ดูแบบคำตอบเดียว
  #14  
เก่า 25-01-2010
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default


สึนามิครั้งใหม่! คำพยากรณ์ที่ต้องรับฟัง (ต่อ)

เสียงจากศูนย์ป้องกันภัยพิบัติ



หลังจากรับฟังเสียงชาวบ้านในพื้นที่ที่ทุ่นเตือนภัยสึนามิแบตเตอรี่หมดและหอ เตือนภัยก็ใช้การไม่ได้รวมทั้งไม่มีผู้สนใจเข้ามาดูแลนั้น เมื่อสอบถามไปยัง วิริยะ มงคลวีระพันธ์ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ก็ได้รับคำอธิบายว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด และตอนนี้ทางศูนย์ฯก็ได้มีการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว

ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นนั้น แท้จริงแล้วไม่ได้เกิดจากที่แบตเตอรี่หมด แต่เกิดจากการที่ชาวประมงไปแกะทำให้บางส่วนของทุ่นเตือนภัยส่งสัญญาณไม่ได้ ทำให้ระบบขัดข้อง

“ตอนนี้ทางศูนย์ก็ได้เอาทุ่นตัวใหม่ไปทดแทนตัวเก่าที่สหรัฐอเมริกาบริจาคให้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2552 ส่วนหอเตือนภัยที่อยู่ตาม 6 จังหวัดภาคใต้ได้มีการตรวจเช็คทุกวัน และตอนนี้ผมก็ได้ลงไปตรวจแล้ว สามารถส่งสัญญาณเตือนภัยได้ตามปกติทุกหอทุกจังหวัด”

นอกจากนี้ เรื่องที่มีผู้คาดการณ์ว่าอีกไม่ช้าจะเกิดสึนามิรอบสองและจะส่งผลร้ายแรงกว่าสึนามิในปี 2547 นั้น วิริยะบอกว่า ไม่สามารถรู้ได้แน่ชัด เพราะแม้แต่การเกิดแผ่นดินไหวก็ยังไม่สามารถรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และสึนามิก็เกิดจากแผ่นดินไหว เกิดจากการยกตัวของเปลือกโลก รวมทั้งเทคโนโลยีในปัจจุบันก็ไม่สามารถตรวจล่วงหน้าได้เลย

“การเกิดสึนามิขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการเกิดแผ่นดินไหวในทะเลและการยุบตัวหรือยกตัวมากน้อยขนาดไหนแค่นั้นเอง ทางศูนย์ฯได้เตรียมความพร้อม คือ เมื่อเกิดสึนามิแล้ว เราเตือนประชาชนให้อพยพก่อน และถ้าอยู่นอกน่านน้ำประเทศไทยอย่างช้าที่สุดที่เราสามารถเตือนให้ประชาชนรับรู้ล่วงหน้าก่อนที่คลื่นจะถึงฝั่ง ก็คือ ภายใน 1 ชั่วโมง”


คลื่นยักษ์ที่ไร้เหตุผล



ด้วยความใคร่รู้ว่า การเกิดสึนามิ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการเกิดแผ่นดินไหวในทะเลและการยุบตัวหรือยกตัวของเปลือกโลก เช่นที่ผอ.ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติกล่าวไว้หรือไม่

เราจึงหยิบข้อสงสัยนี้ไปถามไถ่กับนักธรณีวิทยาอย่าง ดร. ศิวัช พงษ์เพียจันทร์ อาจารย์คณะการจัดการสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ จ. สงขลา หนึ่งในทีมวิจัยที่กำลังเก็บข้อมูลตะกอนในท้องทะเลไทย เพื่อค้นหาว่า ในอดีตเคยเกิดสึนามิขึ้นในไทยแล้วกี่ครั้ง ซึ่งนำไปสู่การอนุมานหาระยะเวลา ความน่าจะเป็นที่สึนามิครั้งใหม่จะเกิดขึ้น นับเป็นองค์ความรู้จากภาพอุบัติซ้ำในอดีต ที่ในเมืองไทยยังไม่มีการศึกษาวิจัยแพร่หลายนัก

และคำตอบที่ได้รับจากนักธรณีวิทยาท่านนี้ ทำให้รู้ว่าการเกิดสึนามินั้น ช่างแปรปรวนและยากจะคาดเดา

“สึนามิไม่จำเป็นต้องเกิดจากแผ่นดินไหวเสมอไป เช่น เหตุการณ์สึนามิครั้งรุนแรงที่เคยเกิดขึ้น ก็เกิดขึ้นมาจากการเคลื่อนตัวหรือ 'แลนด์สไลด์' ซึ่งหมายถึงการที่ มวลภูเขาลูกหนึ่งเกิดสไลด์ลงไปในทะเลโดยฉับพลัน แบบนี้น่ากลัวมาก เพราะมันจะเกิดเป็นเมกกะสึนามิ คือ เป็นสึนามิคลื่นใหญ่มาก ซึ่งเท่าที่เคยมีในประวัติศาตร์ก็คือ การเกิดคลื่นเมกะสึนามิที่รัฐอะแลสกา ตอนนั้นมีคลื่นสึนามิสูงประมาณ 500 เมตร

"ประจักษ์พยานตอนนั้นคือชาวประมงที่กำลังตกปลาอยู่ แล้วถูกคลื่นพัดจากเขาลูกหนึ่งไปอยู่บนยอดเขาอีกลูกหนึ่งเลย สาเหตุของการเกิดสึนามิครั้งนั้น ก็เกิดจาการที่ภูเขาสไลด์ตัวลงไปในทะเล มันเป็นความเปราะบางทางชั้นธรณีของภูเขาที่ถูกแรงโน้มถ่วงของโลกฉุดดึงลงไปในฉับพลัน”

นอกจากนี้ การเกิดขึ้นของสึนามิยังมีที่มาจากลักษณะการเคลื่อนตัวของตะกอนใต้ทะเล ในบริเวณที่เรียกว่าไหล่ทวีป เมื่อเกิดการทับถมตัวนานๆแล้วชั้นตะกอนต้านทานแรงโน้มถ่วงไม่ไหวก็จะจมลงไป ซึ่งมวลของมันมหาศาลมาก สามารถสร้างให้เกิดคลื่นสึนามิได้เช่นกัน ยังไม่นับถึงลูกอุกกาบาต ที่ถ้าหากวันดีคืนดีมีลูกอุกาบาตตกลงไปในท้องทะเล ก็ย่อมทำให้เกิดสึนามิได้เช่นเดียวกัน

สึนามิจึงเกิดได้จากหลากหลายปัจจัยทางธรรมชาติ แต่เมื่อแผ่นดินไหวก็ถือเป็นสาเหตุประการหนึ่ง การทุ่มเทเครื่องมือเพื่อตรวจหาแรงสั่นสะเทือนใต้พิภพจึงเป็นวิธีที่ใน ระเทศซึ่งมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีนำมาใช้สำหรับการเฝ้าระวัง ดังคำบอกเล่าจากศิวัช กระนั้นก็ยังไม่สามารถคาดเดาได้อย่างแม่นยำ

“ทุกวันนี้ ยังไม่มีใครสามารถทำนายการเกิดแผ่นดินไหวได้อย่างแม่นยำร้อยเปอร์เซ็นต์ แม้ในต่างประเทศจะมีวิธีการทดสอบการเกิดคลื่นยักษ์โดยฝังท่อโลหะลงไปในพื้นดิน แล้วกระจายเครือข่ายและจับสัญญาณคลื่นแผ่นดินไหวจากใต้พิภพ เมื่อจับสัญญาณที่มีอยู่เพียงนิดเดียวได้แล้ว ก็จะใช้เทคโนโลยีในการวิเคราะห์การเกิดสึนามิ ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับการยอมรับในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีความคลาดเคลื่อนอยู่

“เพราะฉะนั้น คำพยากรณ์ที่ว่าจะมีสึนามิรอบใหม่เกิดขึ้นนั้น ผมมองว่า มันย่อมเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ คำถามที่ว่า เรามีการเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับมันอย่างไรต่างหาก”

ไม่ว่าสิ่งกำบังในการป้องกันสึนามิ หรือเครื่องมือในการเตือนภัย สิ่งเหล่านี้ในความเห็นของศิวัช คือ

“การรับมือด้วยวิธีที่ว่ามา ถ้าถามผม ผมว่าเรายังคงขาดหมดทุกอย่าง เพราะฉะนั้น ผมว่าสิ่งที่ดีที่สุดก็คือ การฝึกให้คนทุกคนพร้อมที่จะรับมือกับสึนามิที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ให้คนรู้จักระวังภัย รู้จักสังเกตระบบเตือนภัย ให้คนหนีเข้าชายฝั่งให้เร็วที่สุด เหล่านี้จะสามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตลงไปได้เยอะเลย

“นอกจากนี้ ผมอยากให้มีการบรรจุเรื่องการหนีภัย การเอาชีวิตรอดจากภัยพิบัติต่างๆลงไปในหลักสูตรการศึกษาของเมืองไทย เพราะทุกวันนี้เรายังไม่มีหลักสูตรว่าด้วยเรื่องของการศึกษาภัยพิบัติทางธรรมชาติสักเท่าไหร่ และไม่จำเป็นจะต้องเป็นสึนามิอย่างเดียว ควรจะมีเรื่องของแผ่นดินไหวและภาวะโลกร้อนด้วย เพราะเราจะต้องอยู่กับธรรมชาติไปตลอดชีวิต สิ่งเหล่านี้ถือเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจ”

………......



"หากดูจากวงโคจร การตรึงและดึงดูดกันของดวงดาว ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า ในปี 2553 นี้จะมีอุบัติภัยครั้งร้ายแรงเกิดขึ้น ในช่วงเดือนกรกฏาคมถึงสิงหาคม เพราะฉะนั้นแล้ว คนที่รับผิดชอบก็ฟังๆไว้บ้าง คนเขาทัก จะได้มีการเตรียมการรับมือกันได้ทัน จากที่หนักจะได้เป็นเบา"

ว่าไปแล้ว เสียงทักท้วงจากโหรภิญโญก็น่ารับฟังไม่น้อยไปกว่าตรรกะทางธรณีวิทยาหรือศาสตร์แขนงใดๆ ถ้าการรับฟังนั้น มิได้หมายถึงงมงาย แต่คือการเตรียมพร้อมรับมือกับมหันตภัยที่อาจจะเกิดขึ้นได้โดยไม่คาดคิด




จาก : เดลินิวส์ วันที่ 25 มกราคม 2553
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม