ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 08-03-2010
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,107
Default


'ธรณีพิโรธ' ชุดใหญ่! 'แกนโลกเอียง' ร้าย 'ไม่เท่าภัยมนุษย์'



ระยะนี้ “โลก” ดูจะ “พิโรธ” โกรธเกรี้ยวแรงๆ เป็นชุดๆ มีทั้งหนาวหนัก-หิมะตกหนัก ร้อนสาหัส-แล้งสาหัส และที่ยิ่งน่ากลัวเพราะส่งผลร้ายต่อมนุษย์แบบฉับพลัน คือ “แผ่นดินไหว” ซึ่งระยะนี้เกิดขึ้นในระดับรุนแรงเป็นระลอกในหลายๆประเทศ และยังส่งผลต่อเนื่องให้เกิดคลื่นยักษ์ “สึนามิ” อีกต่างหาก !!

เหตุแผ่นดินไหวรุนแรงนั้น ในปี 2553 นี้แค่ 2 เดือนเศษก็เกิดถี่ยิบ ไม่นับรวมที่เป็นอาฟเตอร์ช็อก ก็เกิดแล้วเกือบสิบครั้ง ในหลายประเทศ เช่น... 3 ม.ค. เกิดที่หมู่เกาะโซโลมอน รุนแรง 7.1 ริคเตอร์, 12 ม.ค. เกิดที่ประเทศเฮติ รุนแรง 7.0 ริคเตอร์, 1 ก.พ. เกิดที่ประเทศปาปัวนิวกินี รุนแรง 6.2 ริคเตอร์, 4 ก.พ. เกิดที่ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา รุนแรง 5.9 ริคเตอร์, 26 ก.พ. เกิดที่เมืองริวกิว ประเทศญี่ปุ่น รุนแรง 7.0 ริคเตอร์, 27 ก.พ. เกิดที่ประเทศชิลี รุนแรง 8.8 ริคเตอร์, 4 มี.ค. เกิดที่เกาะไต้หวัน รุนแรง 6.4 ริคเตอร์ และประเทศทางใต้ของประเทศไทยอย่างอินโดนีเซีย หรือฟิลิปปินส์ แผ่นดินก็ยังคงเขย่าน่ากลัวอยู่เนือง ๆ

แผ่นดินไหวรุนแรงแต่ละครั้งสร้างความเสียหายมาก

ในบางประเทศ “อาฟเตอร์ช็อก” ก็ยังรุนแรงมาก !!

ทั้งนี้ ว่ากันถึงระดับความรุนแรงของแผ่นดินไหว ถ้าเป็นระดับ 1-2.9 ริคเตอร์ ถือว่าเล็กน้อยมาก แค่บางคนอาจรู้สึกวิงเวียน, 3-3.9 ริคเตอร์ ก็ยังเล็กน้อย แต่คนที่อยู่ในอาคารจะรู้สึกว่าอาคารสั่นสะเทือน, 4-4.9 ริคเตอร์ ระดับปานกลาง คนทั้งในและนอกอาคารจะรู้สึกถึงการสั่นสะเทือน วัตถุห้อยแขวนแกว่งไกว, 5-5.9 ริคเตอร์ เริ่มรุนแรงเป็นบริเวณกว้าง ทำให้สิ่งของวัตถุเคลื่อนที่, 6-6.9 ริค เตอร์ นี่เริ่มรุนแรงมาก อาคารเสียหายพังทลาย, 7.0 ริคเตอร์ขึ้นไป ระดับนี้ยิ่งกว่าคำว่ารุนแรงมาก จะเกิดการสั่นสะเทือนอย่างร้ายแรง อาคารและสิ่งก่อสร้างต่างๆเสียหายอย่างรุนแรง วัตถุบนพื้นถึงขั้นถูกเหวี่ยงกระเด็นได้เลย แผ่นดินจะแยก

และระดับยิ่งกว่ารุนแรงมากนี้ยังอาจมีผลต่อทั้งโลก

สามารถมีผลต่อการเปลี่ยนแปลง “แกนโลก-เวลา”

“แผ่นดินไหว 8.8 ริคเตอร์ ที่ชิลี ทำให้แกนโลกเอียงราว 8 ซม. ทำให้แกนโลกหมุนเร็วขึ้น และทำให้ใน 1 วันมีเวลาลดลงเฉลี่ย 1.26 ไมโครวินาที (1 ไมโครวินาทีเท่ากับ 1 ในล้านของวินาที) แผ่นดินไหวสามารถทำให้โลกหมุนเร็วขึ้นจากการดันมวลสารของโลกเขยิบใกล้แกนโลก และสามารถทำให้โลกหมุนช้าลงหากขยับมวลสารออกจากแกนโลก” ...นี่เป็นสรุปเนื้อหาข่าวเมื่อวันก่อน ซึ่งมีการอ้างอิงการเปิดเผยของนักวิทยาศาสตร์องค์การบริหารการบินและอวกาศของสหรัฐอเมริกาหรือนาซา

อย่างไรก็ตาม กับเรื่องนี้ ผศ.ดร.พรชัย พัชรินทร์ตนะกุล ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกว่า... แกนโลกที่เปลี่ยนไป 8 ซม. ทำให้เวลาช้าลงกว่าเดิม 1.26 ไมโคร วินาทีนั้น ถือว่าเล็กน้อยมาก ซึ่งปกติแกนโลกก็ขยับตัวตลอดเวลาอยู่แล้ว โดยถ้าจะถึงกับเปลี่ยนทิศของโลกอย่างชัดเจน ต้องใช้เวลานับหมื่นๆปี เพราะขนาดความกว้างของโลกมีเส้นผ่าศูนย์กลางกว่า 10,000 กม.

“บริเวณทิศเหนือและทิศใต้ของโลกในปัจจุบันเมื่อหลายหมื่นปีมาแล้วก็เป็นเส้นศูนย์สูตรมาก่อน ซึ่งกว่าจะมาเป็นอย่างทุกวันนี้ต้องใช้เวลานานนับหมื่นปี และถ้าใครกลัวเรื่องวันสิ้นโลก ปี ค.ศ.2012 คงเป็นไปไม่ได้ โลกใบนี้จะยังคงหมุนไปในระบบสุริยจักรวาลอีกนานแสนนาน การขยับของแกนโลกแค่ 8 ซม. เวลาช้าลง 1 ในล้านวินาที ถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก” ...นักวิชาการระบุ

ขณะที่นักวิชาการภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬา ลงกรณ์มหาวิทยาลัย อีกคนหนึ่ง คือ ดร.สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ ก็บอกว่า... แกนโลกเป็นส่วนประกอบ 1 ใน 3 ของโครงสร้างภายในโลก ถ้าเราผ่าครึ่งผลไม้เราจะเห็นส่วนประกอบภายใน 3 ส่วนคือ... 1.เปลือกผิวบาง ๆ, 2.เมล็ดที่อยู่แกนกลาง, 3.เนื้อผลไม้ ซึ่งก็เช่นกัน ถ้าผ่าครึ่งโลกได้ก็จะเห็น... 1.เปลือกโลกชั้นบางด้านนอกสุด, 2.แกนโลกขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงแกนกลาง และ 3.ชั้นแมนเทิล ที่ประกอบเป็นเนื้อโลก ซึ่งทั้ง 3 ส่วนนี้สำคัญไม่แตกต่าง-ไม่แยกจากกัน และที่เรียกว่า “แกนโลก” แท้จริงคือแกนสมมุติ เป็นโครงสร้างของโลกที่หมุนไปด้วยกัน

“ถ้าเปรียบกับลูกข่าง แกนโลกคือตะปูตรงกลาง ซึ่งการเหวี่ยงของลูกข่างในระยะแรกๆ แกนลูกข่างจะตั้งตรง พอหมุนไปสักพักแกนก็จะส่าย โลกก็เช่นเดียวกัน แต่กว่าแกนโลกจะส่ายแบบนั้นต้องใช้เวลานานมาก การโคจรของโลกในระบบสุริยจักรวาลทุกวันนี้ยังไม่มีอะไรมารบกวน โลกก็ยังคงหมุนรอบตัวเองและหมุนรอบดวงอาทิตย์ไปเรื่อยๆ ซึ่งหมุนมานานกว่า 5,000 ล้านปีมาแล้ว ไม่ต้องกังวลว่าโลกจะแตกดับไปในเร็วๆนี้ โลกใบนี้จะยังคงหมุนต่อไปอีกเป็นพันล้าน-หมื่นล้านปี” ...ดร.สธนระบุ พร้อมทั้งทิ้งท้ายว่า... ด้วย “ฝีมือมนุษย์” ที่ทำให้อากาศและน้ำเปลี่ยนแปลง นี่ต่างหากที่ “เปลี่ยนโลกไปในทางเลวร้าย”

“หายนะโลก-หายนะมนุษย์” เกิดขึ้นได้เร็ว ๆ นี้แน่

แต่ “ด้วยฝีมือของมนุษย์เราเอง” นี่แหละ !?!?!.



จาก : เดลินิวส์ วันที่ 8 มีนาคม 2553
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม