ดูแบบคำตอบเดียว
  #13  
เก่า 25-01-2010
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default


สึนามิครั้งใหม่! คำพยากรณ์ที่ต้องรับฟัง



พลันที่คำทำนายของ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช อดีตผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันภัยพิบัติ พรั่งพรูสู่สาธารณะ บอกกล่าวให้คนทั้งประเทศรับรู้ว่า มหันตภัยคลื่นยักษ์สึนามิจะบังเกิดขึ้นอีกครั้งในชายฝั่งอันดามันของไทย ด้วยระดับความรุนแรงที่เลวร้ายกว่าเมื่อครั้งที่เกิดขึ้นในวันที่ 26 ธันวาคม ปี 2547 อย่างเทียบกันไม่ติดนั้น

ภาพความสูญเสียของชีวิตนับไม่ถ้วนที่ถูกคลื่นยักษ์สึนามิพรากลมหายใจไปโดยไม่ทันตั้งตัว ก็กลับมาฉายชัดย้ำเตือนคนไทยทั้งประเทศอีกครั้ง พร้อมคำถามจากประชาชนที่มีต่อประสิทธิภาพของทุ่นเตือนภัย ซึ่งเกิดปัญหาแบตเตอรี่หมด กลายเป็นสิ่งไร้ประโยชน์ลอยเท้งเต้งอยู่กลางทะเล ซึ่งนับเป็นภาพที่ชวนสลดสังเวชไม่น้อย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคลื่นยักษ์สึนามิครั้งใหม่กำลังก่อตัวขึ้นจริงตามคำทำนาย


พยากรณ์คลื่นยักษ์ถล่มไทย



“สำหรับดวงเมืองของประเทศไทยในปี 2553 นี้ ถ้าดูจากการทำมุมตรึงกันของหมู่ดวงดาว ก็เป็นไปได้ที่เรื่องของอุบัติภัยนั้นย่อมเกิดขึ้นและเกิดอย่างรุนแรงด้วย”

ใช่เพียงการทำนายจากนักวิชาการในแวดวงวิทยาศาสตร์และธรณีวิทยา ถึงการเกิดคลื่นยักษ์สึนามิครั้งใหม่ แต่คำทำนายทายทักจาก ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ที่บอกกล่าวให้ทราบถึงดวงชะตาเมืองก็นับว่าสอดคล้องกันอย่างน่าตระหนก ก่อนโหรคนเดิมอธิบายเพิ่มเติมว่า อุบัติภัยร้ายแรงนั้น เกิดจากอิทธิพลของอุปราคาหรือการที่ดาวพระเคราะห์เรียงบังกัน

“โดยเฉพาะดาวพฤหัสบดีกับดาวเสาร์ ซึ่งเป็นดาวแห่งการเปลี่ยนแปลง หากดาวคู่นี้เล็งกันก็จะเกิดความโกลาหล เพราะฉะนั้นเรื่องของแผ่นดินไหวหรืออะไรต่างๆ จึงมักจะเกิดในช่วงที่ดาวพฤหัสบดีกับเสาร์ทำมุมเล็งกัน

เพราะฉะนั้นมันก็เป็นไปได้ที่ปี 2553 นี้ มันก็จะเกิดอุบัติภัยแรงๆหลายครั้ง ”

ภิญโญบอกว่า ส่วนใหญ่แล้วจะตรงกับวันพระจันทร์เต็มดวง และเป็นช่วงที่ใกล้เคียงกับการเกิดอุปราคา

“อย่างในปีนี้ จะมีอุปราคาเกิดขึ้นในวันที่ 26 มิถุนายน ระวังไว้ ตอนช่วงนั้นเป็นช่วงที่อาจจะเกิดอุบัติภัยได้ ผมบอกเป็นวันเลย หรืออาจจะเกิดขึ้นก่อนหรือหลังก็ได้ และวันที่ 19-20-21 กรกฎาคม ตอนช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม ต้องระวังให้มาก ด้วยเหตุที่ดาวอังคารไปกุมกับดาวเสาร์ ในช่วงกลางเดือน หรือมันอาจจะครอบคลุมไปถึงช่วงกลางสิงหาคมถึงต้นกันยายน”

หลังจากทราบถึงดวงชะตาเมืองที่สอดคล้องกับคำทำนายทายทักของ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ซึ่งออกมาเผยว่า เห็นด้วยกับคำทำนายของกลุ่มนักวิชาการแห่งสถาบันวิจัยนิเวศวิทยาแห่งมหา วิทยาลัยอัลส์เตอร์ ไอร์แลนด์เหนือ ที่ส่งคำเตือนมาว่า อาจจะเกิดคลื่นยักษ์สึนามิครั้งใหญ่ขึ้นในประเทศไทย ซึ่งมีระดับความรุนแรงที่มากกว่าเมื่อปี 2547

โดยสึนามิครั้งใหม่นี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่บริเวณเกาะสุมาตรา ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้

ครั้นสอบถามไปยัง ดร.สมิทธ ธรรมสโรช อดีตผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เราก็ได้รับคำตอบว่า

“ผมแค่กล่าวว่า เห็นด้วยกับคำเตือนของศาสตราจารย์สถาบันวิจัยนิเวศวิทยาแห่งมหาวิยาลัยอัลส์เตอร์ ไอร์แลนด์เหนือ ที่ว่าจะเกิดสึนามิในประเทศไทยขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากว่าเปลือกโลกจุดเดิมยังมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนตัวได้อีก” ซึ่งหากเกิดการเคลื่อนตัวของรอยเลื่อนอีกครั้งหนึ่ง ประเทศไทยจะต้องเสียหายมากกว่าเดิม

ส่วนแนวทางการป้องกันนั้น อดีตผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติกล่าวว่า

“ไม่มีใครสามารถหยุดธรรมชาติได้ สิ่งที่เราทำได้มีเพียงแต่การเตรียมพร้อมรับมือให้ดีที่สุด เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา กรมอุตุฯ เพิ่งโทร.มาหาผม ว่าไม่ควรพูดแบบนี้ เพราะจะทำให้ประชาชนเกิดความตระหนก แต่ผมไม่ได้พูดอะไร ผมแค่บอกว่า ผมสนับสนุนงานวิจัยของไอร์แลนด์เหนือ และทางกรมอุตุฯ ก็ออกมาบอกกับผมว่า ทางกรมนั้นมีการทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ถ้าเกิดเหตุขึ้นอย่างไรก็สามารถเตรียมการรับมือได้ ซึ่งผมคิดว่ามันไม่ทันการหากว่าไม่ระวังตัว คราวที่แล้วกรมอุตุก็ออกมาบอกแบบนี้ แล้วเป็นไง”

หลังจากตั้งถามอย่างตรงไปตรงมาแล้ว ดร.สมิทธก็ย้ำทิ้งท้ายว่า ประเทศไทยต้องมีระบบเตือนภัยที่ดี ซึ่งจะช่วยยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ แต่ทว่า

“ผมได้ยินมาว่า คนในพื้นที่บอกว่าทุ่นเตือนภัยก็แบตฯหมด หอเตือนภัยก็ใช้การได้ไม่หมด ทั้งนี้ ผมคงพูดอะไรไม่ได้มาก เพราะโดนรัฐเขาฟ้องอยู่ ข้อหาหมิ่นประมาท”


รวมพลังต้านคลื่นลม

ไม่ว่าใครจะทำนายทายทักว่าคลื่นยักษ์กำลังจะมา หรือออกแรงคัดค้านว่าคลื่นยักษ์คงไม่เกิดขึ้นจริง แต่ความจริงประการหนึ่งก็คือ ในคราวที่สึนามิมาเยือนทะเลอันดามันของไทยเมื่อปลายปี 2547 พื้นที่ตำบลบางม่วง อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ถือเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ได้รับความเสียหายไม่น้อย และนั่นเองเป็นเหตุผลที่ทำให้ชาวบ้านที่นั่น เป็นกลุ่มคนที่ 'พร้อมที่สุด' ที่จะเผชิญกับสึนามิในครั้งต่อไป

ดังคำบอกกล่าวของ ชัยณรงค์ มหาแร่ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ที่เอ่ยว่า

“สิ่งที่เราทำได้เพียงอย่างเดียว ถ้าหากจะมีการเกิดสึนามิก็คือ เราต้องอพยพให้ทัน ซึ่งจากที่เตรียมการมา คือหลังจากได้รับข่าวแล้ว เราจะใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที นำเอาคนออกจากพื้นที่ให้ได้ทั้งหมด ในคราวที่แล้วที่เกิดสึนามิมีชาวบ้านหลายคนอพยพไม่ทัน เพราะหวังจะเก็บของมีค่าออกมากับตัวด้วย แต่จะไม่เป็นอย่างนั้นอีกแล้ว เรามีการเตรียมความพร้อมเป็นอย่างดี”

ชัยณรงค์ยืนยันว่า ชาวบ้านในตำบลบางม่วงได้มีการเตรียมความพร้อมกันทุกปีอยู่แล้ว โดยตั้งงบประมาณไว้ส่วนหนึ่งเพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะ เช่น มีการซ้อมแผนอพยพปีละสองครั้ง ซึ่งชัยณรงค์บอกว่า อปพร. (อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน) ในพื้นที่ตำบลบางม่วงนั้นมีความเข้มแข็งมาก



“ตอนนี้เราไม่สามารถหวังพึ่งเครื่องเตือนภัยได้ เพราะที่ผ่านมาเคยมีการทดลองใช้แล้วปรากฏว่า มันไม่ดัง แต่ตอนที่ไม่ได้ทดลองมันเกิดดังขึ้นมา จนชาวบ้านไม่ได้คาดหวังแล้ว ตอนนี้ก็ต้องพึ่งตัวเองโดยการสังเกตธรรมชาติ เช่น ถ้าน้ำทะเลแห้งเร็วกว่าปกติก็คิดได้ว่าจะมีสึนามิมา

“ถามว่าเรากลัวหรือไม่ ก็ต้องบอกว่าทุกคนคงกลัวหมด แต่ขั้นแรกต้องเข้าใจก่อนว่า ภัยธรรมชาตินั้น เราไม่สามารถห้ามไม่ให้มันเกิดได้ แต่ถ้ามันเกิดแล้ว ก็ต้องมีแผนป้องกันตัวที่ดี ให้ได้รับความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินน้อยที่สุด และสิ่งที่จะบอกเราว่า จะมีสึนามิมา นอกจากการสังเกตโดยชาวบ้านแล้ว เครื่องเตือนภัยที่ใช้การได้ก็จะเป็นสิ่งที่บอกเราอีกทางหนึ่ง”

เป็นความเห็นที่คล้ายจะสวนทางกับสภาพความเป็นจริงของหอเตือนภัยที่ใช้การไม่ได้ รวมถึงเครื่องเตือนภัยที่แบตเตอรี่หมด ทำให้ลอยเท้งเต้งอยู่บนผิวน้ำอย่างไร้ความหมาย

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม