้ระยะเวลาฟักจำนวน 58 วัน

ส่วนหาเหตุที่ไม่ทำการอนุบาลลูกเต่าก่อนจะทำการปล่อยลงสู่ทะเลนั้น สืบเนื่องจากผลการทดลองอนุบาลและเพาะฟักทั่วโลกยังไม่มีใครทำสำเร็จ เนื่องจากพฤติกรรมการกินอาหาร หรือพฤติกรรมการว่ายน้ำ ประกอบกับเต่ามะเฟืองเป็นสัตว์ที่มีหนังหุ้มเกร็ดจึงทำให้ง่ายต่อการเสียชีวิต ซึ่งหากเทียบกับการปล่อยลงสู่ธรรมชาติจะทำให้ลูกเต่ามีโอกาสรอดสูงส่วนหลุมฟักที่ 2 คาดว่าจะอีกไม่เกิน 10 วัน ลูกเต่าจะเริ่มคลานออกมาจากหลุม ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะทำการปรับพื้นที่เพื่อให้ลูกเต่าที่เกิดสามารถคลานกลับลงสู่ทะเลด้วยตัวเอง


https://www.naewna.com/local/539646


*********************************************************************************************************************************************************


จับแล้ว! 'ต้นเรือสปีดโบ๊ท-ไกด์นำเที่ยว'ทิ้งสมอ สร้างความเสียหายแนวปะการัง

จับแล้ว! "ต้นเรือสปีดโบ๊ท-ไกด์นำเที่ยว"ทิ้งสมอ สร้างความเสียหายแนวปะการัง ที่เพาะปลูกในเขตอุทยานฯพีพี ถูกแจ้ง2ข้อหา



จากกรณี ดร.นลินี ทองแถม นักวิชาการศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน (ภูเก็ต) โพสต์เฟซบุ๊ก Nalinee Thongtham ว่าเรือเข้ามาทิ้งสมอในแนวปะการังอุทยานพีพีอีก ขนาดอุทยานฯ กั้นทุ่นราวไว้ น้ำก็ใส และตื้นเห็นปะการังชัด และปะการังที่เสียหายเป็นปะการังที่อาสาสมัครพยายามฟื้นฟู หลังจากที่ปะการังธรรมชาติแถวนี้ฟอกขาวตายเกือบหมด ต้องใช้แรงงานอาสาสมัครในการอนุบาล ดูแล ย้ายปลูกจากกิ่งที่เล็กกว่านิ้วก้อย ใช้เวลารวมแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ปี กำลังขึ้นสวยเต็มพื้นที่ แต่ก็ถูกผู้ประกอบการที่เห็นแก่ตัวทำลายในเวลาแค่ไม่กี่วินาที เมื่อไหร่คนพวกนี้จะถูกลงโทษให้เข็ดหลาบ ทั้งในแง่กฎหมายและกฎของสังคม พยาน หลักฐานมี ฝากผู้เกี่ยวข้องพิจารณาด้วย

ขณะที่ ดร.ธรณ์ ธำรงค์นาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ทีมงานอนุรักษ์ปะการังที่เกาะพีพีแจ้งข่าวมา มีเรือทิ้งสมอทำให้ปะการังที่ปลูกไว้แตกหักเสียหาย เรือยังฝ่าทุ่นกั้นเขตห้ามเข้าที่หาดด้วย การกระทำดังกล่าว น่าจะมีความผิดตามนี้ 1.ทำอันตรายต่อปะการังที่เป็นสัตว์คุ้มครอง มีบทลงโทษตามพ.รบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2.ฝ่าฝืนระเบียบอุทยาน นำเรือเข้าไปในสถานที่ห้ามเข้า และยังอาจมีข้ออื่นๆ อีก เช่น คนเรือขออนุญาตถูกต้องหรือเปล่า

ทั้งนี้ ดร.ธรณ์ ระบุว่า เพิ่งโพสต์เรื่องการลงโทษที่เกาะพงัน หวังว่าคงตรวจสอบติดตามด้วยมาตรฐานเดียวกัน และอันที่จริงควรมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะที่นี่เป็นอุทยาน และมีภาพปะการังหักชัดเจนทางอุทยานทราบแล้ว และคงรีบดำเนินการ พรุ่งนี้ผมเข้าพบท่านอธิบดีกรมอุทยาน จะรายงานท่านอีกครั้งแต่เชื่อมือหัวหน้าพีพีคนใหม่ จะจัดการได้อย่างรวดเร็วและเรียบร้อย ดังที่ท่าน รมต.ประกาศอยู่เสมอ เราจะไม่ยอมให้การท่องเที่ยวทำร้ายทะเล

ล่าสุดวันนี้ (18 ธ.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ สามารถติดตามเรือสปีดโบ๊ทได้แล้ว พบว่าเป็นเรือนำเที่ยวจาก จ.ภูเก็ต พร้อมจับกุม นายพิชิตชัย ใจเหล็ก กัปตันเรือ และนายพีรพัฒน์ มีปลอด ไกด์นำเที่ยวประจำเรือ เป็นชาวภูเก็ตทั้งคู่ โดยแจ้งข้อกล่าวหากระทำผิด พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา19 (2) ทำอันตรายต่อระบบนิเวศ และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าหน้าที่ ตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 12 ห้ามมิให้ผู้ใดล่าสัตว์ป่าสงวน หรือสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยเตรียมดำน้ำตรวจสอบความเสียหายของแนวปะการัง

นายประยูร พงศ์พันธ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี กล่าวว่า สั่งการให้เจ้าหน้า ที่ลาดตระเวนตรวจสอบ ป้องกันการฝ่าฝืน พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ ทั้งการลักลอบทำประมง การทิ้งสมอเรือในจุดห้ามจอดเรือ

ก่อนหน้านี้ นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า การกระทำของเรือนำเที่ยวดังกล่าวเข้าข่ายมีความผิดชัดเจน เพราะปะการังถือเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองภายใต้ พ.ร.บ.ฉบับนี้ การทำให้ปะการังเกิดความเสียหาย ทั้งการจับ ดัก ล่อทำลายถือว่ามีความผิด ซึ่งเรื่องนี้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กำชับให้ดำเนินคดีกับผู้ที่ทำผิดอย่างถึงที่สุด


https://www.naewna.com/local/539644

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม