ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 08-09-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


สุดล้ำ! จีนส่ง "หุ่นยนต์กระเบนปีศาจ" ทดสอบว่ายน้ำลึกกว่า 1,000 เมตร



คณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคตะวันตกเฉียงเหนือ (NPU) ในนครซีอัน เมืองเอกของมณฑลส่านซีทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ประสบความสำเร็จในการทดสอบหุ่นยนต์ชีวประดิษฐ์รูปร่างคล้ายปลากระเบนราหูหรือปลากระเบนปีศาจ (devilfish) ที่ว่ายและดำน้ำลึกด้วยวิธีกระพือปีกราวกับนก บริเวณหมู่เกาะซีซาในทะเลจีนใต้

โดยหุ่นยนต์อ่อนนุ่ม (soft robot) รุ่นต้นแบบ มีน้ำหนัก 470 กิโลกรัม สามารถดำน้ำลึกสูงสุด 1,025 เมตร ถูกสร้างโดยจำลองรูปร่างและการเคลื่อนไหวของปลากระเบนราหู หนึ่งในนักว่ายน้ำทรงประสิทธิภาพที่สุดในธรรมชาติ

หุ่นยนต์ดังกล่าวเคยถูกนำไปใช้สังเกตการณ์สภาพแวดล้อมมหาสมุทรและดำเนินการสำรวจเรือดำน้ำในแนวปะการังที่สำคัญในหมู่เกาะซีชาแล้ว

เครดิตคลิปและข้อมูลจาก สำนักข่าวซินหัว


https://mgronline.com/travel/detail/9640000088554


*********************************************************************************************************************************************************


สะเทือนใจ! โซเชียลแชร์ภาพเด็กจับปลาดาวยักษ์จำนวนมากมาถ่ายรูป

กระบี่ - สะเทือนใจ! ภาพเด็กถ่ายรูปปลาดาวยักษ์สีจำนวนมากที่ถูกนำมาวางเรียงบนชายหาดเพื่อถ่ายรูปลงโซเชียล ห่วงกระทบระบบนิเวศ แหล่งหญ้าทะเล ขณะที่ หน.อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เผยสั่งตรวจสอบแล้ว เชิญผู้ปกครองมาให้ข้อมูลและตักเตือน



วันนี้ (7 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกโซเชียลมีการโพสต์เรื่องราวของนักท่องเที่ยว จับปลาดาวยักษ์สีหลายสิบตัวตัวมาวางเรียงกันแล้วถ่ายรูป โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งเป็นช่างภาพอาวุโส ประจำจังหวัดกระบี่ โพสต์ในเฟซบุุ๊กส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า "เศร้าใจ เห็นภาพกองปลาดาวยักษ์เก็บมาเรียงถ่ายภาพโดยไม่รู้เรื่อง" หลังข้อความดังกล่าวเผยแพร่ออกไปมีชาวโซเชียลส่งภาพกองปลาดาวหลากสี โดยมีเด็ก 4 คน ยืนล้อมถ่ายรูปอย่างสนุกสนาน ทำให้ชาวโซเชียลเข้ามาวิพากษ์วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม พร้อมแสดงความเป็นห่วง สงสารเด็ก การสอนให้เด็กรักธรรมชาติที่ผิด และความรู้สึกอาจติดตัวเด็กไปก็ได้ และอาจจะทำให้ปลาดาวได้รับบาดเจ็บและตายได้

นายนิวัฒน์ วัฒนยมนาพร ที่ปรึกษาหน่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และศิลปกรรมท้องถิ่นจังหวัดกระบี่ ระบุว่า "เป็นการสอนแบบอย่างที่ไม่ถูกต้องให้เด็ก อีกอย่าง สัตว์ ปะการังน้ำตื้นบางชนิดมีพิษร้ายแรง ถ้าถูกตามร่างกายอาจทำให้เสียชีวิตได้" และจากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า ภาพที่ปรากฏเกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จุดเกิดเหตุเป็นบริเวณชายหาดอ่าวทึง หมู่ที่ 2 ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ซึ่งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นแหล่งอาศัยของปลาดาวหลากสี สวยงาม เป็นจุดเช็กอินที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ มีแหล่งหญ้าทะเล ซึ่งเป็นอาหารของพะยูนที่อุดมสมบูรณ์ เนื้อที่กว่า 100 ไร่ จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบหวั่นพฤติกรรมเลียนแบบและกระทบต่อระบบนิเวศแหล่งท่องเที่ยว

ด้านนายประยูร พงศ์พันธ์ หน.อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี กล่าวว่า หลังจากทราบข่าวได้สั่งการให้ จนท.ชุดสายตรวจอุทยานฯ ตรวจสอบแล้ว พบว่า ตามภาพที่ปรากฏเป็นบริเวณชายหาดอ่าวทึง อยู่ในเขตอุทยานฯ ตามภาพเป็นเด็กๆ 4 คน พร้อมกองปลาดาวหลากสีหลายสิบตัว ซึ่งคาดว่าเด็กๆ เหล่านี้ไปพร้อมกับผู้ปกครอง ซึ่งการจับปลาดาวขึ้นมาถ่ายรูป หรือเคลื่อนย้ายจากที่เดิมที่เขาอยู่ปกติไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำเด็กๆ

อีกทั้งการกระทำดังกล่าวมีความผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานฯ มาตรา 16 ฐานทำลายธรรมชาติ ห่วงโซ่อาหาร พร้อมฝากเตือนไปยังผู้ปกครอง นักท่องเที่ยวไม่ควรหยิบจับสัตว์ทะเลขึ้นมาจากน้ำ และไม่เหยียบแนวปะการัง เพราะเป็นการทำลายธรรมชาติ เบื้องต้นจะนำป้ายเตือนไปติดตั้งอีกครั้ง ในส่วนตามภาพที่ปรากฏพบที่มาแล้ว ซึ่งในวันนี้จะเชิญตัวผู้ปกครองของเด็กๆ ตามภาพมาให้ข้อมูลและว่ากล่าวตักเตือนต่อไป

ความคืบหน้าล่าสุด ที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง ทางผู้ปกครองเด็กได้เดินทางมาพบกับนายประยูร พงศ์พันธ์ หน.อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี พร้อมยอมรับว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนและครอบครัว ประกอบด้วย ผู้ใหญ่ 3 คน และเด็กอีก 3-4 คน ได้ไปท่องเที่ยวที่บริเวณชายหาดอ่าวทึง บ้านคลองม่วง ต.หนองทะเล ซึ่งเป็นช่วงเวลาน้ำลง ตนและครอบครัวจึงลงไปเดินเล่นบนชายหาด และ พบดาวทะเลจำนวนมาก เด็กๆ ที่ไปด้วยจึงได้จับขึ้นมาวางเรียงกันแล้วถ่ายรูปเป็นที่ระลึก เพราะไม่เคยเห็น เมื่อถ่ายรูปเสร็จนำกลับไปวางไว้ที่เดิม ไม่ได้พากลับที่พัก หรือนำออกนอกเขตอุทยานแต่อย่างใด

ทาง จนท.จึงได้ทำการว่ากล่าวตักเตือนว่า การกระทำดังกล่าวอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ดาวทะเล และส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศได้ ซึ่งผู้ปกครองเด็กได้กล่าวขอโทษที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ จนท.จึงให้ลงบันทึกไว้ เนื่องจากเป็นกระทำผิดเป็นครั้งแรก

หน.อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี กล่าวว่า หลังจากนี้จะดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบในการเข้าเที่ยวชมดาวทะเลบริเวณหาดอ่าวทึง อนุญาตให้ถ่ายรูปได้ แต่ห้ามจับดาวทะเลขึ้นมาถ่ายรูปโดยเด็ดขาด ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจจะทำให้เกิดอันตรายแก่ดาวทะเลได้ และมีความผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานฯ ด้วย


https://mgronline.com/south/detail/9640000088679

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม