ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 16-03-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,241
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


กัมพูชาตั้งเขตอนุรักษ์สกัดทำประมงผิดกฎหมาย ปกป้องโลมาแม่น้ำโขงให้รอดพ้นสูญพันธุ์



เอเอฟพี - ฝูงโลมาอิรวดีหายากแหวกว่ายไปตามลำน้ำสีขุ่นของแม่น้ำโขงเรียกเสียงฮือฮาจากบรรดานักท่องเที่ยวที่เฝ้ารอดูพวกมันโผล่พ้นผิวน้ำจากเรือที่ลอยลำอยู่ใกล้ๆ

ภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจเหล่านี้อาจกลายเป็นเพียงความทรงจำในไม่ช้า เนื่องจากจำนวนประชากรของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ใกล้สูญพันธุ์นี้กำลังลดลงเรื่อยๆ แม้จะมีความพยายามที่จะรักษาพวกมันไว้ก็ตาม

กัมพูชาได้ประกาศข้อจำกัดใหม่ที่เข้มงวดขึ้นกับการจับปลาในแม่น้ำโขงอันกว้างใหญ่แห่งนี้เพื่อพยายามลดจำนวนโลมาที่ตายเพราะอวนจับปลา

แต่ในประเทศที่มีทรัพยากรทางการเงินจำกัด นับเป็นความท้าทายอย่างใหญ่หลวงในการบังคับใช้กฎระเบียบดังกล่าวกับแม่น้ำที่กว้างหลายร้อยเมตร และเต็มไปด้วยเกาะแก่งและพุ่มไม้หนา

"เรากลัวว่าจะปกป้องคุ้มครองพวกมันไม่ได้" พล พะโรง หนึ่งในผู้ตรวจตราแม่น้ำกล่าวระหว่างลาดตระเวนค้นหาอวนผิดกฎหมาย

อวนติดตาเป็นตาข่ายแนวตั้งที่ทิ้งไว้ในน้ำเป็นเวลานานใช้ดักจับปลาแบบไม่เลือก และเป็นสาเหตุหลักของการตายของโลมาในแม่น้ำโขง ตามการระบุของนักอนุรักษ์

พะโรงเป็นหนึ่งในผู้เฝ้าตรวจตราแม่น้ำกว่า 70 คน ที่ออกลาดตระเวนตามลำน้ำโขง ที่มีระยะทาง 120 กิโลเมตร จากจ.กระแจะ ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ไปจนถึงชายแดนลาว

ผู้ตรวจตราแม่น้ำเหล่านี้กล่าวว่าความพยายามของพวกเขาถูกขัดขวางจากทรัพยากรที่มีจำกัด และการข่มขู่ของแก๊งจับปลา

ม็อก พลล็อก เจ้าหน้าที่จากกรมประมงที่เป็นหัวหน้าหน่วยอนุรักษ์โลมาในจ.กระแจะ กล่าวว่าหน่วยของเขามีผู้ตรวจตราแม่น้ำ 44 คน ที่คอยเฝ้าระวังการทำประมงผิดกฎหมายในแม่น้ำเป็นระยะทาง 85 กิโลเมตร แต่หากจะให้การทำงานมีประสิทธิภาพต้องใช้คนอย่างน้อย 60 คน และหากไม่มีคนเหล่านี้ พวกเขาก็กำลังพ่ายแพ้ให้กับคนจับปลาในแม่น้ำ

"ถ้าเราออกลาดตระเวนตอนกลางคืน คนจับปลาก็จะไม่ออกมา พอเรากลับเข้าฝั่ง พวกเขาก็ไปที่แม่น้ำ" พะโรง กล่าว

นอกจากจำนวนคนที่ไม่เพียงพอแล้ว ค่าจ้างต่ำยังหมายความว่าผู้ตรวจตราแม่น้ำถูกบังคับให้ต้องทำงานพิเศษบนบกเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว ทำให้พวกเขาต้องละหน้าที่ลาดตระเวน ผู้ตรวจตราแม่น้ำแต่ละคนได้รับเงินประมาณ 65 ดอลลาร์ต่อเดือนจากรัฐบาล ขณะที่ WWF ให้เงินอีก 5 ดอลลาร์สำหรับวันที่ออกลาดตระเวน

โลมาอิรวดี สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กขี้อาย หน้าผากปูดกลมและจงอยปากสั้น ครั้งหนึ่งเคยว่ายผ่านแม่น้ำโขงไปจนถึงสามเหลี่ยมปากแม่น้ำในเวียดนาม

การทำประมงผิดกฎหมายและขยะพลาสติกคร่าชีวิตโลมาไปเป็นจำนวนมาก และที่อยู่อาศัยของโลมาก็ลดลงเนื่องจากเขื่อนต้นน้ำและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อระดับน้ำในแม่น้ำ

ประชากรโลมาในแม่น้ำโขงลดลงจาก 200 ตัว เมื่อครั้งดำเนินการสำรวจสำมะโนประชากรครั้งแรกในปี 2540 เหลือเพียง 89 ตัวในปี 2563

สิ่งมีชีวิตสายพันธุ์นี้อาศัยอยู่ในแม่น้ำอีก 2 สายเท่านั้น คือแม่น้ำอิรวดีของพม่า และแม่น้ำมาฮากัมในอินโดนีเซีย ตามการระบุของ WWF

โลมาในแม่น้ำทั้ง 3 สายนี้ถูกระบุว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่งในบัญชีแดงของสหภาพเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN)

โลมาอิรวดีที่พบได้ทั้งในน้ำจืดและน้ำเค็ม มีจำนวนมากกว่าเล็กน้อยในพื้นที่ชายฝั่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ แม้ว่าพวกมันจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มสิ่งมีชีวิตใกล้สูญพันธุ์ก็ตาม

อย่างไรก็ตาม มีความวิตกกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับอนาคตของโลมาแม่น้ำโขง เนื่องจากประมาณ 70% ของประชากรโลมาในตอนนี้อยู่ในวัยที่แก่เกินกว่าจะขยายพันธุ์

ในช่วงปีที่ผ่านมา มีโลมาแม่น้ำโขงตายถึง 11 ตัว และเฉพาะในเดือนธ.ค. พบโลมาวัยผสมพันธุ์สุขภาพดี 3 ตัว ติดอวนและแหตายภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์ เหตุการณ์ที่ยิ่งทำให้นักอนุรักษ์วิตกกังวลมากขึ้น

"มันเป็นสัญญาณที่น่ากังวลอย่างยิ่ง" ผู้อำนวยการ WWF กัมพูชา กล่าวกับเอเอฟพี

"เราต้องดำเนินการอีกมากเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งมีชีวิตชนิดนี้จะอยู่รอดในแม่น้ำโขง" ผู้อำนวยการ WWF กัมพูชากล่าว และเรียกร้องให้รัฐบาลระดมทรัพยากรมากขึ้นเพื่อปกป้องคุ้มครองโลมา

ในปลายเดือนก.พ. ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีฮุนเซนได้ออกกฎหมายใหม่กำหนดเขตคุ้มครองที่ห้ามจับปลา ผู้ฝ่าฝืนอาจถูกจำคุกสูงสุด 1 ปี จากการใช้อวนจับปลา และจำคุกสูงสุด 5 ปี จากการจับปลาด้วยไฟฟ้าในพื้นที่อนุรักษ์

ในพื้นที่อนุรักษ์แห่งหนึ่งรอบหมู่บ้าน Kampi มีผู้ตรวจตรา 24 คน ออกลาดตระเวนไปตามแม่น้ำครอบคลุมพื้นที่ขนาด 22 ตารางกิโลเมตร ตลอด 24 ชั่วโมง

"ถ้าพวกเขาวางอวนในเขตอนุรักษ์ เราจะจับกุมพวกเขา ถ้าพวกเขาใช้วิธีช็อตไฟฟ้า พวกเขาจะถูกจับตัวส่งศาล ไม่มีความปรานีใดๆ ทั้งสิ้น" พลล็อก กล่าว

จนถึงตอนนี้ แรงผลักดันที่เพิ่มขึ้นดูเหมือนจะได้ผล ไม่มีโลมาตาย และเริ่มมีแสงแห่งความหวัง

"เราได้รับข่าวจากผู้ให้บริการเรือท่องเที่ยวว่ามีลูกโลมาเกิดใหม่เมื่อไม่กี่วันก่อน" พลล็อก กล่าว

ชาวบ้านหลายคนที่เลี้ยงชีพด้วยการพานักท่องเที่ยวไปดูโลมาหรือขายของที่ระลึกยังแสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับอนาคตของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเหล่านี้เช่นกัน

"ถ้าโลมาหายไป เราก็จบสิ้นเพราะรายได้ของเรามาจากโลมา เมื่อก่อนนี้มีโลมาเยอะมาก แต่ตอนนี้พวกมันเริ่มหายไปแล้ว ฉันรู้สึกกังวลมาก" มาส แมรี อายุ 53 ปี ที่มีรายได้วันละ 15 ดอลลาร์จากการล่องเรือ กล่าว.


https://mgronline.com/indochina/detail/9660000024481

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม