ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 14-01-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


เฮ! นักดำที่กระบี่น้ำพบฉลามวาฬยาว 5 เมตร หนัก 2 ตัน ชี้ทะเลสมบูรณ์ขึ้น

กระบี่ - เฮ! นักดำน้ำพบฉลามวาฬยาว 5 เมตร หนัก 2 ตัน ที่เกาะบิดานอก ติดอ่าวมาหยา ชี้ท้องทะเลกระบี่สมบูรณ์ เป็นผลมาจากมาตรการปิดอ่าวมาหยา เพื่อฟื้นฟูสภาพสิ่งแวดล้อมใต้ทะเลและบนบก



นายวรพจน์ ล้อมลิ้ม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราและหมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ กล่าวว่า วันนี้ (13 ม.ค.) ได้รับแจ้งจากผู้ประกอบกิจการท่องเที่ยวด้านการดำน้ำ และได้รับคลิปวิดีโอที่นักดำน้ำบันทึกภาพฉลามวาฬมาได้ บริเวณเกาะบิดานอก ซึ่งอยู่ติดกับอ่าวมาหยา หมู่เกาะพีพี เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราและหมู่เกาะพีพี หมู่ที่ 7 บ้านเกาะพีพี ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่

ซึ่งฉลามวาฬตัวนี้มีความยาวประมาณ 5 เมตร น้ำหนักประมาณไม่ต่ำกว่า 2 พันกิโลกรัม หรือ 2 ตัน กำลังแหวกว่ายเล่นน้ำและหากินแพลงก์ตอน ในระดับความลึกของผิวน้ำที่ระยะ 5 เมตร โดยไม่เกรงกลัวผู้คนที่ดำน้ำชมปะการังน้ำลึกแต่อย่างใด ทั้งสามารถเข้าใกล้ได้อีกด้วย แต่นักดำน้ำที่พบฉลามวาฬจะบันทึกภาพห่างจากตัวฉลามวาฬในระยะเพียง 5 เมตรเท่านั้น ซึ่งฉลามวาฬไม่ได้แตกตื่นแม้แต่นิดเดียว ยังคงแหวกว่ายน้ำในบริเวณเกาะบิดานอก เป็นเวลานานถึง 1 ชั่วโมง จึงดำน้ำลึกลงไป

นายวรพจน์ กล่าวต่อไปว่า การที่ฉลามวาฬเข้ามาหากินบริเวณเกาะบิดานอกซึ่งอยู่ติดกับอ่าวมาหยา เป็นการแสดงและบ่งบอกให้เห็นว่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นหลายครั้งในท้องทะเลกระบี่ หมู่เกาะพีพีในรอบปีนี้ เป็นผลมาจากมาตรการปิดอ่าวมาหยา ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2561 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน เพื่อฟื้นฟูสภาพสิ่งแวดล้อมใต้ทะเลและบนบก ให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์อย่างเห็นได้ชัด จนทำให้สัตว์น้ำหายากและใกล้จะสูญพันธุ์หวนกลับคืนสู่ถิ่นเดิม สร้างความตื่นเต้นให้แก่เจ้าหน้าที่และนักท่องเที่ยวที่ได้พบเห็นในแต่ละครั้ง



ฉลามวาฬเป็นสัตว์ทะเลที่หาดูได้ยาก ทั้งเป็นสัตว์สงวนหวงห้าม มาแหวกว่ายที่เกาะบิดานอก เป็นตัวบ่งชี้ถึงความอุดมสมบูรณ์ทางระบบนิเวศวิทยาใต้ทะเลบริเวณดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมา อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราและหมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ มีมาตรการเข้มงวดในการปิดอ่าว ทั้งการปราบปรามการลักลอบทำการประมงจับสัตว์น้ำในเขตอุทยาน รวมทั้งกลุ่มอนุรักษ์เกาะพีพีได้มีการจัดเก็บขยะใต้ทะเลในหมู่เกาะพีพีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวเกาะพีพี ให้ความร่วมมือมาด้วยดีโดยตลอด จึงทำให้สัตว์น้ำที่ใกล้จะสูญพันธุ์หรือหาดูได้ยากหวนกลับมายังถิ่นที่อยู่อาศัยเดิมเข้ามาหากิน เพราะถือว่าแหล่งที่มาหากินนั้นมีความปลอดภัยสูง สามารถขยายพันธุ์และเลี้ยงลูกได้อย่างปลอดภัย


https://mgronline.com/south/detail/9630000003709


*********************************************************************************************************************************************************


พบพะยูนตายอีกแล้ว เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุเร่งผ่าหาสาเหตุ

กระบี่ - สลด! ตายอีก ซากพะยูนเพศเมียยาวประมาณ 1.5 เมตร เกยตื้นที่เกาะปู เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุ พบสภาพยังสมบูรณ์ไม่มีบาดแผล ส่งให้ ม.ราชมงคลศรีวิชัย วิทยเขต ตรัง ผ่าหาสาเหตุการตาย



เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ ( 13 ม.ค.) นายอาหลี ชาญน้ำ นายกสมาคมคนรักเลกระบี่ ได้รับแจ้งจากชาวประมง บ้านเกาะปู ม.2 ต.เกาะศรีบอยา อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ว่า พบซากพะยูน ลอยเกยตื้น ชาวบ้านช่วยกันลากมาขึ้นฝั่งที่ท่าเรือบ้านเกาะปู จึงเดินทางไปตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่าเป็นพะยูนเพศเมีย ความยาวประมาณ 1.5 เมตร หนักประมาณ 200 กก.สภาพสมบูรณ์ไม่มีบาดแผลตามตัว มีเขี้ยวอยู่ครบ

นายอาหลี เปิดเผยว่า ชาวประมงพื้นบ้าน พบซากพะยูน ดังกล่าว ขณะที่ทำประมงที่บริเวณแหลมเกาะกา ต.เกาะศรีบอยา ห่างจากท่าเรือเกาะปู ประมาณ 1 กิโลเมตร จึงได้ช่วยกันลากกลับเข้าฝั่ง เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากโรคบางอย่าง หรือกินสิ่งที่เป็นอันตรายต่อร่างกายเข้าไป อาจะทำให้ท้องอืดและตายในที่สุด

อย่างไรก็ตามเตรียมนำซากไปมอบให้กับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขต ตรัง ผ่าพิสูจน์ซาก เพื่อหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดต่อไป

สำหรับจังหวัดกระบี่ ในปีที่ผ่านมา 2562 มีพะยูนตายในทะเลกระบี่ ไม่ต่ำกว่า 5 ตัว โดยที่เป็นข่าวสลดมากที่สุด ได้แก่พะยูนมาเรียม และยามีน ตายในวัยเยาว์ สาเหตุมาจากการกินอาหารที่เป็นพลาสติกเข้าไป จนเป็นกระแสให้มีการลดละเลิกขยะพลาสติก อยู่ในขณะนี้ สำหรับพะยูนเพศเมียที่พบตายในวันนี้ เป็นตัวแรก ของปี 63


https://mgronline.com/south/detail/9630000003890

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม