ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 13-03-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,241
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


อัพเดท!! อ่าวมาหยา ล่าสุดจาก อ.ธรณ์


ภาพทางเดิน - กรมอุทยาน ถ่ายเมื่อสัปดาห์ก่อน

โพสต์เรื่อง "อ่าวมาหยา" ในเฟซบุ๊ก "Thon Thamrongnawasawat" ของ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2564 บอกเล่าถึงแนวทางการเปิดให้มีกิจกรรมท่องเที่ยวในอ่าวมาหยาว่า

"น้องๆ สื่อโทรมาถามเรื่องอ่าวมาหยา ถามว่าจะเปิดไหมคะอาจารย์ ? ผมตอบว่าทุกอย่างชัดเจนแล้วครับ ท่านรมต./ท่านอธิบดีกรมอุทยานพูดมาหลายครั้ง ดังนี้

อ่าวมาหยาจะเปิดเมื่อทางเดินและท่าเรือเสร็จ ซึ่งตอนนี้เป็นไปตามภาพว่าทำไปเยอะแล้ว

สำหรับคำถามว่าเมื่อไหร่เสร็จ ต้องรบกวนถามทางอุทยานครับ

เมื่อเสร็จแล้วเปิดแล้ว เรือเข้าด้านหลังอย่างเดียว ไม่มีการเข้าด้านหน้าอีกแล้ว



เรื่องนี้พูดทุกครั้งเหมือนกันทุกครั้ง กรมอุทยาน/อาสาสมัครช่วยกันฟื้นฟูปะการัง จนรอดและกำลังโตเกือบ 2 หมื่นกอ ฝูงฉลามว่ายไปมาเป็นประจำ

การนำเรือเข้าข้างหน้าคงทำไม่ได้ ไม่งั้นเราจะฟื้นฟูไปทำไม จะสิ้นเปลืองงบประมาณสร้างท่าเรือข้างหลังไปทำไม

เมื่อเข้าไปแล้ว มีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว กรมอุทยานมีตัวเลขแล้ว คงเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป

เข้าไปข้างใน นักท่องเที่ยวเดินตามเส้นทางศึกษาซึ่งทำเกือบเสร็จแล้ว ไม่เหยียบย่ำตามใจชอบต่อไป

การประชุมที่ปรึกษาอุทยานทางทะเลทุกครั้ง ก็เป็นไปตามนี้ เท่าที่ทราบ กลางๆ ปีน่าจะเสร็จ สอดคล้องกับช่วงเปิดประเทศอีกครั้ง (ไตรมาส 3-4)

ซึ่งคงช่วยการท่องเที่ยวได้ เมื่อเปิดมาหยาใหม่แบบไม่ทำร้ายธรรมชาติ

สองสามปีที่ผ่านมา ผมเจอคำถามเป็นประจำ และไม่เคยเปลี่ยนคำตอบเลย

จึงบอกมาให้เพื่อนธรณ์สบายใจได้ การจัดการอ่าวมาหยาทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่ได้ปรึกษาฝ่ายวิชาการที่มีทั้งป่าทั้งทะเลสายตรง ยกกันมาเกือบหมดประเทศ

ให้กำลังใจทุกฝ่าย และอยากให้อดใจไว้อีกแป๊บ อ่าวมาหยาโฉมใหม่กำลังจะมาครับ"



ทั้งนี้ หลังจากที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า
และพันธุ์พืช มีมติเมื่อกลางปี 2561 ให้ปิดการท่องเที่ยว "อ่าวมาหยา" กลางทะเลอันดามัน
เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่
เนื่องจากพบว่าจากอดีตแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแห่งนี้หนาแน่นไปด้วยเรือท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยว

ทำให้สภาพธรรมชาติเสื่อมโทรม ชายหาดทรุดตัว นอกจากนี้ ยังพบสารเคมีบางชนิด เช่น
ครีมกันแดดที่นักท่องเที่ยวใช้ทาตัวก่อนลงเล่นน้ำ เป็นสาเหตุหนึ่งทำให้ปะการังฟอกขาว
นำไปสู่การประกาศปิดอ่าวเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศเป็นเวลา2 ปี
โดยจะเปิดให้ทำกิจกรรมท่องเที่ยวในปี2564

เมื่อเร็วๆ นี้ พ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี ประวิตร
ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งภาคเอกชน ร่วมประชุมหารือกับคณะกรรมาธิการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 4 มี.ค.2564 เสนอให้มีการเปิดอ่าวมาหยาอีกครั้ง
เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวหลังวิกฤตโควิด-19
เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่รู้จักกันทั่วโลก แต่จะมีมาตรการควบคุม เช่น
กำหนดเขตการเข้ามาจอดเรือไว้โดยให้ลอยลำหน้าอ่าวมาหยา การจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว
มีการปลูกพันธุ์ไม้ป่าชายหาด
เพื่อช่วยยึดหน้าดินป้องกันการพังทลายของเนินทรายหน้าหาด


https://mgronline.com/greeninnovatio.../9640000024208


*********************************************************************************************************************************************************


เมืองพัทยาแจงภาพน้ำดำไหลลงทะเลเหตุฝนหนัก-ระบบสูบเก่าระบายน้ำไม่ทัน เตรียมทุ่มงบปรับปรุงใหม่

ศูนย์ข่าวศรีราชา - เมืองพัทยาแจงภาพน้ำสีดำไหลลงทะเลหลังฝนหนัก เกิดจากระบบระบายน้ำเก่า ฝนหนักสูบไม่ทัน ประกอบกับปัจจุบันธุรกิจโรงแรมเกิดขึ้นจำนวนมาก เผยปัจจุบันตั้งงบเปลี่ยนระบบระบายน้ำใหม่จากท่อรวมเป็นแยกท่อ เชื่อลดปัญหาน้ำค้างสีดำ



วันนี้ (12 มี.ค.) นายอนุวัตร ทองคำ ผู้อำนวยการสำนักการช่างสุขาภิบาล เมืองพัทยา ได้ออกมาชี้แจงกรณีที่เพจเฟซบุ๊กดังอย่าง ?PattayaWatchdog? ได้โพสต์ข้อความถึงกรมทรัพยากรธรรมชาติและชายฝั่ง เกี่ยวกับการลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพชายหาดวงศ์อมาตย์ ซ.นาเกลือ 18 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีน้ำลักษณะสีดำขุ่นข้นพุ่งทะลักออกจากท่อระบายน้ำของเมืองพัทยาลงสู่ทะเล จากเหตุการณ์ฝนตกหนักเมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่กลับไม่พบสิ่งผิดปกติ

จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์เกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำค้างท่อที่มีความสกปรกของเมืองพัทยา ที่มักจะพบว่าเมื่อมีฝนตกหนักมักมีน้ำสีดำไหลงลงทะเลจำนวนมาก ว่าเกิดจากสถานีสูบน้ำที่เมืองพัทยา ที่มีการวางท่อขนาด 1.20 เมตร ซึ่งถือว่ามีขนาดเล็ก และเป็นท่อที่รวมทั้งน้ำเสียจากโรงแรม ที่พักอาศัย และน้ำฝนไว้ในท่อเดียวกันทำให้เมื่อฝนทิ้งช่วงจึงมีน้ำค้างท่อ

และเมื่อมีฝนตกหนักน้ำฝนจึงไหลปะปนรวมกับน้ำเสียค้างท่อจนเอ่อล้นลงสู่ทะเล ผลที่ตามมาคือ สถานีสูบที่จัดสร้างไว้เดิมไม่สามารถสูบน้ำได้ทัน จนเป็นที่มาของภาพน้ำสีดำทะลักลงทะเลตามที่มีการนำเผยแพร่ในโลกออนไลน์

ประกอบกับสถานีสูบน้ำเสียในซอยวงศ์อมาตย์ มีการก่อสร้างมานานกว่า 20 ปีในลักษณะท่อระบายน้ำระบบคอมบาย ที่เป็นการรวมท่อน้ำเสียและท่อน้ำฝนร่วมกันเพื่อสูบส่งไปยังคลองปึกพลับ-ตลาดลานโพธิ์ เพื่อไปสิ้นสุดที่โรงบำบัดน้ำเสียภายในซอยหนองใหญ่ แต่ด้วยปัจจุบันกิจการโรงแรมในเมืองพัทยาเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก

จึงทำให้ขนาดของท่อระบายและกำลังการสูบที่เคยจัดสร้างไว้ไม่เพียงพอต่อปริมาณน้ำเสียที่เกิดขึ้น ก่อให้เกิดปัญหาน้ำค้างท่อและเมื่อผสมรวมกับน้ำฝนจึงทำให้เกิดความขุ่นดำเข้มข้นเอ่อไหลลงสู่ทะเล

อย่างไรก็ดี ขณะนี้เมืองพัทยาได้ตั้งงบประมาณเพื่อปรับปรุงสถานีสูบ เพื่อลดปัญหาน้ำค้างท่อ และในอนาคตเมืองพัทยายังมีแผนที่จะเปลี่ยนระบบระบายน้ำใหม่เพื่อแยกท่อระบายน้ำเสียและน้ำฝนออกจากกัน และได้จะดำเนินโครงการนำร่องไปแล้วที่ตลาดลานโพธิ์ นาเกลือ และบริเวณถนนเลียบสายชายหาดพัทยา จึงเชื่อว่าจากนี้ไปสถานการณ์ต่างๆ น่าจะดีขึ้น


https://mgronline.com/local/detail/9640000024152
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม