ดูแบบคำตอบเดียว
  #104  
เก่า 06-03-2011
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is online now
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,107
Default


เกาะสุรินทร์...เมื่อสิ้นคำสั่งปิดเกาะ ................... โดย คมฉาน ตะวันฉาย



ก่อนหน้าเกิดสึนามิ ผมมีโอกาสไปดำดิ่งทิ้งตัวลงใต้น้ำที่หมู่เกาะสุรินทร์บ้าง กองหินริเชริว กองหินแพ แต่ไม่บ่อยครั้งเท่าที่หมู่เกาะสิมิลัน

ที่หมู่เกาะสุรินทร์ แค่เอาหน้าจุ่มลงไปใต้ผิวน้ำ ไม่ต้องมีเครื่องเคราอุปกรณ์ดำน้ำลึกให้เกะกะ สวรรค์ใต้ผืนน้ำก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า ที่นี่จึงขึ้นชื่อในเรื่องของการเป็นแหล่งดำน้ำตื้นที่สุดยอดของบ้านเรา น้ำทะเลใสราวตู้ปลา ปะการังใต้ทะเลส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มปะการังโครงสร้างแข็ง เช่นพวกเขากวาง ปะการังโต๊ะ กลุ่มผักกาด หรือพวกโขดทั้งหลาย จะสมบูรณ์มาก ไม่อาจเรียกว่าแนวปะการัง แต่ควรเรียกว่า "ป่าปะการัง" มากกว่า เพราะปะการังจะเป็นพรืดเหมือนสนามหญ้า มองเห็นใต้น้ำจนสุดตา

เมื่อมีปะการังก็ย่อมมีปลา ปลาน้อยใหญ่หากินกันตามแนวปะการัง เสียงปลานกแก้วตอดกินปะการังได้ยินจากใต้น้ำชัดเจน แม้แนวปะการังจะตื้นแต่ก็เห็นกุ้งมังกรหนวดยาวซ่อนตัวตามโพรงปะการัง ปลาไหลมอร์เรย์โผล่หัวออกมาจากซอกกองหินอ้าปากพะงาบๆ ฯลฯ เหล่านี้คือประสบการณ์ที่สุดประทับใจ



แต่หลังจากสึนามิ ผมไม่มีโอกาสได้ไปเยือนหมู่เกาะสุรินทร์อีกเลย ได้แต่ถามไถ่จากมิตรสหายว่าสภาพปะการังเป็นอย่างไรบ้าง ลำพังปะการังน้ำลึกผมไม่ค่อยห่วง แต่ปะการังน้ำตื้นคงมีผลกระทบเหมือนกัน แต่อะไรก็ไม่หนักหนาเท่ากับการเกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว ที่เป็นผลมาจากอุณหภูมิของน้ำทะเลที่ร้อนขึ้น แล้วตัวปะการังที่อยู่ในช่องเล็กๆในโครงสร้างหินปูนทั้งหลายก็จะตาย ยิ่งร้อนนาน ยิ่งตายมาก เหลือแต่โครงสร้างหินปูนสีขาว

นานเข้าก็จะมีตะไคร่มีตะกอนมาเกาะเป็นสีดำไปในที่สุด ซึ่งในแวดวงคนดำน้ำหรือคนที่สนใจเรื่องทางทะเลรับรู้ปรากฏการณ์นี้กันมานานแล้ว พูดตามตรงว่าสำหรับเรื่องนี้ เราทำอะไรแทบไม่ได้เลย เหมือนต้องศิโรราบต่อปัญหานี้ก็ว่าได้ จนกระทั่งกรมอุทยานฯมีคำสั่งปิดบางส่วนของเกาะต่างๆทางทะเลอันดามัน รวมทั้งหมู่เกาะสุรินทร์ด้วย

สิ่งหนึ่งที่ตามมาทันทีคือ บรรดาผู้ประกอบการท่องเที่ยวทางทะเลทั้งหลาย ทั้งกิจการดำน้ำ เรือทัวร์ แม้กระทั่งโรงแรมที่พัก ได้รับผลกระทบกันถ้วนทั่ว เรียกว่าปีนี้ภาคใต้โดนไปหนัก ตั้งแต่น้ำท่วมอย่างยืดเยื้อ โดนลมปากของหมอดูว่าจะเกิดสึนามิ นี่ยังไม่นับรวมความไม่สงบใน 3 จังหวัดภาคใต้ที่ยังคงระอุอยู่ เพียงแค่นี้ก็แทบปิดฝาโลงเรื่องท่องเที่ยวภาคใต้ได้แล้ว อันนี้ก็เห็นใจอยู่

ต้องยอมรับกันว่าผู้ประกอบการเองก็มีส่วนทำร้ายทะเล ไม่ว่าจะเป็นการแอบดำน้ำลงไปน็อคปลาสวยงาม รวมทั้งปะการังอ่อนทั้งหลายส่งขายกรุงเทพ การให้อาหารปลา การส่งเสริมการขายอาหารปลาแก่นักท่องเที่ยว การทิ้งสมอนอกเขตทุ่น การแอบปล่อยน้ำเสียจากเรือ บางทีเลวร้ายแอบปล่อยน้ำมันเครื่องลงทะเลก็มี



ส่วนผู้ประกอบการดำน้ำก็แย่งกันสอนนักดำน้ำ 3 วัน แล้วขายทัวร์ดำน้ำให้นักเรียนใหม่เลยลงไปใต้น้ำ ปลายตีนกบก็ไปปาดปะการังอ่อน ดอกไม้ทะเล เคยเห็นนักดำน้ำมือใหม่ลงไปนั่งทับกองปะการังเพราะยังปรับสภาพสมดุลใต้น้ำไม่เก่ง เรือดำน้ำสิบๆลำ ปล่อยนักดำน้ำลงจุดเดียวทั้งหมด เรียกว่ามองไปใต้น้ำเห็นแต่นักดำน้ำเกลื่อนไปหมด แล้วก็มักจัดโปรแกรมแบบเรียกแขกวันเดียวดำกันตั้ง 5 ไดรฟ์ กลางคืนยังลงดำเลย ยังมีพฤติกรรมอีกมากมายที่ผู้ประกอบการณ์เองก็เป็นผู้ลงมือทำ "ปู้ยี่ปู้ยำทะเล" เรียกว่าตอนนั้น "ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา" จริงๆ

พอกรมอุทยานฯประกาศปิดเกาะ ผมจึงทั้งเห็นใจและสาแก่ใจอยู่บ้าง แต่เอาเถอะเมื่อปัญหาเกิดขึ้นแล้ว ป่วยการจะมาว่ากัน เราไม่อาจทำให้อุณหภูมิของโลกลดลงเองได้ แต่เราสามารถลดผลกระทบที่เกิดจากการกระทำของเราได้ วันนี้คงต้องช่วยกันจริงๆ ไม่ต้องมาเรียกร้องให้ทางรัฐทำอย่างนั้นอย่างนี้ให้

ท่านต้องรวมตัวกันแล้วทำเพื่อทะเลจริงๆเสียที เห็นว่ามีเรือประมงแอบลากปลาในเขตที่ปิดเกาะ ท่านก็ต้องเอาธุระ ไปแจ้งไปตามเจ้าหน้าที่มาจับ กัดให้ติดแบบกลุ่มกรีนพีซที่เขาขัดขวางการล่าวาฬของญี่ปุ่น ไม่ใช่แค่โทรไปแจ้งเจ้าหน้าที่ ส่วนเขาจะมาทำอะไรหรือไม่ก็หมดธุระ แค่นั้นไม่ได้ ต้องทำอะไรมากกว่าการมาเรียกร้องนั่นเรียกร้องนี่ เพราะนั่นจะพิสูจน์ว่าท่านเอาใจใส่หม้อข้าวท่านจริงหรือเปล่า



ส่วนนักท่องเที่ยวแบบเราๆท่านๆ แม้จะมีบางส่วนที่เขาปิดเพื่อทดลองดูการฟื้นตัวของปะการัง แต่ก็ยังมีหลายส่วนที่ยังคงความงามไม่เสื่อมคลาย อย่างที่หมู่เกาะสุรินทร์ที่ ผมได้มีโอกาสลงไปดูสภาพใต้ทะเลเร็วๆนี้ ปะการังหลายๆที่อย่างอ่าวสับปะรด อ่าวผักกาด หินแพ ปะการังมีลักษณะหัก พัง แบบราพณาสูรมาตั้งแต่คราวสึนามิ แต่น้ำทะเลที่ใสจึงยังมีปลาทะเลน้อยใหญ่มาให้เห็น แม้ไม่มากดั่งแต่ก่อน ใต้น้ำอาจจะด้อยลงไปบ้างแต่สภาพทิวทัศน์ หาดทรายที่สวยงาม สะอาด ยังเป็นมนต์เสน่ห์ของหมู่เกาะสุรินทร์

ทั้งที่อ่าวช่องขาดหรือที่อ่าวไม้งาม แม้จะเป็นวันธรรมดาก็ยังเห็นนักท่องเที่ยวหนาตา ฝรั่งมังค่ามากางเต็นท์กันเป็นเดือนเพราะหลงใหลทะเลบ้านเรา แม้ใต้ทะเลจะถูกปิดบางส่วน แต่ความเป็นหมู่เกาะสุรินทร์ยังคงสวยงาม ไม่ผิดหวัง ยังคงขายได้และยังน่าไปเยือนอยู่เสมอ มีโอกาสลองไปดูครับ แล้วจะภาคภูมิใจกับประเทศชาติของเรา

อย่าไปจมปลักกับสิ่งที่มันผ่านมาแล้ว โดยเฉพาะกับสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ แต่ให้มองไปข้างหน้า แล้วเอาปรากฏการณ์ครั้งนี้มาเป็นบทเรียนว่าต่อไป เราจะใช้ประโยชน์จากทะเลอย่างทะนุถนอม ไม่ใช่เป็นลักษณะ “ทึ้ง” ทะเลอย่างที่เคยเป็นมา เรียกร้องคนอื่นให้น้อยลง เรียกร้องตัวเองให้มากขึ้น และอย่าดูดายคิดว่าธุระไม่ใช่ เพราะบทเรียนครั้งนี้มันสอนอะไรหลายๆอย่างให้เราแล้ว

ส่วนคนที่มีหน้าที่ฟื้นฟูก็เร่งทำและทำอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่หาเรื่องเอางบประมาณมายังชีพเล่น มีโอกาสได้ทำแล้วก็ฝากชื่อให้แผ่นดินเถอะครับ ทำดีให้ที่อื่นๆยังทำได้ ที่นี่บ้านเรา...ประเทศเรานะครับ




จาก ....................... กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 6 มีนาคม 2554
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม