ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 11-12-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,241
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


เปิดให้เที่ยวแล้ว "อ่าวมาหยา" 1 ม.ค.นี้ เปิดจองคิว 20 ธ.ค.เข้าได้วันละ 4 พันคน หลังปิดนาน 2 ปี



กระบี่ - กรมอุทยานฯ เปิดให้เที่ยว "อ่าวมาหยา" จ.กระบี่ ได้แล้วตั้งแต่ 1 ม.ค.นี้ หลังปิดมานาน 2 ปี จำกัดจำนวนเรือและคน เข้าได้วันละ 4,125 คน เปิดให้จองในแอปพลิเคชันคิวคิว ตั้งแต่ 20 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป เต็มจำนวนระบบปิดทันที เพื่อให้เกิดความสมดุลทั้งการท่องเที่ยวและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

ตามที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ได้เตรียมความพร้อมในการเปิดแหล่งท่องเที่ยว "อ่าวมาหยา" เพื่อให้บริการในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี หลังจากที่กรมอุทยานฯ ได้ประกาศปิดอ่าวมาหยามานานกว่า 2 ปี ตั้งแต่ปี 2561 เพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ และในวันที่ 1 ม.ค.2565 นี้ ทางกรมอุทยานฯ ได้ประกาศเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวได้อีกครั้ง เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการท่องเที่ยว

นายดำรัส โพธิ์ประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายปราโมทย์ แก้วนาม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ได้ประชุมร่วมกับภาคเอกชน สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว สมาคมมัคคุเทศก์ ผู้ประกอบการเรือทัวร์นำเที่ยว และผู้ประกอบการเรือหัวโทงนำเที่ยว ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ พังงา และจังหวัดภูเก็ต จัดขึ้นที่ห้องประชุมอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่

เพื่อร่วมปรึกษาหารือกำหนดแนวทางในการถือและปฏิบัติตามมาตรการในการนำนักท่องเที่ยวเข้าไปในพื้นที่อ่าวมาหยา ซึ่งจะเปิดให้นักท่องเที่ยวไปเข้าเที่ยวชมและลงเล่นน้ำดูปะการังน้ำตื้นได้ ในวันที่ 1 มกราคม 2565 เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ประกอบการนำเที่ยว และผู้ประกอบกิจการต่อเนื่อง เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ ให้มีความเจริญก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ภายหลังจากที่กรมอุทยานแห่งชาติปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวอ่าวมาหยา มาเป็นเวลากว่า 2 ปี ทั้งผู้ประกอบการนำเที่ยวต้องประสบกับปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มาเป็นเวลาเกือบ 2 ปี

การประชุมได้ข้อสรุปว่า "อ่าวมาหยา" จะเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวเข้าไปในพื้นที่ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นไป โดยนักท่องเที่ยวสามารเหยียบอ่าวมาหยาได้ตั้งแต่เวลา 07.00 น. และออกจากอ่าวมาหยา เวลา 18.00 น. เรือนำเที่ยวเข้าเทียบท่าได้วันละ 11 รอบๆ ละ 375 คน รวมทั้งวัน 4,125 คน นักท่องเที่ยวลงดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นได้ 22 รอบๆ ละ 99 คน ในเวลา 45 นาที และลงเล่นน้ำหน้าชายหาดได้คนละ 1 ชั่วโมง ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เข้าเหยียบอ่าวมาหยาช่วงช่วงเช้าน่าจะมีโอกาสได้พบกับฝูงฉลามหูดำที่ออกมาหากินอยู่ริมชายหาด และผู้ที่ดำน้ำชมปะการังน้ำตื้น จะได้พบกับกุ้งมังกร 7 สี แต่ขึ้นอยู่กับโอกาส และความโชคดีของแต่ละคน ว่า ช่วงนั้นสภาพท้องทะเลเป็นอย่างไร โดยอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จะเปิดให้จองผ่านแอปพลิเคชัน QueQ คิวคิว ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2564 เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป

นายดำรัส โพธิ์ประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กล่าวว่า การประชุมผู้ประกอบการท่องเที่ยว 3 จังหวัดในการที่จะมาทำการท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ หรืออุทยานใกล้เคียง มีข้อตกลงร่วมกันที่จะทำให้การท่องเที่ยวแห่งนี้มีความยั่งยืน การกำหนดการเข้าไปเหยียบพื้นที่เป็นรอบๆ ละ 375 คน ซึ่งทางผู้ประกอบการเห็นด้วย ซึ่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชจะกลับไปปรับปรุงเรื่องการจองคิว ทั้งนี้ สิ่งอื่นที่เราต้องการตามมาคือ เป็นการท่องเที่ยวที่ผู้ประกอบการเล็งเห็นความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลเรื่องของปะการัง ทรัพยากรต่างๆ อีกทั้งให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามข้อห้ามต่างๆ เช่น เรื่องขยะ

ถ้าระบบนี้ออกมาแล้วสิ่งที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช คาดหวังคือ ความพึงพอใจของนักท่องเที่ยว เมื่อนักท่องเที่ยวมีความพึงพอใจแล้ว เชื่อว่านักท่องเที่ยวทั่วโลกที่รับข้อมูลข่าวสารจะเห็นว่าแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นอันดับ 1 อยู่แล้ว คือ อ่าวมาหยา มีการพัฒนาการไปอย่างไร เชื่อว่าจะเป็นมิติที่ดีและขยายผลเป็นอ่าวมาหยาโมเดลไปปฏิบัติในพื้นที่อื่นๆ ด้วย

นายดำรัส กล่าวต่อไปว่า การเข้าอ่าวมาหยา จะถูกล็อกด้วยระบบที่วางเอาไว้ต่อรอบๆ ละ 375 คน ซึ่งระบบการจองผ่านระบบการจองแอปพลิเคชัน QueQ คิวคิว จะมีช่องทางให้เลือกว่าบริษัทนี้จองมากี่คนจนกระทั่งครบตามจำนวนแต่ละรอบแล้วจะปิดระบบ ไปจองในระบบรอบต่อไป หรือวันถัดไป

ทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช อยากฝากไปถึงนักท่องเที่ยวขอให้ยึดตามกฎเกณฑ์นี้ ความพึงพอใจของท่านคือความสุขของเรา และจากการที่นายกรัฐมนตรี ได้มาประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดกระบี่ ซึ่งได้เลือกหาดนพรัตน์ธารา เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เปิดการท่องเที่ยวในภาพรวมของจังหวัดกระบี่ และได้ให้แนวทางไว้ รวมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทุกท่านตั้งแต่ระดับสูงทั้งกระทรวง กรม มีความคาดหวังว่าเมื่อเปิดแหล่งท่องเที่ยวอ่าวมาหยาแล้ว นักท่องเที่ยวให้ความร่วมมือ ผู้ประกอบการให้ความร่วมมือ ความสำเร็จของการท่องเที่ยวที่เราคาดการณ์ไว้น่าจะประสบความสำเร็จตามที่คาดหวังไว้

การที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ เปิดอ่าวมาหยา ในวันที่ 1 มกราคม 2565 นี้ ถือว่าเป็นวันดีฤกษ์ดีนั้นคือ วันปีใหม่ ถือเป็นการมอบของขวัญให้นักท่องเที่ยว แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ให้ผู้ประกอบการได้มีช่องทางในการที่จะทำธุรกิจให้ดีขึ้นต่อไป กรมอุทยานฯ พร้อมที่จะตอบสนองในเรื่องของการท่องเที่ยวเช่นกัน ทุกอย่างต้องไปควบคู่กัน ถือว่าเป็นการให้ของขวัญให้พี่น้องนักท่องเที่ยวทุกคน


https://mgronline.com/south/detail/9640000122136


*********************************************************************************************************************************************************


ชาวบ้าน 3 ตำบลรวมตัวจัดทัพเรือประมงพื้นบ้านค้านโครงการ "นิคมอุตสาหกรรมจะนะ"

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชาวบ้าน 3 ตำบลใน อ.จะนะ จ.สงขลา รวมตัวจัดทัพเรือประมงพื้นบ้านค้านโครงการ ?นิคมอุตสาหกรรมจะนะ? เรียกร้องยุติการดำเนินคดีกับกลุ่มแกนนำที่ถูกจับกุมทั้ง 37 คน ประกาศลั่นเตรียมระดมพลขึ้นไปสมทบที่กรุงเทพฯ เพื่อรอฟังคำตอบจากรัฐบาล 13 ธ.ค.นี้



วันนี้ (10 ธ.ค.) ที่บริเวณชายหาดบ้านบ่อโชน หมู่ 7 ต.สะกอม อ.จะนะ จ.สงขลา ทางกลุ่มผู้คัดค้านโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ทั้งเครือข่ายจะนะถิ่น สมาคมรักษ์ทะเลจะนะ รวมทั้งกลุ่มชาวประมงพื้นที่บ้าน และชาวบ้านในพื้นที่ 3 ตำบลของโครงการ ทั้ง ต.นาทับ ต.ตลิ่งชัน ต.สะกอม และองค์กรอิสระต่างๆ ราว 400 คน ได้รวมตัวกันแสดงพลัง และแสดงเจตนารมณ์หยุดนิคมอุตสาหกรรมจะนะ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งประกาศจุดยืนหยุดเวลาเวทีรับฟังความคิดเห็น EIA ฉ้อฉล พร้อมกับการระดมเรือประมงพื้นบ้านในพื้นที่ 3 ตำบลหลายสิบลำ เพื่อมาแสดงพลังในครั้งนี้ด้วย แต่ไม่สามารถเคลื่อนขบวนมายังชายทะเลฝั่งที่มีการรวมตัวกันได้ เนื่องจากมรสุมคลื่นลมแรง จึงต้องจอดลอยลำอยู่ในอ่าวอีกฟาก

โดยหลังจากมีการปราศรัยทั้งจากตัวแทนชาวบ้าน และปราชญ์ชาวบ้านในพื้นที่ ก็ได้มีการปราศรัยจาก นายมังโสด หมะเต๊ะ ผู้บริหารของโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามใน อ.จะนะ ถึงความไม่ชอบมาพากลของโครงการนี้ รวมทั้งแสดงความไม่เห็นด้วย และคัดค้านโครงการ รวมทั้งระบุว่าจะมีการระดมผู้นำจากโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้อีกหลายแห่งที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ เดินทางขึ้นไปสมทบกับกลุ่มแกนนำที่ปักหลักอยู่ที่กรุงเทพฯ ภายใน 1-2 วันนี้ เพื่อร่วมกันเรียกร้อง และฟังคำตอบที่ชัดเจนในเรื่องนี้จากทางฝั่งของรัฐบาล

หลังจากนั้นได้มีการอ่านแถลงการณ์จากทัพเรือประมงพื้นบ้าน ณ ชายฝั่งทะเลจะนะ โดย น.ส.สารีด๊ะ นิยมเดชา ซึ่งใจความสำคัญได้อธิบายถึงบริบทของพื้นที่ รวมไปถึงวิถีชีวิตของคนชุมชนที่เป็นแหล่งทำประมงพื้นบ้านที่สำคัญของประเทศ และระบุว่ารัฐบาลกลับรวมหัวกันกับนายทุน เพื่อปล้นทรัพยากรจากชาวบ้านไปให้นายทุนทำอุตสาหกรรม ซึ่งแม้จะมีการรวมตัวเรียกร้องให้หยุดโครงการ และทำการประเมินสิ่งแวดล้อมเชิงยุทธศาสตร์หรือ SEA ซึ่งรัฐบาลได้ตกลงแล้ว แต่กลับไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง และยังคงเดินหน้าโครงการต่อไป

โดยในแถลงการณ์ฉบับนี้ได้มีการเสนอข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาลรวม 4 ข้อคือ การขอทวงสัญญาจากรัฐบาลที่ตกลงเอาไว้เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2563 ว่ารัฐบาลจะจัดให้มีการประเมินผลเชิงยุทธศาสตร์การพัฒนาหรือ SEA แบบมีส่วนร่วม ที่จะมีคณะศึกษาอันเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย เพื่อให้รัฐบาลมีข้อมูลทางวิชาการที่ถูกต้อง ครบถ้วน และมาประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ



นอกจากนี้ รัฐบาลต้องสั่งให้ยุติการเดินหน้าโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะไว้ก่อนตามข้อตกลง รวมถึงหยุดการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือ EIA ที่จะจัดขึ้นราวกลางเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งขัดกับข้อตกลง และยังขัดต่อหลักสากล ด้วยการจัดรับฟังความเห็นไม่มีคณะกรรมการรับฟังความเห็นที่เป็นกลาง แต่จัดโดยผู้ศึกษา อีกทั้งยั้งจัดทางออนไลน์ที่คนในชุมชนจำนวนมากเข้าร่วมไม่ได้ เพราะไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ และหากรัฐบาลยังปล่อยให้มีการจัดรับฟังความเห็นต่อไป พวกตนขอประกาศไม่ยอมรับ และถือว่าเป็นการกระทำที่ตระบัดสัตย์ของรัฐบาล

อีกทั้งรัฐบาลต้องยุติการดำเนินคดีกับกลุ่มแกนนำผู้คัดค้าน 37 คน ซึ่งถูกจับกุมเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2564 ทั้งที่ชุมนุมโดยสงบ และมีเป้าหมายเพียง "ทวงคำตอบจากรัฐบาลที่ผิดคำสัญญา" และสุดท้ายคือทางกลุ่มผู้คัดค้าน และชาวบ้านในพื้นที่จะไปทวงคำสัญญาอย่างเป็นทางการ ที่ทำเนียบรัฐบาลอีกครั้งในวันที่ 13 ธันวาคม 2564 และขอเชิญชวนพี่น้องทุกคนเข้าร่วมการต่อสู้ในครั้งนี้ด้วย

น.ส.สารีด๊ะ นิยมเดชา ผู้อ่านแถลงการณ์ ระบุด้วยว่า การทำโครงการขนาดใหญ่จะต้องมีการประเมินสิ่งแวดล้อมเชิงยุทธศาสตร์หรือ SEA แบบมีส่วนร่วม เพื่อให้เกิดการพัฒนาประเทศที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง ซึ่งขณะนี้ชัดเจนว่า ?นิคมอุตสาหกรรมจะนะ? ไม่ใช่การพัฒนา แต่คือการอ้างคำว่า "พัฒนา" เพื่อสร้างความชอบธรรมในการปล้นทรัพยากร และปล้นสิทธิชุมชน นำไปตอบสนองต่อนายทุน และนักการเมืองฉ้อฉลเพียงเท่านั้น


https://mgronline.com/south/detail/9640000122329

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม