ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 22-04-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,241
Default

ขอบคุณข่าวจาก Greennews


เชียงใหม่ลุยปลูกป่าฟื้นฟูหลังไฟเผา นักวิชาการเตือนทำผิดวิธีเสี่ยงเสียมากกว่าได้ ................... โดย ปรัชญ์ รุจิวนารมย์

จังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับกรมป่าไม้เตรียมปลูกป่าฟื้นฟู 20,700 จุด หลังวิกฤตไฟป่าครั้งรุนแรงหลายพื้นที่ของจังหวัด ในช่วงวันต้นไม้แห่งชาติ 21 พฤษภาคม ด้านนักวิชาการป่าไม้ชี้ การปลูกป่าซ่อมแซมพื้นที่ถูกไฟไหม้ ต้องทำอย่างระมัดระวังยิ่ง มิเช่นนั้นอาจส่งผลเสียต่อระบบนิเวศหนักยิ่งขึ้นไปอีก

เมื่อวันที่ 20 เมษายน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ คมสัน สุวรรณอัมพา เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ไฟป่ารุนแรงในพื้นที่ภาคเหนือในช่วงฤดูแล้งปีนี้ ทำให้พื้นที่ป่าเป็นบริเวณกว้างถูกไฟป่าเผาจนได้รับความเสียหาย ดังนั้นทางจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้ร่วมกับกรมป่าไม้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการฟื้นฟูป่าโดยการปลูกป่า ในพื้นที่ทั้งหมดกว่า 20,700 จุด ใน 25 อำเภอ ทั่ว จ.เชียงใหม่ โดยมีกำหนดการในการเตรียมแปลงในช่วง วันพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ วันที่ 11 พฤษภาคม นี้ และจะเริ่มลงมือปลูกในวันวันต้นไม้แห่งชาติ 21 พฤษภาคม นี้


ไฟป่าพื้นที่ป่าไม้ที่ได้รับความเสียหายจากไฟป่า //ขอบคุณภาพจาก: กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม-ประเทศไทย

"สำหรับกระบวนการปลูกป่า ขอให้ทุกคนมั่นใจได้ว่า ทางกรมป่าไม้ได้มีการจัดหาพันธุ์ไม้พื้นถิ่น มาใช้ในการฟื้นฟูพื้นที่ป่าที่ถูกเผาเสียหาย นอกจากนี้ เรายังได้กล้าไม้ผลจำนวนมากจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้มาใช้ในการปลูกป่าด้วย" คมสัน กล่าว

เขาระบุว่า ในการปลูกป่าเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ป่าที่ได้รับความเสียหายจากไฟป่าครั้งนี้ หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องจะดึงภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างแน่นอน เพื่อเป็นการปลูกฝั่งให้ชุมชนมีส่วนร่วมรักษาป่า โดยเฉพาะในหมู่เยาวชน

จากการสำรวจความเสียหายไฟป่าในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบน โดยกรมป่าไม้ พบว่า มีพื้นที่ป่าที่เสียหายจำนวน 55,266 ไร่ คิดเป็น 0.18% ของพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ (30,148,622 ไร่) ซึ่งพื้นที่ความเสียหายส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 17,771 ไร่ และในส่วนของการดำเนินคดีมีเพิ่ม 50 คดี คดีสะสมอยู่ 963 คดี (ตั้งแต่ 30 มี.ค.-17 เม.ย. 63) มีผู้ต้องหาเพิ่ม 5 ราย ในท้องที่จังหวัดเชียงใหม่ 4 ราย สะสมรวม 38 ราย

สำหรับข้อมูลพื้นที่ได้รับผลกระทบไฟป่าในเขตป่าอนุรักษ์ โดยสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เผยว่า จ.เชียงใหม่ มีพื้นที่ป่าอนุรักษ์ถูกไฟไหม้ทั้งหมด 51,216 ระหว่างช่วงวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2562 ? 16 เมษายน พ.ศ.2563 มีการดับไฟป่าทั้งหมด 2,263 ครั้ง

อย่างไรก็ดี ผศ.ดร.สุทธาธร ไชยเรืองศรี ผู้จัดการฝ่ายการศึกษา หน่วยวิจัยการฟื้นฟูป่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า การฟื้นฟูไฟป่าโดยการปลูกป่าซ่อมแซมจำเป็นต้องมีการศึกษาพื้นที่อย่างละเอียดก่อนการดำเนินการ และการปลูกป่าจะต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศซ้ำเติมเข้าไปอีก

"สิ่งสำคัญที่สุดในการฟื้นฟูป่าภายหลังไฟป่า คือการสำรวจว่าพื้นที่ป่าที่ได้รับผลกระทบเป็นพื้นที่ป่าแบบใด และได้รับความเสียหายในระดับใด เนื่องจากไฟป่าในปีนี้มีความรุนแรงมาก จนลามไปถึงป่าดิบเขา ที่มีระบบนิเวศแตกต่างจากป่าเบญจพรรณ ซึ่งระบบนิเวศมีความคุ้นชินกับการเกิดไฟป่ามากกว่า" ผศ.ดร.สุทธาธร กล่าว

"การสำรวจประเมินความเสียหายก่อนการดำเนินการฟื้นฟูป่าเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อที่จะวางแผนในการฟื้นฟูอย่างเหมาะสม ยกตัวอย่างเช่น หากพื้นที่ไฟไหม้เกิดขึ้นในพื้นที่ป่าดิบเขา อาจจำเป็นต้องมีการปลูกป่าแซมเพื่อฟื้นฟู โดยจะต้องใช้พรรณไม้พื้นถิ่นเป็นหลัก แต่ในบางพื้นที่เช่น ป่าเบญจพรรณ ที่ไม่ถูกไฟไหม้เสียหายมาก อาจเพียงแค่ทำแนวป้องกันไม่ให้มีไฟเข้ามาอีก เพื่อให้ป่าฟื้นฟูตนเองโดยไม่ต้องปลูกป่าเพิ่ม"

เธอชี้ว่า การปลูกป่าแต่ละครั้งจำเป็นต้องใช้งบประมาณ และการดูแลอย่างมาก เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ เพื่อให้การลงทุนปลูกป่าเกิดประโยชน์สูงสุด หามิเช่นนั้น การปลูกป่าที่ทำอย่างไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ อาจนำมาซึ่งผลเสียต่อระบบนิเวศมากยิ่งขึ้น


กล้าไม้กล้าไม้ที่กรมป่าไม้เพาะพันธุ์เพื่อเตรียมการปลูกป่า //ขอบคุณภาพจาก: กรมป่าไม้

"อีกสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงเมื่อเราใช้วิธีปลูกป่าเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ถูกไฟไหม้ป่า นั่นก็คือการดูแลหลังปลูกป่า เพราะเมื่อปลูกป่าแล้ว กล้าไม้จำเป็นต้องมีการดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อให้แน่ใจว่าต้นไม้ทั้งหมดจะอยู่รอดเติบโต เป็นเวลาอย่างน้อย 2 ปีเต็ม" ผศ.ดร.สุทธาธร กล่าว

"พื้นที่ป่าที่เพิ่งถูกไฟไหม้ จะเปิดช่องให้วัชพืชเติบโตอย่างรวดเร็วจนเป็นอันตรายต่อกล้าไม้ ดังนั้นหากไม่มีการดูแลหลังปลูก ปลูกป่าเสร็จแล้วปล่อยปละละเลย กล้าไม้ส่วนใหญ่จะตายไปอย่างน่าเสียดาย"

เธอแนะนำว่า ภาครัฐควรทำงานร่วมกับนักวิชาการที่เกี่ยวข้อง และชาวบ้านในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าการฟื้นฟูป่าจะดำเนินการอย่างเหมาะสม


https://greennews.agency/?p=20915
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม