ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 11-03-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,253
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


เจออีกเพียบ! ปรากฏการณ์ ?เรือลอยได้? กลางทะเล ล่าสุดเป็นเรือสำราญยักษ์



พบอีกภาพประหลาด เรือสำราญขนาดใหญ่ เหมือนลอยอยู่กลางอากาศนอกชายฝั่งสหราชอาณาจักร ปรากฏการณ์หาดูได้ยากที่เรียกว่า ภาพหลอกตา (Optical illusion) ทว่าเริ่มเกิดขึ้นบ่อยครั้งในระยะหลัง

ในภาพล่าสุดนี้ เป็นภาพเรือสำราญขนาดใหญ่ลำหนึ่ง "กำลังลอยอยู่กลางอากาศ" บริเวณ Lyme Bay ระหว่างมณฑลเดวอน กับมณฑลดอร์เซ็ต สหราชอาณาจักร ซึ่งชัดเจนว่า มันมีต้นตอจากภาพหลอกตา

เดฟ เมดล็อค พบเห็นเรือดังกล่าวตอนที่เขาจูงสุนัขออกไปเดินเล่นเมื่อวันเสาร์ (6 มี.ค.) ?มันเป็นบางอย่างที่ดูเหมือนมาจากหนังเจาะเวลาหาอดีต (Back to the Future) แต่ผมรู้ว่ามันเป็นรูปแบบพิเศษบางอย่างของปรากฏการณ์ภาพลวงตา (mirage)

แม้ดูเหมือนเรือกำลังลอยอยู่กลางอากาศ แต่ความจริงแล้วมันยังคงอยู่ในน้ำ โดยที่เห็นว่ามันลอยค้างอยู่นั้น สืบเนื่องจากปรากฏการณ์ที่เรียกว่า superior mirage (ภาพลวงตาที่เกิดขึ้นเหนือวัตถุจริง )

mirage เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากการหักเหของแสงในชั้นบรรยากาศต่างๆ เนื่องจากความหนาแน่นของชั้นอากาศต่างๆ ไม่เท่ากัน ทำให้ภาพที่ปรากฏออกมาอยู่เหนือกว่าตำแหน่งที่แท้จริง ซึ่งในกรณีทำให้เรือสำราญ P&O ดูเหมือนกำลังลอยอยู่

เรือสำราญ P&O เป็นหนึ่งในเรือหลายลำ ที่มีผู้พบเห็นลอยอยู่กลางอากาศในทะเล ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เดวิด มอร์ริส พบเห็นเรือขนาดใหญ่ลำหนึ่งเหมือนลอยอยู่กลางอากาศ ระหว่างเดินทางตามแนวชายฝั่งคอร์นิช ใกล้เมืองฟัลเมาท์ มณฑลคอร์นวอลล์ สหราชอาณาจักร เช่นกัน

มอร์ริส บอกว่า เขาถึงกับตกตะลึงหลังเห็นภาพดังกล่าวระหว่างออกไปเดินเล่นริมทะเล เลยตัดสินใจถ่ายรูปเอาไว้ และนำมาโพสต์ลงในโลกออนไลน์จนเกิดเป็นกระแสไวรัล

ผู้คนบนสื่อสังคมออนไลน์ต่างตั้งข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับภาพถ่ายดังกล่าว บ้างก็เชื่อว่า อาจจะเป็นภาพตัดต่อ บางส่วนสันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากปรากฏการณ์ภาพลวงตาอะไรสักอย่าง หรือถึงขั้นบอกว่าเป็นยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาวก็มี

ก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน ก็มีคนพบเห็นเรือสำราญหลายลำลอยอยู่เหนือน่านน้ำนอกชายฝั่งเมืองเพย์นตัน มณฑลเดวอน

นอกจากนี้แล้ว คอลิน แม็คคัลลัม พบเห็นเรือสีแดงขนาดใหญ่ลอยได้ อยู่บนเส้นขอบฟ้า ขณะที่เขาเดินทางผ่านเมืองแบนฟ์ อะเบอร์ดีนเชียร์

"ตอนที่ผมเห็นเรือครั้งแรก ผมจำเป็นต้องมองมันอีกรอบ เพราะคิดจริงๆ ว่ามันกำลังลอยอยู่" เขากล่าว "อย่างไรก็ตาม พอสังเกตเพิ่มเติม ผมสังเกตเห็นว่าข้อเท็จจริงคือมันเป็นแค่ภาพหลอกตาเท่านั้น"

แม้ปรากฏการณ์นี้สามารถเกิดขึ้นได้บนบก แต่ส่วนใหญ่แล้วมักพบเห็นในทะเลมากกว่า เนื่องจากน้ำทะเลช่วยให้เกิดการก่อตัวของชั้นอากาศเย็น

โฆษกรายหนึ่งของสำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งสหราชอาณาจักร ให้ความเห็นเกี่ยวกับภาพที่พบเห็นในคอร์นวอลล์ ว่า "ภาพเหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นหลักฐานของปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Fata Morgana"

"มันเป็นรูปแบบหนึ่งของภาพลวงตาที่หายากมากๆ และซับซ้อนอย่างมาก ซึ่งบืดเบือนทั้งแนวตั้งและแนวนอน กลับหัวกลับหางและเปลี่ยนแปลงระดับความสูงของวัตถุต่างๆ? โฆษกระบุ ?ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเหนือผิวน้ำ และเกิดขึ้นจากการทับซ้อนกันของชั้นบรรยากาศหลายชั้นที่มีการหักเหของแสงต่างกัน"


https://mgronline.com/around/detail/9640000023109


*********************************************************************************************************************************************************


พบซาก "เต่าตนุ" ถูกคลื่นซัดเกยหาดหัวไทร ปัญหาก้อนน้ำมันทะลักยังไร้คำตอบ

นครศรีธรรมราช - ก้อนน้ำมันลึกลับยังทะลักเกยหาดหัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ล่าสุด วันนี้พบซาก "เต่าตนุ" สัตว์ทะเลลอยตาย ชาวบ้านสุดเอือมเป็นปัญหาซ้ำซากทุกปี แต่ยังไร้คำตอบของต้นตอที่มา



วันนี้ (10 มี.ค.) สภาพพื้นที่ชายหาดทรายในท้องที่หมู่ 3 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช เต็มไปด้วยก้อนน้ำมันจำนวนมากที่ถูกคลื่นซัดมาเกยหาดทราย หลังจากที่เริ่มถูกความร้อนจากแสงแดด ก้อนน้ำมันเหล่านี้จะเริ่มละลายกลายเป็นของเหลวข้นเหนียวสีดำสนิท จากนั้นจะค่อยๆ ซึมจมลงไปในทรายจนกลายเป็นสีดำ โดยลักษณะของก้อนน้ำมันยังคงถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกยหาดอย่างต่อเนื่องเป็นระยะทางยาวหลายกิโลเมตร ขณะที่ชาวบ้านแจ้งว่า ก้อนน้ำมันเริ่มถูกซัดเข้าหาฝั่งเมื่อ 3 วันก่อน และเพิ่มปริมาณมากขึ้นจนถึงวันนี้ โดยคาดว่าจะมีต่อไปอีกไม่น้อยกว่า 1 สัปดาห์

ชาวประมงพื้นบ้านในย่านนี้รายหนึ่งบอกว่า ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมหาดบริเวณ ต.หน้าสตน เหมือนกับถูกทอดทิ้ง ไร้การเหลียวแล ปัญหาก้อนน้ำมันเช่นนี้มีเป็นประจำทุกปี เมื่อเป็นข่าวถูกเผยแพร่ขึ้นมาเจ้าหน้าที่จะเข้าเก็บตัวอย่าง อ้างว่านำไปตรวจสอบที่มาของก้อนน้ำมัน หลังจากเรื่องเงียบก็จะหายไปเหมือนเดิม ชาวบ้านต้องเผชิญกับก้อนน้ำมันเช่นนี้มาอย่างน้อย 10 ปี ไม่เคยได้รับคำตอบว่าก้อนน้ำมันมาจากที่ไหน แม้จะเก็บตัวอย่างไปทุกปีแล้วก็ตาม แต่หากพิจารณาโดยหลักแล้ว น้ำมันจำนวนมหาศาลเช่นนี้มาได้เพียง 2 ทาง คือจากแท่นขุดเจาะ และเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่เท่านั้น ซึ่งเป็นการกระทำโดยมนุษย์แน่นอน ไม่มีทางที่ผู้เกี่ยวข้องจะหาต้นตอไม่เจอ เพียงแต่ไม่ดำเนินการ หรือรู้ว่ามาจากที่ใด แต่ไม่เปิดเผยเท่านั้นเอง



นอกจากนั้น ชาวประมงรายนี้ยังระบุด้วยว่า สิ่งที่ตามมากับก้อนน้ำมันที่เข้าเกยหาด จะมีสัตว์น้ำขนาดเล็ก เช่น หมึก ปลา จะถูกคลื่นซัดมาตายเป็นระยะทางตลอดแนวชายหาด และวันนี้ยังพบซาก "เต่าตนุ" ถูกคลื่นซัดมาเกยหาด อาสาสมัครเครือข่ายช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายาก ได้เก็บซากไว้เพื่อส่งมอบให้ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง (ชุมพร) มารับไปเพื่อทำการวิจัย และชันสูตรหาสาเหตุการตายต่อไปแล้ว


https://mgronline.com/south/detail/9640000023137


*********************************************************************************************************************************************************


ผ่าชันสูตร "ซากเต่าทะเล" พบกระเพาะ-ลำไส้เต็มไปด้วยขยะ และของเหลวสีดำจำนวนมาก



นครศรีธรรมราช - สัตวแพทย์กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง เร่งผ่าชันสูตรซาก "เต่าตนุ" หลังถูกพบเกยหาดหัวไทรพร้อมก้อนน้ำมัน พบในกระเพาะอาหาร และลำไส้เต็มไปด้วยขยะ และของเหลวสีดำ

ความคืบหน้าการชันสูตร "ซากเต่าทะเล" ที่ตายเกยหาด พร้อมกับ "ก้อนน้ำมัน" จำนวนมาก บริเวณหาดบ้านแพรกเมือง บ้านฉิมหลา หมู่ 3 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ล่าสุด วันนี้ (10 มี.ค.) สัตวแพทย์หญิงพิมพ์ชนก ประจำค่าย นายสัตวแพทย์ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญได้เข้ารับซาก ?เต่าตนุ? จากอาสาสมัครเครือข่ายช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายาก หลังจากที่พบซากเต่าตัวนี้ตายเกยหาด พร้อมกับก้อนน้ำมันจำนวนมากบริเวณชายหาดแพรกเมือง

ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันชันสูตร พบว่าเต่าตนุตัวนี้เป็นเต่าเพศเมีย อายุประมาณ 4-5 ปี น้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม หลังจากที่ผ่าเปิดช่องท้อง และชันสูตรลึกไปจนถึงระบบทางเดินอาหารของเต่า พบว่าภายในกระเพาะอาหาร และลำไส้เต็มไปด้วยขยะพลาสติกจำพวกเชือกจากเครื่องมือประมง ถุงพลาสติกขนาดเล็ก และพบของเหลวสีดำคล้ายกับก้อนน้ำมันที่ถูกคลื่นซัดมาเกยหาดแล้วละลายกลายเป็นของเหลว โดยทั้งหมดถูกเก็บเป็นตัวอย่างนำไปวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ พร้อมทั้งชิ้นส่วน และเนื้อเยื่อของเต่า หลังจากนั้นได้ฝังกลบซากไว้ในบริเวณหาดทราย

สัตวแพทย์หญิงพิมพ์ชนก ประจำค่าย นายสัตวแพทย์ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง เปิดเผยว่า การผ่าชันสูตรนั้นไม่สามารถสรุปสาเหตุการตายที่แน่ชัดได้ เพราะสภาพซากเริ่มเน่ามากแล้ว แต่จากการตรวจพบในระบบทางเดินอาหาร กระเพาะอาหาร และลำไส้ แสดงให้เห็นได้ชัดว่าเขายังสามารถหาอาหารได้ตามปกติ แต่ในลำไส้มีขยะค่อนข้างมากจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพแน่นอน แต่เรายังไม่สามารถสรุปได้

ส่วนก้อนน้ำมันจำนวนมากที่เกยหาด ขณะนี้ได้ละลายกลายเป็นของเหลวข้นสีดำ และซึมไปในหาดทราย ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังหวั่นอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับสัตว์ทะเลหายากในย่านนี้จากสารประกอบโลหะหนักที่อยู่ในก้อนน้ำมัน ซึ่งอาจไปสะสมอยู่ในร่างกายของสัตว์ทะเลหายากเหล่านี้ และจะก่อให้เกิดอาการป่วย หากรับไปในปริมาณมากจะทำให้ตายได้ในทันที


https://mgronline.com/south/detail/9640000023277
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม