ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 25-01-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,234
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


ชาวเปรูแห่ตัดผมบริจาคทำ "ทุ่นเส้นผม" ขจัดคราบน้ำมันในทะเล

ชาวเปรูพร้อมใจตัดผมเพื่อบริจาคทำ "ทุ่นเส้นผม" หวังช่วยดูดซับคราบน้ำมันที่โรงกลั่นทำรั่วไหลออกมาตอนเกิดสึนามิจากแผ่นดินไหวตองกา รัฐบาลดันเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมระดับชาติ ประกาศภาวะฉุกเฉิน 90 วัน



เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 65 ชาวเปรูหลายร้อยคนในกรุงลิมา พร้อมใจกันออกไปตัดผม ตามร้านเสริมสวยและเต็นท์รับตัดผม เพื่อนำเส้นผมบริจาคไปใช้ในการทำ "ทุ่นเส้นผม" ขจัดคราบน้ำมันมหาศาลที่ยังลอยอยู่บนผิวน้ำในทะเลบริเวณชายหาดของเมืองท่ากายาโอ ใกล้กับกรุงลิมา ก่อให้เกิดความเสียหายใหญ่หลวงกับระบบนิเวศทางทะเล หลังจากเกิดเหตุโรงกลั่นน้ำมัน "ลา แปมปิญา" "เรปโซล" บริษัทสัญชาติสเปน ทำน้ำมันดิบ 6,000 บาร์เรลรั่วไหลลงทะเล ในช่วงที่เกิดคลื่นยักษ์ซัดเข้าสู่ชายฝั่งเปรู หลังจากภูเขาไฟระเบิดที่ตองกาเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา

การแห่ตัดผมบริจาคมีขึ้นในหลายเมืองทั่วประเทศ เป็นการแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของชาวเปรู หลังจากที่บรรดานักสิ่งแวดล้อมพากันรณรงค์ทางโซเชียลมีเดีย ขอรับบริจาคเส้นผมจากประชาชนเพื่อนำไปทำทุ่นลอยน้ำรูปทรงไส้กรอก เพื่อนำไปลอยไว้ช่วยดักจับคราบน้ำมันรอการกำจัด

ก่อนหน้านี้ชาวเปรูประท้วงเรียกร้องให้บริษัท "เรปโซล" ชดใช้ต่อความเสียหายใหญ่หลวงที่เกิดขึ้น หลังจากน้ำมันดิบปริมาณมหาศาลรั่วไหลลงสู่ชายฝั่งทะเลบริเวณเขตอนุรักษ์ ได้แก่ คอสตา อาซูล และเขตเวนทานิลลา ตลอดจนเขตปลาญา แกรนเด และอื่นๆ รวมถึงพื้นที่รวม 3,200 ไร่ ในระบบอนุรักษ์แห่งชาติหมู่เกาะนกทะเล และเกาะขนาดเล็ก รวมถึงพื้นที่กว่า 10,000 ไร่ ในเขตอนุรักษ์แอนคอร์น ที่มีระบบนิเวศทางทะเลอุดมสมบูรณ์ ขณะที่คราบน้ำมันลอยบนผิวน้ำเป็นระยะทางกว่า 4 กม. ส่งผลให้มีนกทะเล และสัตว์น้ำ ตายไปเป็นจำนวนมาก ขณะที่โรงกลั่นน้ำมันแห่งนี้มีการผลิตน้ำมันกว่า 117,000 บาร์เรลต่อวัน แต่ไม่มีแผนสำรองกรณีเกิดน้ำมันรั่วไหลลงทะเล



ขณะที่ล่าสุด รัฐบาลเปรูได้ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสิ่งแวดล้อม 90 วัน ในพื้นที่ชายฝั่งทะเลของกรุงลิมา ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำมันรั่วไหลครั้งนี้ โดยระบุว่าเป็นหนึ่งใน "ภัยพิบัติทางนิเวศที่สำคัญที่สุด" บนชายฝั่งของประเทศในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

การประกาศภาวะฉุกเฉินข้างต้นได้รับการอนุมัติโดย รูเบน รามีเรซ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม ผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการคณะกรรมการวิกฤติสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มุ่งลดผลกระทบที่เกิดจากเหตุน้ำมันรั่วไหล

ทั้งนี้ เหตุน้ำมันรั่วไหลเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ม.ค. ขณะที่เรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่งกำลังขนถ่ายน้ำมันที่คลังน้ำมันของโรงกลั่นลาแปมปิญา ด้านบริษัทเรปโซลรายงานเมื่อวันที่ 21 ม.ค. ว่างานทำความสะอาดพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำมันที่รั่วไหลนั้น จะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ โดยปัจจุบันได้กำจัดทรายปนเปื้อนไปแล้ว 1,580 ลูกบาศก์เมตร.


https://www.thairath.co.th/news/foreign/2295422


*********************************************************************************************************************************************************


"วราวุธ" สั่ง "กรมทะเล" เฝ้าระวังเหตุ เรือบรรทุกน้ำมันอับปาง "ชุมพร"

"วราวุธ" รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สั่ง "กรมทะเล" เฝ้าระวังเหตุ เรือบรรทุกน้ำมันอับปาง จ.ชุมพร ห่วงผลกระทบสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศทางทะเล



วันที่ 24 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเรือบรรทุกน้ำมันดีเซล ป. อันดามัน 2 อับปางกลางอ่าวไทย ห่างจากปากน้ำชุมพร ประมาณ 24 ไมล์ทะเล หรือ 45 กิโลเมตร ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม ที่ผ่านมา โดยเรือบรรทุกน้ำมันดังกล่าว มีน้ำมันอยู่ราว 5 แสนลิตร หรือประมาณ 415 ตัน

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กรณีเรือบรรทุกน้ำมันดีเซลกว่า 5 แสนลิตร อับปางกลางอ่าวไทย ทราบว่า บริษัท ไทยแหลมทองค้าน้ำมันประมง จำกัด เป็นเจ้าของเรือ ป. อันดามัน 2 ลำดังกล่าว และจากการประเมินสถานการณ์ความรุนแรงเบื้องต้น ยังอยู่ในระดับ 1 (Tier I) มีน้ำมันรั่วไหลขนาดเล็ก ไม่เกิน 20 ตันลิตร ซึ่งจะต้องใช้ทุ่นกักเก็บน้ำมัน (Boom) ความยาวกว่า 800 เมตร พร้อมใช้สารขจัดคราบน้ำมันกว่า 700 ลิตร เพื่อจัดการคราบน้ำมันดังกล่าว ทั้งนี้ ยังคงต้องเฝ้าสังเกตการณ์ในพื้นที่ โดยทราบว่า หากสถานการณ์ถูกยกระดับเป็นระดับ 2 (Tier II) กรณีน้ำมันรั่วไหลราว 20 ? 100 ตันลิตร กองทัพเรือ จะได้เตรียมการจัดตั้งศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการในการขจัดคราบน้ำมัน ตามแผนป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันแห่งชาติ พ.ศ. 2545

อย่างไรก็ตาม ตนได้กำชับให้ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำชับกรมควบคุมมลพิษ และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ประสานความร่วมมือกับทหารเรือ กรมเจ้าท่า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอด 24 ชั่วโมง และให้รายงานผลการดำเนินงานให้ตนทราบทุกระยะ พร้อมทั้งให้เร่งประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศทางทะเลในพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ ทั้งปัจจุบัน และผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตกรณีกำจัดคราบน้ำมันเรียบร้อยแล้ว และให้เร่งหาสาเหตุที่แท้จริงของการรั่วไหลของน้ำมันในครั้งนี้ เพื่อถอดบทเรียนและหาแนวทางการป้องกันในอนาคตต่อไป นายวราวุธ กล่าว

ด้านนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวเสริมว่า ตนได้ทราบรายละเอียดข้อมูลจาก พลเรือโท ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เกี่ยวกับแนวทางการไขปัญหาเรือบรรทุกน้ำมันอับปางบริเวณกลางอ่าวไทย เบื้องต้นได้ตรวจสอบพิกัดจุดเกิดเหตุ พบมีแหล่งทรัพยากรทางทะเลที่สำคัญ 2 แหล่ง ในบริเวณใกล้เคียง ได้แก่ แหล่งปะการัง บริเวณเกาะง่ามใหญ่ ไปทางทิศตะวันตกของจุดเกิดเหตุ ประมาณ 25 กิโลเมตร เนื้อที่ 37 ไร่ รวมถึง บริเวณอำเภอปะทิว เกาะร้านเป็ด เกาะร้านไก่ จังหวัดชุมพร และแหล่งหญ้าทะเลบริเวณอ่าวบ่อเมา และอ่าวทุ่งมหา ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ประมาณ 32 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่กว่า 114 ไร่



ทั้งนี้ จากการสังเกตเบื้องต้นและจากการบินสำรวจพบคราบน้ำมันเป็นฟิล์มบางๆ ที่ผิวน้ำ บางจุดมีแผ่นน้ำมันลอยเห็นชัดและมีกลิ่นแรง แต่เป็นบริเวณไม่กว้างมาก พร้อมให้เจ้าหน้าที่ประเมินสถานการณ์โดยใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ พบว่า ทิศทางของกระแสน้ำและกระแสลมจะพัดขึ้นไปบริเวณทิศเหนือของจุดเกิดเหตุ ซึ่งจะไม่มีผลกระทบต่อแหล่งปะการังและหญ้าทะเล อย่างไรก็ตาม กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้จัดส่งเรือตรวจการณ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จำนวน 2 ลำ พร้อมทีมนักวิชาการและเจ้าหน้าที่ติดตามและเฝ้าระวังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วนกรณีมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางของคลื่นลมที่จะส่งผลกระทบต่อทรัพยากรทางทะเล พร้อมเก็บตัวอย่างน้ำบริเวณดังกล่าวเพื่อวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ อีกทั้ง หากพบสัตว์ทะเลที่ว่ายเข้าใกล้บริเวณดังกล่าว จะได้ให้การช่วยเหลือและป้องกันได้อย่างทันท่วงที สำหรับแผนการเก็บกู้น้ำมันและแผนการกู้เรือ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ประสานงานกับกรมควบคุมมลพิษ กองทัพเรือ กรมเจ้าท่า และหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการแล้ว

โดยคาดว่าจะเก็บกู้คราบน้ำมันได้ภายใน 7 วัน และจะดำเนินการกู้เรือภายใน 15 วัน อนึ่ง ทางกองทัพเรือได้เตรียมจัดส่งเรือหลวงบางระจันพร้อมยาน Seafox-i เพื่อสำรวจสภาพเรือ ป. อันดามัน 2 ที่อับปางที่ได้รับแจ้งจากลูกเรือว่า ได้ปิดซีลวาล์วถังน้ำมันเรียบร้อยแล้วจริงหรือไม่ ซึ่งคาดว่าจะถึงพื้นที่เกิดเหตุในวันพรุ่งนี้ (25 มกราคม 2565) เวลาประมาณ 08.00 น. นายโสภณ กล่าวชี้แจง


https://www.thairath.co.th/news/local/2296007

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม