ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 17-08-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,253
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


เรือบรรทุกน้ำมันเกยตื้น ที่ชายฝั่งมอริเชียส ล่าสุดขาดสองท่อน น้ำมันรั่วลงทะเลกว่า 1,180 ตัน 'ดร.ธรณ์' หวั่นผลกระทบแนวปะการัง


การรั่วไหลของน้ำมันจากเรือบรรทุกน้ำมันรั่ว ที่ชายฝั่งทะเลมอริเชียส ในมหาสมุทรอินเดีย (เครดิตภาพ ซีเอ็นเอ็น)

เรือบรรทุกน้ำมันเกยตื้น ที่ชายฝั่งมอริเชียส ล่าสุดขาดสองท่อน น้ำมันรั่วลงทะเลกว่า 1,180 ตัน ?ดร.ธรณ์?หวั่นผลกระทบแนวปะการัง

ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า เรือบรรทุกน้ำมัน ชื่อว่า MV Wakashio ขาดเป็นสองท่อน ทำน้ำมันรั่วไหลลงมหาสมุทรอินเดียแล้วเกินกว่าครึ่ง และคาดจะส่งผลกระทบต่อแนวปะการัง นายกรัฐมนตรีมอริเซียสได้ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสิ่งแวดล้อม

จากคำแถลงการณ์ คณะกรรมการวิกฤตการณ์แห่งชาติของมอริเชียส ระบุว่า เรือ MV Wakashio ซึ่งเป็นของญี่ปุ่นได้แล่นเกยตื้นที่ Pointe d'Esny เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้มีน้ำมันจำนวนมากรั่วไหลลงสู่ทะเลสาบในมหาสมุทรอินเดียเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจึงมีการดำเนินการทำความสะอาดครั้งใหญ่โดยอาสาสมัครในพื้นที่หลายพันคนกำลังดำเนินการอยู่ แต่รอยแตกภายในตัวเรือขยายใหญ่ขึ้นเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามข้อมูลของผู้ควบคุมเรือ Mitsui O.S.K. Lines บริษัท สัญชาติญี่ปุ่น

Tal Harris ผู้ประสานงานด้านการสื่อสารของ Greenpeace Africa International กล่าวกับ CNN ว่าทางการได้ "กำหนดพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตต้องห้าม" และขอให้อาสาสมัครหยุดกิจกรรมเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา Sunil Dowarkasing อดีตนักยุทธศาสตร์ของ Greenpeace International และอดีตสมาชิกรัฐสภาในมอริเชียสบอกกับ CNN ว่าถังน้ำมันหนึ่งในสามถังของเรือได้รั่วไหลลงสู่มหาสมุทรแล้วและทีมงานพยายามที่จะนำน้ำมันออกจากรถถังคันอื่นก่อนหน้านี้ เรือแตก



ยังไม่ชัดเจนว่ามีการขจัดน้ำมันออกไปปริมาณเท่าใดก่อนวันเสาร์ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัท Mitsui O.S.K. Lines ระบุว่ามีน้ำมันประมาณ 1,180 เมตริกตันรั่วไหลออกจากถังเชื้อเพลิงของเรือ โดยมีประมาณ 460 ตันที่กู้จากทะเลและชายฝั่ง เรือลำดังกล่าวบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีซัลเฟอร์ต่ำมากประมาณ 3,800 ตัน และน้ำมันดีเซล 200 ตันตามข้อมูลของผู้ประกอบการ

นายกรัฐมนตรี Pravind Jugnauth ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสิ่งแวดล้อมว่า "เราอยู่ในสถานการณ์วิกฤตสิ่งแวดล้อม" ขณะเดียวกัน Kavy Ramano รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมของประเทศ กล่าวว่าการรั่วไหลนี้อยู่ใกล้กับระบบนิเวศทางทะเลที่ได้รับการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมสองแห่ง และเขตสงวน Blue Bay Marine Park บริเวณใกล้เคียงมีชายหาดท่องเที่ยวยอดนิยมและสวนป่าชายเลนหลายแห่ง ทั้งนี้ MV Wakashio กำลังเดินทางจากจีนไปบราซิลเมื่อเกยตื้นบนแนวปะการัง เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา



'ดร.ธรณ์' อัปเดท ผลกระทบต่อแนวปะการัง ซึ่งรุนแรงกว่าบ้านเราเคยประสบ 5 เท่า

จากเพจเฟซบุ๊ก โดย ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล ได้อัปเดทข่าวเรือชนแนวปะการัง น้ำมันรั่วที่มอร์ริเชียสว่า

ตอนนี้คลื่นซัดจนเรือขาดสองท่อน น้ำมันอย่างน้อย 1,180 ตันไหลลงแนวปะการังครับ บนเรือมีน้ำมัน 4,000 ตัน หลังจากเรือชน ทีมดูแลสิ่งแวดล้อมรีบช่วยกันดูดน้ำมันที่มีอยู่ 3 แทงค์ ข่าวบอกว่าดูดออกมาได้ส่วนหนึ่ง
ตอนนี้เรือหักแล้ว ยังไม่แน่ว่าดูดออกมาได้ทั้งหมดเท่าไหร่ แต่ที่แน่ๆ คือหนึ่งแทงค์รั่วเกือบหมด นั่นคือ 1,180 ตันที่รั่วมาแล้ว

เทียบกับปริมาณที่เคยรั่วในทะเลไทย ตั้งแต่ปี 2516 ถึงปัจจุบัน ครั้งใหญ่สุดเกิดในปี 2545 เรือชนหินสันฉลาม สัตหีบ น้ำมันเตารั่ว 234 ตัน (ข้อมูลกรมทะเล) แต่เหตุการณ์ที่มอร์ริเชียส แรงกว่าเรา 5 เท่า และที่สำคัญคือเกิดบนแนวปะการังโดยตรง รอบๆ มีทั้งอุทยานทางทะเลและแหล่งท่องเที่ยว ยังมีป่าชายเลนและหาดสวยบนฝั่ง

จากการวิเคราะห์ข้อมูลดาวเทียม วันที่ 11 สค. คราบน้ำมันกระจายไปในพื้นที่กว้าง 27 ตร.กม. ถึงวันนี้ไม่ทราบว่ากระจายถึงไหน แต่มีรายงานว่ากระจายไปไกลกว่าเดิมหลายเท่า อาสาสมัครไปช่วยกัน แต่มันอันตรายเพราะไอระเหย รัฐบาลพยายามขอให้อย่าไปเลย ให้ผู้เชี่ยวชาญจัดการเถิด

แน่นอนว่าจะเกิดผลกระทบ ทั้งต่อปะการังโดยตรง สัตว์อื่นๆ รวมถึงระบบนิเวศป่าชายเลนและชายหาด

การนำน้ำมันออกจากระบบนิเวศซับซ้อนแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย คงต้องมีการทำงานกันต่อเนื่อง และใช้เวลาหลายเดือน/เป็นปี

ประเทศมอร์ริเชียสมีผู้ป่วยโควิดไม่ถึง 400 คน แต่การท่องเที่ยวกระทบหนักจากปัญหาล็อกดาวน์ทั่วโลก และมาเจออุบัติเหตุซ้ำอีกหน ผมจะมารายงานเพื่อนธรณ์เป็นระยะครับ

ทั้งนี้ มอริเซียส เป็นประเทศในแอฟริกาตะวันออก มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐมอริเชียส เป็นประเทศที่เป็นเกาะนอกชายฝั่งแอฟริกาในมหาสมุทรอินเดียตะวันตกเฉียงใต้ ตั้งอยู่ทางตะวันออกของมาดากัสการ์ ประมาณ 900 กิโลเมตร และทางตะวันตกเฉียงใต้ของอินเดียประมาณ 3,943 กิโลเมตร


https://mgronline.com/greeninnovatio.../9630000083935


*********************************************************************************************************************************************************


ทช. โชว์ภาพการสำรวจ "ทะเลไทยสมบูรณ์" วาฬ โลมา โผล่มาให้เห็น



กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หรือ ทช. โดยศูนย์วิจัย ทช. อ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันตก ได้โพสต์การสำรวจสัตว์ทะเลหายากและใกล้สูญพันธุ์ บริเวณอ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันตก (เมื่อ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา) ว่าพบสัตว์ทะเลหายาก 3 ชนิด คือ โลมาอิรวดี โลมาหลังโหนก และวาฬบรูด้า

เป็นการพบ โลมาอิรวดี (lrrawaddy dolphin : Orcealla brevirostris) 3-5 ตัว นอกฝั่งตะวันออกของจ.สมุทรสาคร ในระยะ 3.5 กม. ส่วนโลมาหลังโหนก (Indo-Pacific humpback dolphin : Sousa Chinensis) โดยรับแจ้งจากชาวประมง พบ 2 ตัวบริเวณปากร่องน้ำแม่กลอง-บางตะบูน

และ วาฬบรูด้า (Bryde?s Whale : Balaenoptera edeni) พบ 5 ตัวแพร่กระจายบริเวณนอกฝั่งตะวันออกและตะวันตกของ จ.สมุทรสาคร ระยะห่างฝั่ง 15-20 กม. ซึ่งส่วนใหญ่อาศัยหากินและเลี้ยงลูก บริเวณทะเลเขตติดต่อกับกรุงเทพฯ เมื่อตรวจสอบอัตลักษณ์ (Photo ID) เป็นคู่แม่ลูก 2 คู่ ได้แก่ แม่สายชลและเจ้าสายฝน แม่ศรีสุขและเจ้าสีสัน และไม่ทราบชื่อ 1 ตัว

สัตวแพทย์ตรวจสุขภาพวาฬบรูด้าที่ระบุชื่อได้ทั้งสิ้น 4 ตัว พบว่าทุกตัวมีการเคลื่อนไหว การทรงตัว คุณภาพและอัตราการหายใจปกติ และความสมบรูณ์ของร่างกาย (Body Condition Score: BCS) อยู่ในเกณฑ์ดี (ค่าเฉลี่ย BCS = 2.25) และพบรอยโรคบนผิวหนัง (Tattoo Skin disease: TSD) 2 ตัว


https://mgronline.com/greeninnovatio.../9630000083941

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม