[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ฝูงกวางเรนเดียร์ ข้ามถนนอย่างปลอดภัยที่นอร์เวย์ แต่ยังสุ่มเสี่ยงต่อการอยู่รอดจากสภาวะโลกร้อน



กวางเรนเดียร์ หรือ กวางแคริบู (reindeer, caribou) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่จำพวกกวางที่คนทั่วโลกจดจำได้เสมอว่าเป็นกวางช่วยลากเลื่อนพาซานต้าไปแจกของขวัญให้เด็กๆ ในค่ำคืนวันคริสต์มาสทุกๆ ปี

ในคลิป ฝูงกวางเรนเดียร์ ขณะกำลังข้ามถนนที่เต็มไปด้วยหิมะหนาในประเทศนอร์เวย์ โดยที่ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนให้ความร่วมมืออย่างดี จอดรถให้กวางทุกตัวข้ามถนนอย่างปลอดภัย เป็นภาพที่คุ้นเคยของชาวนอร์เวย์ อย่างไรก็ตาม ทางการก็มีป้ายเตือนให้คนระมัดระวังการใช้ถนนในเขตป่าที่มีกวางเรนเดียร์ข้ามถนน

แต่ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนกันยายน 2020 นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันขั้วโลกนอร์เวย์ (NPI) ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยของทางการที่เฝ้าจับตาประชากรกวางเรนเดียร์ป่ามากว่า 40 ปี พบกวางเรนเดียร์ป่าบนหมู่เกาะสฟาลบาร์ของนอร์เวย์อดอาหารตายกว่า 200 ตัว โดยเชื่อว่าเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ นับเป็นจำนวนที่มากที่สุดที่พบในรอบกว่า 40 ปี


จำนวนกวางเรนเดียร์ลดลง จากอุณหภูมิที่สูงขึ้น

สถาบันอุตุนิยมวิทยานอร์เวย์ (NMI) ให้ข้อมูลว่า เมืองลองเยียร์เบียนซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของสฟาลบาร์และเป็นเมืองที่อยู่เหนือที่สุดของโลก มีอุณหภูมิสูงขึ้นมากที่สุดในโลกคือ เพิ่มขึ้น 3.7 องศาเซลเซียสนับตั้งแต่ปี 1900 หรือ 119 ปีที่ผ่านมา มากกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกที่เพิ่มขึ้นราว 1 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิที่สูงขึ้นในภูมิภาคนี้ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในช่วงเดือนธันวาคม เมื่อน้ำฝนเหล่านี้แข็งตัวก็ยิ่งทำให้ชั้นน้ำแข็งในทุ่งทุนดราหนาขึ้น หมายความว่ากวางเรนเดียร์จะไม่สามารถขุดชั้นน้ำแข็งหนาๆ ลงไปเล็มหญ้าตามปกติได้ แต่หากเป็นเพียงชั้นหิมะกวางจะคุ้ยเขี่ยหิมะลงไปถึงหญ้าที่อยู่ด้านใต้ได้

นอกจากการขาดแคลนอาหารแล้ว อุณหภูมิที่อุ่นขึ้นยังเสี่ยงทำให้เกิดโรคระบาดจากแมลงและปรสิตในฝูงกวางเรนเดียร์ด้วย นักวิทยาศาสตร์ยังเตือนอีกว่าการลดจำนวนของกวางเรนเดียร์จะทำให้ต้นไม้ใบหญ้าแพร่พันธุ์อย่างรวดเร็วกระจายไปทั่วระบบนิเวศของพื้นที่แถบขั้วโลกเหนือ เอเชีย และอเมริกาเหนือ

ปัจจุบัน กวางเรนเดียร์พบกระจายพันธุ์ตั้งแต่กรีนแลนด์, อเมริกาเหนือแถบแคนาดาและอลาสกา, สแกนดิเนเวีย จนถึงเอเชียตอนบน เช่น จีน, ไซบีเรีย และมองโกเลียใน จำนวนประชากรกวางเรนเดียร์ที่พบในธรรมชาติมากที่สุดในโลกพบที่คาบสมุทรไครเมียในรัสเซีย และจำนวนที่เหลืออยู่ประมาณ 600,000 ตัว ลดลงจากในอดีตมาก สาเหตุหลักเกิดจากอุณหภูมิที่ถิ่นที่อยู่อาศัยร้อนขึ้น 1.5 องศาเซลเซียส, การคุกคามจากมนุษย์, ไฟป่า รวมถึงโรคระบาดจากยุง


https://mgronline.com/greeninnovatio.../9630000131887


*********************************************************************************************************************************************************


สุดเหี้ยม! นักล่าสเปน สังหารหมู่สัตว์ป่า 540 ตัว ใน 2 วัน ที่โปรตุเกส


ภาพที่แชร์บนโซเชียลมีเดียและในสื่อโปรตุเกส

อาชญากรรมด้านสิ่งแวดล้อมครั้งนี้ สร้างความสะเทือนใจแก่ชาวโปรตุเกส โดยเฉพาะคนอนุรักษ์สัตว์ป่าทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17-18 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยลานสังหารหมู่ อยู่ที่ฟาร์มแห่งหนึ่งในอาแซมบูจา บนเนื้อที่ประมาณ 6,800 ไร่ (ห่างจากลิสบอน 40 กม.)

เหยื่อสังหารอย่างโหดเหี้ยม เป็นสัตว์ป่า ส่วนมาก คือกวาง และหมูป่า พวกเขาต้องจ่ายเงินประมาณ 3 แสนบาทสำหรับการเข้าร่วมการขี่ม้าล่าสัตว์ ภายในขอบเขตที่มีรั้วล้อมรอบป้องกันสัตว์หนี สัตว์ป่าถูกต้อนเข้ามุมและถูกสังหารโดยการยิง หลังจากนั้นพวกเขาถ่ายภาพและแชร์ในโซเชียล จนนำไปสู่การประณามว่าคนพวกนี้ก่ออาชญากรรมด้านสิ่งแวดล้อม

จัว เปโดร มาตอส เฟอร์นานเดส (Joao Pedro Matos Fernandez) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมของโปรตุเกสเรียกการยิงสัตว์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกวางและหมูป่าว่าเป็นการกระทำที่เลวทรามและยอมรับไม่ได้ ในขณะที่ Silvino Lucio นายกเทศมนตรีเมือง Azambuja ระบุเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยู่ห่างจากลิสบอนประมาณ 40 กิโลเมตร และเรียกสิ่งที่เกิดขึ้นว่า "การสังหารหมู่" และ "อาชญากรรมด้านสิ่งแวดล้อม"

พรรคการเมืองหน่วยงานท้องถิ่นและสมาคมด้านสิ่งแวดล้อมทั่วโปรตุเกสรู้สึกไม่พอใจกับการเดินทางล่าสัตว์ซึ่งเกิดขึ้นในวันที่ 17 และ 18 ธันวาคมและมีการเปิดตัวการสอบสวนอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเจ้าของดินแดน Torre de Bela ผู้จัดงานและนักล่าชาวสเปน ในระหว่างนี้ถูกระงับใบอนุญาตล่าสัตว์ในพื้นที่

สถานการณ์ดังกล่าวถูกค้นพบหลังจากนักล่าบางคนแชร์ภาพถ่ายของสัตว์ที่พวกเขาฆ่าบนโซเชียลมีเดียเรียกมันว่า "บันทึก" เนื่องจากจำนวนสัตว์ นักล่ามาจากสังคมการล่าสัตว์ Monteros de la Cabra ใน Badajoz

สถาบันเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและป่าไม้ของโปรตุเกส กล่าวว่าพวกเขาไม่เคยมีความรู้มาก่อนเกี่ยวกับการล่าสัตว์ในพื้นที่ที่ปิดไม่ให้สัตว์ไปไหน จำนวนสัตว์ที่อนุญาตให้ยิงได้โดยปกติจะต้องได้รับอนุญาตขั้นสูง

ตามที่สมาคมล่าสัตว์อื่น ๆ ระบุว่าการฆ่าสัตว์ 540 ตัว ภายในช่วง 2 วัน ? ไม่ใช่การล่าสัตว์ แต่เป็นการฆ่าสัตว์ที่ถูกกักขังจำนวนมหาศาล? เนลสันคาดาเวซจาก Club Monteria del Norte กล่าวในแถลงการณ์ต่อสื่อมวลชนระดับชาติ

ตามรายงานของสื่อโปรตุเกสสถานการณ์นี้อาจได้รับแรงจูงใจจาก บริษัท ที่เป็นเจ้าของที่ดินซึ่งมีรายงานว่าต้องการให้มีการจัดประเภทใหม่เพื่อให้พวกเขาสามารถสร้างต่อได้ซึ่งพวกเขาไม่สามารถทำได้กับสัตว์ป่าในปัจจุบัน จุดมุ่งหมายคือการติดตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์


https://mgronline.com/greeninnovatio.../9630000132087