จนท.ลุยเก็บตัวอย่าง ?ก้อนน้ำมัน? เกลื่อนหาดหัวไทร นำวิเคราะห์หาแหล่งที่มา
นครศรีธรรมราช - เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จ.ชุมพร เข้าเก็บตัวอย่าง ?ก้อนน้ำมัน? และน้ำทะเลบริเวณชายหาดหัวไทร นำวิเคราะห์ลักษณะทางเคมี ยอมรับยังไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้
จากสถานการณ์ก้อนน้ำมัน หรือที่เรียกว่า ?ทาร์บอล? พร้อมทั้งคราบแพน้ำมันที่อยู่บนผิวน้ำทะเล ถูกคลื่นสูงซัดเข้าเกยหาดบริเวณชายหาดใน อ.หัวไทร โดยเฉพาะบ้านหน้าศาล บ้านแพรกเมือง บ้านฉิมหลา ต.เกาะเพชร และ ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช เป็นทางยาวตลอดแนวชายหาดยาวหลายกิโลเมตร และมีรายงานว่า พบก้อนน้ำมันลักษณะเดียวกันที่ชายหาดใน อ.ระโนด และ อ.สทิงพระ จ.สงขลา บางส่วนอีกด้วย
ซึ่งปรากฏการณ์นี้ได้สร้างความเสียหายให้แก่ระบบนิเวศชายหาดอย่างมาก ท่ามกลางความสงสัยของชาวบ้านที่ทำประมง เนื่องจากเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทุกครั้งเมื่อมีคลื่นลมรุนแรง แต่ไม่เคยได้รับคำตอบถึงแหล่งที่มาของก้อนน้ำมันดังกล่าว
โดยล่าสุด เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จ.ชุมพร ได้นำอุปกรณ์เข้าเก็บตัวอย่าง ซึ่งประกอบด้วย น้ำทะเลที่มีลักษณะคราบคล้ายน้ำมันลอยอยู่บนผิวน้ำ รวมทั้งก้อนน้ำมันที่ตกค้างอยู่บริเวณชายหาด เพื่อนำไปวิเคราะห์ทางเคมี หาแหล่งที่มาของก้อนน้ำมัน หรือแหล่งกิจกรรมที่ทำให้ก้อนน้ำมันแพร่กระจายลงในทะเลจำนวนมาก ตามลักษณะการพบตลอดแนวชายหาดหลายกิโลเมตร
น.ส.ศิริลักษณ์ ลิ้มธนกุล นักวิชาการศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จ.ชุมพร ระบุว่า ยังไม่สามารถระบุได้ว่าก้อนน้ำมันมาจากกิจกรรมใด หรือมีโครงสร้างทางเคมีอย่างไร โดยตัวอย่างทั้งหมดจะนำไปวิเคราะห์ และรายงานไปยังกรมฯ เพื่อดำเนินการอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อหลายปีก่อนนักวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ได้เก็บตัวอย่างก้อนน้ำมันในลักษณะเดียวกันนี้ ที่พบบริเวณหาดบ้านเราะ ต.กลาย อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ไปวิเคราะห์ทางเคมี ได้ระบุผลตัวอย่างว่า มีลักษณะทางโครงสร้างทางเคมีคล้ายน้ำมันดิบ ที่ถูกทำให้โครงสร้างทางเคมีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป แต่ไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้ สำหรับกรณีของเหตุการณ์ใน อ.หัวไทร กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ได้ออกมาปฏิเสธแล้วว่าไม่มีแท่นขุดเจาะกลางทะเลแหล่งใดที่เกิดการรั่วไหล
