ชื่อกระทู้: แผ่นดินที่หายไป (3)
ดูแบบคำตอบเดียว
  #10  
เก่า 07-09-2009
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default


เมื่อเราเดินมาใกล้ถึงปลายทางซึ่งเป็นจุดชมวิวทะเล จะได้ยินเสียงเครื่องเรือของชาวบ้านแว่วมาในระยะไม่ไกล แสงสว่างจากท้องทะเลส่องผ่านปากทางร่มไม้สองข้างที่โอบตัวเป็นเหมือนอุโมงค์ เมื่อพ้นบริเวณร่มไม้มาแล้วจะพบศาลานั่งเล่นขนาบอยู่ทั้งสองข้างของทางเดิน และปรากฏผืนน้ำทะเลอยู่เบื้องหน้า ซึ่งแม้น้ำทะเลจะไม่ได้มีสีสันสวยงามเหมือนแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อแห่ง อื่น แต่ที่แห่งนี้ก็ได้ชื่อว่าเป็นทะเลแห่งเดียวของเมืองหลวงอันทันสมัยนี้ โดยสะพานไม้จะทอดยาวออกไปในทะเลและที่สุดทางทำเป็นจุดยืนชมวิว โดยเมื่อมองออกไปในระยะไม่ไกลจะพบฝูงนกยางและนกนางนวลกำลังพักผ่อนและหา อาหารอยู่บริเวณแนวชายฝั่งเป็นจำนวนมาก


แนวไม้ไผ่ ภูมิปัญญาพื้นบ้านในการรับมือปัญหากัดเซาะชายฝั่ง

และที่ตรงนี้เองที่เราได้เห็นถึงปรากฏการณ์กัดเซาะชายฝั่งที่ได้ยิน ตามสื่อต่างๆ อยู่เป็นประจำ สิ่งที่สังเกตเห็นคือแนวต้นแสมที่ล้มระเนระนาดและประตูระบายน้ำเข้านากุ้ง ที่จมอยู่กลางทะเลซึ่งเป็นหลักฐานที่ชัดเจนของการสูญเสียแผ่นดินชายฝั่งซึ่ง เป็นปัญหาใหญ่ของชาวกรุงเทพฯ ทุกคน แต่สิ่งที่ทำให้เราพอชื้นใจขึ้นมาบ้างคือได้เห็นมีการเริ่มสร้างแนวไม้ไผ่ เพื่อลดแรงปะทะของคลื่นในบริเวณนี้แล้ว จากคำบอกเล่าของอาจารย์เกรียงศักดิ์ ฤกษ์งาม หรือครูแดง อาจารย์ประจำโรงเรียนคลองพิทยาลงกรณ์และผู้ริเริ่มโครงการอนุรักษ์สิ่งแวด ล้อมในพื้นที่ชายทะเลบางขุนเทียน การกัดเซาะชายฝั่งกรุงเทพฯ ได้เกิดขึ้นมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว แต่ในอดีตปัญหานี้ไม่ได้รับการใส่ใจจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากนัก แต่เมื่อชาวบ้านในท้องที่เริ่มได้รับผลกระทบมากขึ้น จึงได้มีการร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน จนผลักดันให้เกิดเป็นโครงการความร่วมมือแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมใน ปัจจุบัน


สภาพแนวต้นแสมที่ล้มลงก่อนหน้าที่จะมีการสร้างแนวไม้ไผ่เพื่อลดความแรงคลื่น

สำหรับการแก้ปัญหาการกัดเซาะนั้น เดิมทางกรุงเทพมหานครได้เคยจัดสร้างแนวหินทิ้งบริเวณชายฝั่งเพื่อลดแรงปะทะ ของคลื่น ต่อมาได้เสนอการสร้างรอดักทรายรูปตัวทีหรือ “ที-กรอยน์” (T-Groin) โดยการวาง “ใส้กรอกทราย” แต่ชาวบ้านในพื้นที่ได้คัดค้านแนวทางนี้ โดยอธิบายว่าเมื่อใส้กรอกทรายแตกออกจะทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศป่าชาย เลนจากการกระจายตัวของทรายซึ่งไม่ใช่ส่วนประกอบตามธรรมชาติของหาดเลน นอกจากนี้ครูแดงยังเล่าต่อไปว่าการแก้ปัญหากัดเซาะชายฝั่งด้วยการสร้างแนว ไม้ไผ่นั้น ชาวบางขุนเทียนได้ต้นแบบมาจากตำบลโคกขาม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งประสบปัญหาเดียวกัน ปรากฏว่าแนวไม้ไผ่นั้นนอกจากจะช่วยลดแรงปะทะของคลื่นได้ดีแล้ว ยังช่วยในการกักเก็บตะกอนที่อยู่ในน้ำ ทำให้เกิดการสะสมของตะกอนที่จะงอกกลับมาเป็นพื้นดินอีกครั้งด้วย อีกทั้งไม้ไผ่ยังเป็นวัสดุธรรมชาติที่สามารถย่อยสลายได้ และได้ช่วยสร้างงานให้กับชาวบ้านในจังหวัดอื่นที่ปลูกต้นไผ่เพื่อขาย และชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งได้รับการว่าจ้างให้ปักแนวไม่ไผ่อีกด้วย โดยที่ผ่านมาโครงการสร้างแนวไม้ไผ่นำร่องในเขตทะเลบางขุนเทียนความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากมูลนิธิชุมชนไทย ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการแก้ปัญหาชุมชนท้องถิ่นโดยใช้ภูมิปัญญาชาว บ้านและแรงงานในพื้นที่


ภายในพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเขตบางขุนเทียน

นอกจากการเดินศึกษาเส้นทางป่าชายเลนแล้ว สถานที่อีกแห่งหนึ่งที่พลาดไม่ได้ในการมาเที่ยวชมทะเลกรุงเทพฯ ครั้งนี้คือพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเขตบางขุนเทียนซึ่ง ตั้งอยู่ในโรงเรียนคลองพิทยาลงกรณ์นั่นเอง ซึ่งพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นแห่งนี้ มีการจัดแสดงประวัติความเป็นมา รวมไปถึงข้อมูลสถานที่ต่างๆ ของเขตบางขุนเทียนเอาไว้อย่างละเอียด โดยมีการแยกหมวดหมู่การจัดแสดงไว้ดังนี้: ภาพรวมกรุงเทพฯ, บางขุนเทียนบนเส้นทางประวัติศาสตร์, สวนบางขุนเทียน, ชาวพื้นเมืองในบางขุนเทียน, บุคคลสำคัญของบางขุนเทียน, สถานที่สำคัญของบางขุนเทียน, ทะเลกรุงเทพฯ, และบางขุนเทียนวันนี้ นอกจากนี้ภายในพื้นที่ด้านหลังของโรงเรียนยังได้มีการจัดตั้งแหล่งเรียนรู้ ระบบนิเวศป่าชายเลนบางขุนเทียน โดยมีการปลูกพืชชายเลนชนิดต่างๆ และจำลองวิถีชีวิตของชาวบ้านในพื้นที่เขตบางขุนเทียนมาจัดแสดงให้ชมอย่างครบ วงจร เรียกได้ว่าเป็นการย่อส่วนป่าชายเลนและชุมชนท้องถิ่นมาไว้ให้ชมได้ภายใน พื้นที่จำลองแห่งนี้นั่นเอง นอกจากนี้ผู้เยี่ยมชมยังสามารถทดลองปลูกป่าชายเลนภายในแปลงสาธิตในบริเวณ เดียวกันนี้ได้อีกด้วย

ก่อนเดินทางกลับเรายังได้แวะไปเที่ยวชมบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของชาว บ้านและสัมผัสวิถีชีวิตการทำกินของคนในพื้นที่ ซึ่งในบริเวณนี้มีการเพาะเลี้ยงกุ้งกุลาดำ หอยแครง และปูม้าอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ยังสามารถหาซื้อวัตถุดิบอาหารทะเลเหล่านี้ติดมือกลับบ้านได้ในราคา ย่อมเยา หรือหากต้องการสัมผัสวิถีชีวิตลูกน้ำเค็มชาวบางขุนเทียนอย่างใกล้ชิดมากขึ้น สามารถติดต่อขอค้างคืนแบบโฮมสเตย์ได้ที่บ้านในชุมชนแสนตอได้อีกด้วย ซึ่งการมาเยี่ยมชมป่าชายเลนและทะเลกรุงเทพฯ นอกจากจะได้มาเที่ยวทะเลโดยไม่ต้องขับรถไปไกลแล้ว ยังได้ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และมีโอกาสชิมอาหารทะเลที่อร่อยในราคาไม่แพงไปพร้อมกัน เห็นอย่างนี้แล้ววันว่างโอกาสต่อไป หากยังนึกจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวไม่ออกหรือไม่อยากเดินทางไปไกล อย่าลืมนึกถึงชายทะเลบางขุนเทียนที่แสนสงบแห่งนี้ที่ซึ่งรอคอยการมาเยี่ยมชม ของท่านเสมอ



จาก : ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 6 กันยายน 2552


__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม