ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 17-11-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,283
Default

ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์


เอาจริง! ลุยจับร้านอาหารดังภูเก็ต ขาย 'ปลานกแก้ว' ทำอาหารให้ลูกค้า

กรม "ทช." ออกปฏิบัติการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จับร้านอาหารชื่อดัง ใน จ.ภูเก็ต ลักลอบขายปลานกแก้ว นำไปประกอบอาหารให้ลูกค้า



เมื่อวันที่ 16 พ.ย. มีรายงานว่า สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 10 (สทช.10) โดยศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลจังหวัดภูเก็ต และศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน ได้ออกปฏิบัติการตรวจตราบังคับใช้กฎหมายในกรณีที่มีการฝ่าฝืนประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. 2560 ลงวันที่ 23 พ.ย. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563 ลงวันที่ 18 พ.ย. 2563 ในพื้นที่ ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต

ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองกำกับการ 5 สังกัดกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรจังหวัดภูเก็ต และหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลท้ายเหมือง (พังงา) หลังได้รับแจ้งมีการลักลอบ ค้าขายปลานกแก้ว ในวงศ์ Scaridae ขนาดไม่เกิน 50 ซม. ซึ่งเป็นปลาสวยงามตามบัญชี 3 ท้ายประกาศกระทรวงฯ

เบื้องต้นสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดจำนวน 3 ราย ได้แก่ 1.ผู้จัดการร้านอาหารชื่อ ชิคเรสเตอร์รองท์ ของกลางปลานกแก้ว 9 ตัว 2.ผู้จัดการร้านอาหารชื่อ บาวว์ตี้ซีฟู๊ด ของกลางปลานกแก้ว จำนวน 5 ตัว และ 3.เจ้าของร้านอาหารชื่อ ต้นตาลซีฟู๊ด ของกลางปลานกแก้ว 2 ตัว ได้แจ้งข้อกล่าวหาในความผิดฐานฝ่าฝืน ข้อ 11 (8) ห้ามจับหรือครอบครองปลาสวยงามตามบัญชี 3 ท้ายประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดังกล่าว โดยนำผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรกะรน จังหวัดภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


https://www.dailynews.co.th/news/1691052/


*********************************************************************************************************************************************************


'ตูวาลู' หันหาเมตาเวิร์ส เหตุระดับน้ำทะเลคุกคามการดำรงอยู่

ตูวาลูมีแผนที่จะสร้างประเทศของตัวเองในรูปแบบดิจิทัล โดยจำลองเกาะและสถานที่สำคัญต่าง ๆ เพื่อรักษาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไว้ เนื่องจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น กำลังคุกคาม และจมประเทศเกาะขนาดเล็กในมหาสมุทรแปซิฟิกแห่งนี้



สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากเมืองชาร์ม เอล-ชีค ประเทศอียิปต์ เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ว่า นายไซมอน โคเฟ รมว.ต่างประเทศตูวาลู กล่าวกับที่ประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามกรอบของอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ยูเอ็นเอฟซีซีซี) ครั้งที่ 27 หรือ ?คอป 27? ว่า มันถึงเวลาที่จะต้องพิจารณาวิธีแก้ปัญหาอื่นเพื่อความอยู่ของตูวาลู ซึ่งสิ่งนี้รวมถึงการทำให้ตูวาลูอยู่ในรูปแบบดิจิทัลในเมตาเวิร์ส เป็นประเทศแรกของโลกอีกด้วย

"แผ่นดินของเรา มหาสมุทรของเรา วัฒนธรรมของเรา เป็นทรัพย์สินที่มีค่ามากที่สุดสำหรับผู้คนของเรา และเพื่อทำให้สิ่งเหล่านั้นปลอดภัยจากอันตราย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในโลกความเป็นจริงก็ตาม เราจะย้ายพวกมันไปยังพื้นที่ดิจิทัล" โคเฟ กล่าวในคลิปวิดีโอที่เขายืนอยู่บนแบบจำลองดิจิทัลของเกาะเล็ก ๆ ซึ่งถูกคุกคามจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น

ตูวาลู ประเทศที่ประกอบด้วยเกาะขนาดเล็ก 9 เกาะ และมีประชากรราว 12,000 คน ซึ่งตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างออสเตรเลียและหมู่เกาะฮาวาย คือประเด็นที่ทำให้เกิดการถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง เกี่ยวกับความเสี่ยงของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูง โดยพื้นที่ของกรุงฟูนะฟูตี มากถึง 40% ต้องจมบาดาลเมื่อถึงช่วงน้ำขึ้น และมีการคาดการณ์ว่า ทั้งประเทศจะจมอยู่ใต้น้ำภายในสิ้นศตวรรษนี้

ทั้งนี้ โคเฟหวังว่าการสร้างประเทศในรูปแบบดิจิทัลจะช่วยให้ตูวาลูทำหน้าที่เป็นรัฐต่อไปได้ และมันยังเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับประเทศของเขา เนื่องจากรัฐบาลเริ่มความพยายามเพื่อทำให้แน่ใจว่า ตูวาลูจะยังคงได้รับการยอมรับในระดับสากลว่าเป็นประเทศ รวมถึงการยอมรับเขตแดนทางทะเลและทรัพยากรในน่านน้ำเหล่านั้นต่อไป แม้ว่าประเทศจะจมบาดาลโดยสมบูรณ์ก็ตาม


https://www.dailynews.co.th/news/1690122/


*********************************************************************************************************************************************************


พบ 'เหรียญทองโบราณ' โผล่ริมหาดแคนาดา อายุเก่าแก่ยิ่งกว่ายุคก่อตั้งประเทศ

นักตรวจจับและเก็บเศษโลหะในแคนาดา ตรวจพบเหรียญทองโบราณริมชายฝั่ง คาดว่าเป็นเหรียญทองที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยมีการค้นพบในประเทศ และอาจทำให้ต้องเปลี่ยนแปลงข้อมูลในประวัติศาสตร์เสียใหม่


เครดิตภาพ : gov.nl.ca.

รัฐบาลท้องถิ่นของรัฐนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์แห่งแคนาดา เผยแพร่ข่าวเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2565 ว่า มีการค้นพบเหรียญทองโบราณของอังกฤษ โดยนักตรวจจับและเก็บเศษโลหะรายหนึ่งที่บริเวณริมฝั่งทะเล ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ซึ่งเขาได้รายงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายว่าด้วยแหล่งประวัติศาสตร์ของแคนาดา

เอ็ดเวิร์ด ไฮนส์ ผู้ใช้เครื่องมือสแกนโลหะจนพบเหรียญดังกล่าว ที่ชายฝั่งของรัฐนิวฟันด์แลนด์ เล่าว่า เขาได้ยินเสียงเตือนจากเครื่องว่า พบชิ้นส่วนที่เป็นโลหะ จึงลงมือขุดพื้นทรายลงไปราว 5 นิ้ว และพบเหรียญทองที่มีลวดลายแกะสลักที่ซับซ้อนและโค้งงอเป็นคลื่นเล็กน้อย มันมีสีเหลืองสดใสและเนื้อบางมาก ในตอนแรกเขาคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นเหรียญทองคำ แต่คิดว่าเป็นกระดุมหรือแผ่นป้ายอะไรสักอย่างมากกว่า

ไฮนส์ ได้แจ้งไปยังหน่วยงานของทางการถึงการค้นพบของเขา ซึ่งต่อมา เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเหรียญเงินโบราณ ได้ระบุว่า เหรียญทองดังกล่าวเป็นเหรียญ Quater noble จากสมัยพระเจ้าเฮนรีที่ 6 ของอังกฤษ ผลิตขึ้นใช้ครั้งแรกในกรุงลอนดอน ระหว่างปี ค.ศ. 1422-1427 ซึ่งเท่ากับว่า มีอายุเก่าแก่ยิ่งกว่าประเทศแคนาดา ซึ่งสถาปนาขึ้นในปี ค.ศ. 1867 มากกว่า 400 ปี

ทีมผู้เชี่ยวชาญยังไม่สามารถระบุได้ว่า เหรียญทองคำเหรียญนี้เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลกว่า 32,000 กม. มายังแคนาดาได้อย่างไร แต่กล่าวว่า ตอนที่เหรียญเดินทางมาถึงแคนาดา ไม่น่าจะเป็นช่วงที่ยังใช้เหรียญชนิดนี้ในระบบเงินตราของอังกฤษแล้ว?

เมื่อปีที่แล้ว ก็เคยมีการพบเหรียญเงินที่ผลิตราวทศวรรษที่ 1490 ในเมืองแคนเทอเบอรี ของอังกฤษในรัฐนี้ และได้รับการยอมรับว่า เป็นเหรียญเงินอังกฤษที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยมีการค้นพบในแคนาดา และอาจจะเก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยมีการค้นพบในทวีปอเมริกาเหนือ

ตามข้อมูลทางประวัติศาสตร์ จอห์น คาบอต นักสำรวจชาวอิตาลี ได้ชื่อว่าเป็นนักสำรวจคนแรกจากทวีปยุโรป ที่เดินทางมายังพื้นที่ที่เป็นรัฐนิวฟันด์แลนด์ในปัจจุบัน เมื่อปี ค.ศ. 1497 ขณะที่การค้นพบเหรียญทองเหรียญล่าสุดในครั้งนี้ คือเหรียญที่ผลิตขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1420 ของรัชสมัยพระเจ้าเฮนรีที่ 6?

หากข้อมูลของเหรียญทองดังกล่าวได้รับการยืนยันว่าถูกต้อง ก็เท่ากับว่า จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลทางประวัติศาสตร์ใหม่ และ คาบอต ก็จะไม่ใช่นักสำรวจคนแรกที่เดินทางมาถึงพื้นที่นี้อีกต่อไป

ตามตำนานเก่าแก่ยอดนิยมระบุว่า มีกลุ่มนักบวชชาวไอริช นำโดย นักบุญเบรนเดน เคยล่องเรือมายังนิวฟันด์แลนด์ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 6 และจากกรณีศึกษาเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสาร Nature ก็ได้เปิดเผยว่า พบหลักฐานที่บ่งบอกว่ามีชาวไวกิ้งเคยมาอาศัยอยู่ในพื้นที่ของนิวฟันด์แลนด์ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1021

แหล่งข่าว : miamiherald.com


https://www.dailynews.co.th/news/1689841/

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม