ดูแบบคำตอบเดียว
  #68  
เก่า 21-07-2015
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,159
Default

greennewstv
16-05-2015

ส่องเพื่อนบ้านอาเซียน จัดการประมงอย่างไรจึงรอดพ้นใบเหลือง EU

ตัวอย่างจากอินโดนีเซีย-ฟิลิปปินส์ รอดพ้นใบเหลือง EU ด้วยหลักการมีส่วนร่วมของชุมชน และเด็ดขาดกับประมงผิดกฎหมาย ขณะที่ภาคประชาสังคมชี้ประเทศไทยยังเดินหน้าแก้ใบเหลืองผิดทาง


ภาพจาก dailymail.co.uk

ประเทศไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ล้วนเป็นประเทศที่ก่อนหน้านี้มีความเสี่ยงได้ใบเหลืองกรณีการประมงจากคณะกรรมการยุโรป (EU) ซึ่งสิ่งที่ 3 ประเทศทำเหมือนกันคือ คลอดกฎหมายประมงฉบับใหม่ออกมา

ผลจากกฎหมายใหม่ทำให้ประเทศอินโดนีเซียกลายเป็นตัวอย่างความเด็ดขาดของการบังคับใช้ สิ่งที่ประเทศนี้ทำคือเมื่อตรวจพบการจับปลาแบบผิดกฏหมายในน่านน้ำของตน ทางการจะยึดเรือทันที จากนั้นมีการตัดสินโดยศาลอย่างรวดเร็ว ก่อนจะทิ้งระเบิดจมเรือเหล่านั้นสู่ก้นทะเล และท้ายที่สุดอินโดนีเซียไม่เคยได้รับใบเหลืองจาก EU เลย

“อินโดนีเซียทำเพื่อแสดงให้เห็นว่าเรื่องนี้มันร้ายแรง และแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา เพราะอย่างนี้จึงไม่ได้โดนใบเหลืองเลย” อัญชลี พิพัฒนาวัฒนากุล ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านทะเลและมหาสมุททรกรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าว

ส่วนประเทศฟิลิปปินส์ใช้เวลา 11 เดือน ในการปลดล็อคใบเหลือง ที่ EU มอบให้ตั้งแต่กลางปี 2557 “อัญชลี พิพัฒนาวัฒนากุล” ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านทะเลและมหาสมุทรกรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เห็นว่าสิ่งสำคัญคือการมีส่วนร่วมของชุมชน ซึ่งรัฐบาลของฟิลิปปินส์ให้ความสำคัญกับประมงพื้นบ้านไม่ต่างกับตัวเลขการส่งออกของประมงพาณิชย์ เห็นได้จากเมื่อประมงพื้นบ้านรวมตัวกันเสนอรายชื่อเครื่องมือประมงแบบทำลายล้าง ภาครัฐก็รับฟังและรีบออกมาตรการเพื่อมาจัดการกับประมงเหล่านั้น หรือให้ชาวประมงในชุมชนร่วมตรวจการณ์กับเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อเฝ้าระวังเรือประมงผิดกฎหมาย


เวทีเสวนา “ใบเหลืองอียู : ชะตากรรมทะเลไทยในอุ้งมือรัฐและอุตสาหกรรมประมง”

ส่วนสถานการณ์ของไทยภายหลัง EU ตัดสินใจให้ใบเหลืองด้านประมงเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ส่งผลให้พระราชบัญญัติการประมงใหม่ของไทยเปิดช่องให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น โดยสามารถรวมกลุ่มประมงพื้นบ้านและมีโอกาสส่งตัวแทนเข้าไปเป็นคณะกรรมการของจังหวัด ซึ่งมีสิทธิ์ผลักดันนโยบายได้ แต่ “วิโชคศักดิ์ รณรงค์ไพรี” ผู้จัดการสมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทยเห็นว่าโอกาสนี้จะเกิดขึ้นสำหรับชุมชนที่ตื่นตัวเท่านั้น ซ้ำการตัดสินใจที่แท้จริงยังคงอยู่ในมือของฝ่ายบริหาร

“สมมติว่ากรรมการจังหวัดมีมติร่วมกันทั้งจังหวัดว่าประมงชนิดนี้จังหวัดตนถือว่าเป็นประมงแบบผิดกฎหมาย แต่ถ้ารัฐมนตรีไม่อนุญาตก็ประกาศใช้ไม่ได้ เพราะอำนาจในกฎหมายยังคงเป็นของฝ่ายการเมือง หรืออยู่ในมือคนเดียวคือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์”

สิ่งสำคัญมากไปกว่านั้นคือการจัดการกับประมงผิดกฎหมาย โดยเฉพาะประมงพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่เมื่อฝ่าฝืนกฎหมายด้วยการใช้เครื่องมือผิดประเภท หรือเข้ามาทำประมงในเขตหวงห้าม ยังคงระบุโทษไว้เพียงการปรับเท่านั้น

“กฎหมายใหม่ถ้าจะปรับให้ถาม 3 คน อัยการ หัวหน้าตำรวจ และประมงจังหวัด ผมเป็นอวนลากผมจ่าย 3 คนเลยคราวนี้ เพราะสิ่งที่ผมกลัวคือการริบเรือ ผมไม่กลัวค่าปรับ ซ้ำทำผิดแล้วไม่ต้องส่งฟ้องศาลแต่เปรียบเทียบปรับได้เลย ผมก็จ่ายค่าปรับตอนเช้าก็ออกเรือเหมือนเดิม” วิโชคศักดิ์อธิบายถึงช่องโหว่ขนาดใหญ่ของกฏหมาย

ทำให้ข้อสรุปจากเวทีจึงเห็นตรงกันว่า มาตรการของไทยออกมาอย่างรีบร้อนเกินไป ซึ่งกฎหมายฉบับใหม่อาจจะลวง EU ได้สักพัก แต่เมื่อมองไกลไปในระยะยาว ยังไม่มีข้อใดที่สามารถแก้ไขปัญหาประมงได้อย่างแท้จริง

__________________
Saaychol
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม