ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 13-11-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก GREENPEACE


ภูเขาใต้ทะเล เศษอวน และหนทางเพื่อปกป้องมหาสมุทร ................... โดย Nichanan Tanthanawit

ผ่านมาแล้วเป็นเวลากว่า 7 เดือน ที่เรือเอสเพอรันซา ของกรีนพีซได้ออกเดินทางสำรวจพื้นที่ในมหาสมุทรเรื่อยมาตั้งแต่ทวีปอาร์กติกที่อยู่เหนือสุด ไปจนถึงทวีปแอนตาร์กติกที่อยู่ใต้สุด เพื่อสำรวจและเก็บรวบรวมข้อมูล หลักฐานของผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากมนุษย์ เพื่อมาใช้สนับสนุนข้อเสนอให้องค์การสหประชาชาติรับรองสนธิสัญญาทะเลหลวง (Global Ocean Treaty) ปัจจุบัน เรือเอสเพอรันซาได้เดินทางมาถึง บริเวณเขตภูเขาใต้ทะเลวีมา (Vema Seamouth) ใกล้กับเมืองเคปทาวน์ ของประเทศแอฟริกาใต้


จาก "ความบังเอิญ" สู่การค้นพบแหล่งอาหารจานเด็ด

พื้นที่เขตภูเขาใต้ทะเลวีมาถูกค้นพบโดยบังเอิญระหว่างการสำรวจหาสายธารแหล่งแร่เพชรในทะเล แม้ว่าจะต้องผิดหวังเพราะไม่พบแร่เพชรตามที่ตั้งเป้าไว้ แต่นักสำรวจก็ไม่ได้กลับบ้านมือเปล่า เพราะนักสำรวจได้พบกับแหล่งที่อยู่ของกุ้งร็อคล็อบสเตอร์ (Tristan Rock Lobster) ซึ่งเป็นกุ้งที่สามารถพบได้เฉพาะบริเวณนี้เท่านั้น กุ้งร็อคล็อบสเตอร์ ถือเป็นอาหารจานโปรดของบรรดาคนรักอาหารทะเล และมีราคาขายที่แพง ส่งผลให้มีการทำประมงอย่างหนักเพื่อจับกุ้งชนิดนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของของผู้บริโภค จนทำให้จำนวนประชากรกุ้งร็อคล็อบสเตอร์ลดลงอย่างรวดเร็ว และยังคงไม่ฟื้นตัวจนถึงทุกวันนี้


กุ้งร็อคล็อบสเตอร์ (Tristan Rock Lobster) ซึ่งเป็นกุ้งที่สามารถพบได้เฉพาะบริเวณภูเขาใต้ทะเลเท่านั้น ? Richard Barnden / Greenpeace

ขณะที่ ตัวภูเขาใต้ทะเลวีมา สันนิษฐานว่าค้นพบเมื่อปี พ.ศ. 2500 โดยเรือวิจัยทางสมุทรศาสตร์ที่ภายหลังนำมาใช้ตั้งเป็นชื่อของภูเขาแห่งนี้ จากข้อมูลทางภูมิศาสตร์ระบุว่า ภูเขาใต้ทะเลวีมามีความสูงจากพื้นมหาสมุทรถึงปากปล่องที่ 4,600 เมตร สูงกว่าภูเขารูปโต๊ะ (The Table Mountain) ซึ่งเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลกยุคใหม่ที่ตั้งอยู่ในประเทศแอฟริกาถึง 4-5 เท่า หรือเท่ากับต้องนำยีราฟ 767 ตัวมาต่อตัวซ้อนกันถึงจะสูงเท่ากับยอดของภูเขาใต้ทะเลวีมาเลยทีเดียว นอกจากนี้ จากลักษณะระบบนิเวศที่ซับซ้อนของภูเขาใต้ทะเลวีมา ที่อุดมไปด้วยสารอาหารชั้นดีสำหรับสัตว์ทะเลยังดึงดูดสัตว์น้ำชนิดอื่นๆ ให้มายังเขตภูเขาใต้ทะเล เพื่อหาอาหาร หรืออพยพมาเพื่อให้กำเนิดสัตว์น้ำรุ่นต่อไปจำนวนมาก นับตั้งแต่กุ้งร็อคล็อบสเตอร์ที่กล่าวมาข้างต้น ไปจนถึงฉลาม เต่า และวาฬขนาดใหญ่


นักประดาน้ำกำลังสำรวจบริเวณยอดภูเขาใต้ทะเลซึ่งปกคลุมไปด้วยสาหร่าย ฟองน้ำ และปะการังวัยอ่อน ? Richard Barnden / Greenpeace


เศษอวน "ฆาตกรร้าย" จากความมักง่าย

ในท่ามกลางความพิเศษและอุดมสมบูรณ์ของเขตภูเขาใต้ทะเลวีมาที่ดึงดูดสิ่งมีชีวิตหลากหลายสายพันธุ์ให้เข้ามา ยังรวมถึงมนุษย์และเรือจำนวนมากที่เข้ามาทำประมงในน่านน้ำแห่งนี้ ผลสืบเนื่องที่ตามมานอกเหนือจากปริมาณสัตว์น้ำที่ลดลงก็คือ เศษซวกอวน (ghost gear) ที่ถูกทิ้งจากเรือประมง โดยบางส่วนลอยออกสู่ทะเลเปิด และพันเข้ากับสัตว์ทะเล เช่น วาฬ เต่า หรือสัตว์น้ำขนาดใหญ่ คร่าชีวิตสัตว์หายากจำนวนมากให้ยิ่งลดจำนวนเหลือน้อยลงเรื่อยๆ


เศษอวนที่พบบริเวณแพขยะในมหาสมุทรแปซิฟิก ? Justin Hofman / Greenpeace

เศษอวนที่มีซากสัตว์ถ่วงอยู่นั้นจะจมลงสู่พื้นทะเล ก่อนจะลอยกลับขึ้นมาใหม่หลังสัตว์กินซากกำจัดซากสัตว์ออกจากเศษอวน วนลูปการทำลายล้างอยู่อย่างนี้และในหลายครั้ง เศษอวนยังสร้างความเสียหายให้กับแนวประการังที่เป็นที่อยู่อาศัย และอนุบาลปลาวัยอ่อนอีกด้วย

จากการสำรวจพบว่า ในแต่ละปีมีสัตว์ทะเลเสียชีวิตเพราะติดเศษอวนมากกว่า 100,000 ตัว และประเมินว่ามีเศษอวนลอยอยู่ในทะเลมากถึง 600,00- 800,000 เมตริกตัน หรือใหญ่เท่ากับสนามฟุตบอลหนึ่งเลยทีเดียว ในประเทศไทยเอง ในปีนี้ ก็มีสัตว์ทะเลหลายชนิดที่ต้องจบชีวิตลงเพราะเป็นเหยื่อของเศษอวนเช่นกัน เช่น กรณีของลูกพะยูนมาเรียมและยามีล

นอกจากนี้ เศษอวนยังใช้เวลาย่อยสลายนานถึง 600 ปี และจะปล่อยไมโครพลาสติกออกมาปนเปื้อนขยะย่อยสลาย ซึ่งสุดท้ายจะกลับเข้าไปสะสมอยู่ในตัวปลาขนาดเล็ก ที่มนุษย์นิยมนำมาบริโภคกัน


"สนธิสัญญาทะเลหลวง" การต่อสู้เพื่อปกป้องมหาสมุทรของเรา

เช่นเดียวกับแหล่งทรัพยากรทางทะเลหลายแห่งในโลก เขตภูเขาใต้ทะเลวีมานั้นตั้งอยู่พื้นที่ทะเลหลวง (High Sea) หมายถึงส่วนทั้งหมดของทะเลที่มีอยู่นั้น ไม่อยู่ภายใต้สิทธิอธิปไตยของรัฐหนึ่งรัฐใดโดยเฉพาะ ข้อดีของพื้นที่ทะเลหลวงคือ ทุกรัฐมีเสรีภาพในการใช้ทะเลหลวง เพื่อการเดินเรือ การบิน การประมง การสร้างและติดตั้งอื่นๆ รวมถึงการค้นคว้าวิจัยทางวิทยาศาสตร์ แต่ในอีกด้านหนึ่งนั้น ก็ทำให้ยากต่อการปกป้องและอนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมทางทะเล เพราะยังมีช่องว่างทางกฎหมาย ทั้งด้านกายภาพและเขตอำนาจของรัฐชายฝั่ง ซึ่งเอื้อให้กลุ่มอุตสาหกรรมทำลายล้าง เช่น กลุ่มที่ทำเหมืองแร่ในทะเล และกลุ่มอุตสาหกรรมประมงขนาดใหญ่นำมาใช้เป็นข้ออ้าง เพื่อเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ในพื้นที่


รูปปั้นรูปวาฬและเต่าถูกจัดแสดงบริเวณสำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ เพื่อแสดงให้เห็นถึงภ้ยคุกคามของอุตสาหกรรมการประมง ? Stephanie Keith / Greenpeace

สนธิสัญญาทะเลหลวง (Global Ocean Treaty) เป็นประเด็นที่กรีนพีซ ร่วมกับนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลกร่วมกันขับเคลื่อน เพื่อเสนอให้องค์การสหประชาชาติประกาศรับรองการสร้างเขตปกป้องมหาสมุทรให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 30 จากพื้นที่มหาสมุทรทั้งหมด โดยตั้งเป้าหมายให้ครอบคลุมพื้นที่ดังกล่าวภายในปี พ.ศ. 2573 เพื่อหยุดยั้งและปกป้องระบบนิเวศที่มีลักษณะพิเศษเช่น ภูเขาใต้ะทะเลวีมา และในที่อื่นๆ ให้ไม่ถูกทำลาย และเสียหายไปมากกว่าที่กำลังเผชิญในปัจจุบัน ซึ่งล่าสุดเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีประชุมหารือในประเด็นสนธิสัญญาทะเลหลวง ณ สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ ที่กรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ถึงความเป็นไปได้ในการกำหนดเขตคุ้มครองระบบนิเวศทางทะเลในมหาสมุทร เป็นครั้งที่ 3 แล้ว


https://www.greenpeace.org/thailand/...gear-seamount/

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม