ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 15-01-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,248
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ทะเลคลั่งกัดเซาะชายฝั่งหัวไทรต่อเนื่อง ชาวบ้านแฉเหตุสร้างแนวหินกันคลื่นส่งผลรุนแรง

นครศรีธรรมราช - คลื่นถล่มกัดเซาะชายฝั่งหัวไทร จ.นครศรีธรรมราช อย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้นมะพร้าว และต้นสนล้มระเนระนาด ชาวบ้านแฉเหตุสร้างแนวกันคลื่นหินทิ้ง จนส่งผลกระทบแล้ว ไร้ความรับผิดชอบ



วันนี้ (14 ม.ค.) ที่ชุมชนริมทะเล บ้านโพธิ์ทะเลงาม หมู่ 5 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ชาวบ้านหลายคนยังคงหวาดวิตกกับกระแสคลื่นทะเลที่ทวีกำลังแรง ซัดเข้ากัดเซาะชายหาดลึกเข้ามาถึงชุมชน ทำให้แนวสวนมะพร้าว ป่าสนทะเลขนาดใหญ่โค่นล้มระเนระนาดจำนวนมาก เป็นระยะทางยาวกว่า 400 เมตร บางส่วนยังกัดเซาะบ้านเรือน จนเทศบาลตำบลหน้าสตน ต้องขนกระสอบทรายมาทิ้งเป็นแนวป้องกัน ไม่ให้คลื่นเข้ากัดเซาะฐานรากของตัวบ้าน การกัดเซาะอย่างรุนแรงได้เกิดขึ้นตั้งแต่วานนี้จนกระทั่งวันนี้ แม้กำลังคลื่นจะบรรเทาความรุนแรงลง แต่ยังคงกัดเซาะอย่างหนัก

นางสุชีพ จรัญสุข อายุ 62 ปี ชาวบ้านโพธิ์ทะเลงาม เปิดเผยว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นมาจากการก่อสร้างแนวหินกันคลื่น บริเวณบ้านโพธิ์ทะเลงามเป็นปลายสุดของโครงการที่ไม่มีการวางแผนแก้ไขปัญหาใดๆ หากไม่มีการทำโครงการชาวบ้านคงไม่เดือดร้อนเช่นนี้ แต่เมื่อทำแล้วชาวบ้านเดือดร้อนทั้งหมู่บ้าน เขามาพูดว่าจะช่วยไม่รู้กี่ครั้งแล้ว จนบ้านพัง ต้นมะพร้าวต้นสนพังไปหมด ทำได้กับตาสีตาสาไม่สงสารชาวบ้านเลย

ขณะที่ชาวบ้านยังคงหวาดวิตกกับหน้ามรสุมฤดูกาลนี้ที่คลื่นลมมีกำลังแรงอย่างมาก และหวั่นว่าตามคำเตือนในวันที่ 18 ม.ค.นี้ จะเกิดความรุนแรงของคลื่นอีกครั้ง ชาวบ้านต้องเร่งย้ายเล้าไก่ คอกวัว ออกจากแนวกัดเซาะ ขณะนี้แนวกัดเซาะจากชายหาดเดิมเข้ามาในพื้นที่มากกว่า 50 เมตร และมีความยาวตลอดแนวหาดมากกว่า 400-500 เมตรแล้ว

ด้าน นายเกษม จิตรานนท์ ชาวบ้านหมู่ 5 บ้านโพธิ์ทะเลงาม ยืนยันถึงการกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนแรงนั้น เกิดจากการก่อสร้างแนวกันคลื่นของทางราชการ ขอเรียกร้องให้หน่วยงานเจ้าของโครงการเร่งเคลื่อนย้ายหินป้องกันชุมชนชาวบ้านก่อน 2 วันนี้กินไปกว่า 400 เมตรแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการไม่ได้ทำอะไรให้ชาวบ้านเลย มาดูแลชาวบ้านจริงเวลาเกิดเหตุ มาตกปากรับคำแต่ก็ไม่ได้ทำอะไรเช่นเดิม


https://mgronline.com/south/detail/9640000003760


*********************************************************************************************************************************************************


คลื่นซัดชายหาดปากน้ำปราณหาย แนวเขื่อนพังราบ แต่ยังไร้การแก้ปัญหาจากภาครัฐที่ชัดเจน

ประจวบคีรีขันธ์ - คลื่นลมแรงในทะเลพัดเข้าหาชายฝั่ง น้ำทะเลกัดเซาะจนเขื่อนกันคลื่น ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ พังได้รับความเสียหายยาวเพิ่มมากขึ้น เทศบาลตำบลปากน้ำปราณ ต้องนำธงแดงมาปักห้ามไม่ให้เข้าบริเวณพื้นที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะเกรงจะเป็นอันตราย



วันนี้ (14 ม.ค) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปบริเวณ ชายหาดปากน้ำปราณ ในเขตเทศบาลปราณบุรี ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งได้รับการแจ้งจากชาวบ้านว่า เขื่อนกันคลื่นได้รับความเสียหายต่อเนื่องมาหลายปี ยังไม่มีหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องมาแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งร้านอาหาร ทำให้ปัจจุบันการกัดเซาะหนักขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะนี้

สภาพเขื่อนกันคลื่นได้รับความเสียหายเป็นแนวยาว ตั้งแต่สะพานปลา มาถึงบริเวณร้านอาหารจนไปถึงบริเวณแนวเขื่อนกันคลื่นอีกส่วนที่ยังไม่เสียหาย บริเวณจุดที่เสียหายเกิดจากคลื่นลมมรสุมรุนแรงของทุกปีที่ซัดเข้าหาชายฝั่งปากน้ำปราณจนสร้างความเสียหายอย่างหนัก พื้นที่หาดถูกกัดเซาะเข้ามาด้านในกว่า 5 เมตร ทั้งที่เป็นร้านอาหาร และบริเวณลานพักผ่อนปูตัวหนอนแนวต้นสนหายไปถึง 2 ชั้นแล้วในปัจจุบันนี้

นายธงชัย สุณาพันธ์ ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลปากน้ำปราณ กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นต่อเนื่องทุกปีและปีนี้ยอมรับว่าหนัก การกัดเซาะลึกเข้ามาในพื้นที่ด้านใน ซึ่งปัญหาการกัดเซาะที่นี่ ตนเองได้ทำหนังสือให้อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองได้รับทราบแล้วเมื่อวานนี้ถึงความเสียหายแนวยาวหลายร้อยเมตร ซึ่งการดำเนินการต้องอาศัยกรมโยธาธิการและผังเมือง ลำพังเทศบาลไม่สามารถดำเนินการได้ ยิ่งตอนนี้สะพานปลาเก่าเหลือแต่เสาทำให้กระแสคลื่นซัดเข้ามาในจุดที่พบเสียหายอย่างหนัก และรุนแรงขึ้น ทางเทศบาลทำได้เพียงปักธงแดง และกั้นแนวเชือกและแนวรั้วไม้ไผ่เท่านั้น ห้ามทุกคนเข้าไปเป็นจุดอันตราย หากแก้ไขเฉพาะหน้าต้องรอให้คลื่นลมสงบในช่วงเดือนมีนาคมนี้ จะนำถุงบิ๊กแบ็กไปทิ้งเอาไว้เพื่อเป็นแนวป้องกันชั่วคราว จนกว่าหน่วยงานจะเข้ามาซ่อมแซมและน่าจะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก

ด้าน น.ส.ธนวัฒน์ ธนศร เข้าของร้านอาหารชวนนั่ง กล่าวว่า คลื่นลมแรงตั้งแต่ก่อนปีใหม่ซัดเข้าหาฝั่งอย่างหนัก จนกัดเซาะเข้ามาด้านใต้พื้นศูนย์อาหาร และหลังปีใหม่ก็ยังหนักอยู่จึงว่าจ้างรถลงไปตักทรายเข้ามาถมด้านใต้ไปบ้างแล้ว โชคดีวันนี้คลื่นลมเริ่มเบาเริ่มพัดทรายเข้ามาบ้าง แต่อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขเพราะเกิดขึ้นทุกปี และเป็นอันตราย


https://mgronline.com/local/detail/9640000003916

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม