ดูแบบคำตอบเดียว
  #7  
เก่า 13-04-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,371
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ


พลิกปูมมหันตภัยโลกเดือด หายนะ...นิเวศทางทะเล อากาศร้อน...ฆ่าคนได้ .............. ต่อ




"ระวังภาวะฮีทสโตรก"

ผลกระทบอย่างรุนแรงจากจากสภาวะ "โลกเดือด" และปรากฎการณ์ "เอลนีโญ"ส่งผลให้ประเทศไทยมีสภาพอากาศร้อนจัด และแม้ว่าคนไทยจะคุ้นชินกับอากาศร้อน แต่อุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในฤดูร้อน เดือน เม.ย. หลายพื้นที่อุณภูมิเกิน 40 องศาฯ นับว่าเป็นสภาพอากาศที่ร้อนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ตั้งแต่เจ็บปวดเล็กน้อย หรืออาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต

ยิ่งสภาพอากาศร้อนจัด ยังส่งผลให้ประชากรไทย 80% ตกอยู่ในความเสี่ยงจากภัยสุขภาพ โดยสถานการณ์ที่ต้องเฝ้าระวังท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัด คือ "ภาวะฮีทสโตรก" หรือ "ภาวะลมแดด" อันมีสาเหตุหลักๆ มาจากความร้อนสูงร้อนอบอยู่ในร่างกาย เป็นภาวะที่เกิดจากร่างกายมีความร้อนสูงเกินไปและไม่สามารถระบายความร้อนออกจากร่างกายได้ทัน มักเกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิร่างกายสูง 40 องศาเซลเซียส

ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ระหว่างเดือนมีนาคม - พฤษภาคม ปี 2558 - 2564 มีรายงานผู้เสียชีวิตจากภาวะอากาศร้อน ทั้งสิ้น 234 คนเฉลี่ย 33 คนต่อปี และมีรายงานผู้ป่วยประมาณ 2,500 - 3,000 คนต่อปี

ขณะที่ องค์การอนามัยโลก (WHO) คาดการณ์ว่าประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุเสียชีวิตจากความร้อนในอัตรา 58 ต่อแสนประชากร หรือ 14,000 คน ภายในปี 2623 หรือในอีก 57 ปีข้างหน้า โดยเตือนให้ประชาชนเตรียมรับมือและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

เช่นเดียวกับ กรมการแพทย์ ได้มีคำเตือนออกมาเพื่อให้ประชาชนเฝ้าระวังและสังเกตอาการ "ฮีทสโตรก" หรือ "โรคลมแดด" ในฤดูร้อนของไทยท่ามกลางอุณหภูมิสูงแตะ 40 องศาเซลเซียส ทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เผยผลคาดการณ์ว่าอุณหภูมิ ปี 2567 จะสูงขึ้นกว่าปีก่อน อาจถึง 44.5 องศาเซลเซียส ซึ่งมีความเสี่ยงส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยดูได้จากค่าดัชนีความร้อน ซึ่งเป็นค่าที่สะท้อนความรู้สึกร้อนของร่างกาย จากการนำอุณหภูมิของอากาศมาคิดร่วมกับความชื้นสัมพัทธ์ เนื่องจากเมื่อความชื้นสัมพัทธ์สูงจะทำให้เหงื่อระเหยยาก และส่งผลให้รู้สึกร้อนกว่าอุณหภูมิจริงของอากาศ หากค่าดัชนีความร้อนเกิน 40 องศาเซลเซียส จะมีความเสี่ยงเกิดโรคลมแดด หรือโรคฮีทสโตรก (Heat Stroke) ซึ่งเป็นภาวะที่ร่างกายร้อนจัดจนส่งผลกระทบต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย และเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้

"กลุ่มเสี่ยงที่อาจเกิดโรคฮีทสโตรก ได้แก่ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และโรคอ้วน จึงควรอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ส่วนผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงแต่ต้องอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน จะมีโอกาสเกิดฮีทสโตรกได้เช่นกัน ดังนั้น หากต้องทำงานกลางแจ้ง ควรเลี่ยงการสวมชุดที่มีสีเข้ม เนื่องจากจะดูดซับความร้อนได้ดี ดื่มน้ำมากๆ และสลับเข้าพักในที่ร่มเป็นระยะ เช่น ทุก 30 นาที หรือทุกชั่วโมง"

นพ.มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่าประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากภาวะฮีตสโตรกไม่มากนัก หากเทียบกับบางประเทศที่อากาศร้อนสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ในช่วง 5 - 6 ปีที่ผ่านมา เริ่มมีคนไทยเสียชีวิตจากฮีตสโตรกมากขึ้น เพราะหลายคนมีความจำเป็นต้องออกไปพื้นที่กลางแจ้งแดดจัด แม้แต่การอยู่ในพื้นที่อับ ร้อนจัด มีความชื้น อากาศถ่ายเทไม่สะดวก จะมีความเสี่ยง รวมถึงกลุ่มเสี่ยงจะต้องระวังทั้งทารก เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ คนพิการทางสมอง เป็นโรคหัวใจ และความดัน

ขณะที่ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ แสดงความกังวลว่าฮีทสโตรกเป็นอีกภัยสุขภาพที่คนทั่วไปอาจไม่ได้ให้ความสนใจเท่าใดนัก แม้ว่าโรคดังกล่าวกำลังมีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อยๆ และหากรักษาไม่ทันกาลอาจส่งผลร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต

ทั้งหมดนี้เป็นผลกระทบเพียงส่วนหนึ่งจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอย่างรุนแรง ต้องติดตามว่าทั่วโลกจะดำเนินการแก้ไขสภาวะโลกเดือด หรือผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้นได้อย่างไร


https://mgronline.com/daily/detail/9670000032258

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม