ดูแบบคำตอบเดียว
  #6  
เก่า 13-03-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,345
Default

ขอบคุณข่าวจาก BBCThai


ภารกิจกู้เรือหลวงสุโขทัยสิ้นสุดแล้ว แต่ไม่พบผู้สูญหายทั้ง 5 คน


ตลอดระยะเวลา 19 วันของภารกิจนี้ มีการดำน้ำทั้งสิ้น 83 เที่ยว รวมระยะเวลาดำน้ำ 65 ชั่วโมง 15 นาที


เป็นเวลา 1 ปี 2 เดือน กับอีก 23 วัน ที่เรือหลวงสุโขทัยอับปางลงบริเวณอ่าวไทย ซึ่งต่อมาทางกองทัพเรือของไทยและกองทัพเรือของสหรัฐอเมริกาได้ร่วมกันค้นหาผู้สูญหายและปลดวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัยมาตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ. ? 11 มี.ค. 2567 รวมระยะเวลา 19 วัน

ผลสำรวจไม่พบผู้สูญหายที่เหลืออีก 5 คน ขณะที่ชุดปฏิบัติการผสมสามารถปลดวัตถุอันตรายและทำให้ยุทโธปกรณ์หมดขีดความสามารถได้สำเร็จ รวมถึงนำอาวุธและสิ่งของมีคุณค่าทางจิตใจของเรือหลวงสุโขทัยขึ้นมาจากน้ำได้สำเร็จ

พล.ร.อ.ชาติชาย ทองสะอาด ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ระบุว่า ชุดปฏิบัติการได้หลักฐานพยานครบถ้วนตามที่คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงต้องการทุกประการ จึงไม่จำเป็นต้องนำเรือขึ้นมาทั้งลำอีกต่อไป

ด้าน นายชยพล สท้อนดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) กรุงเทพมหานคร เขต 8 พรรคก้าวไกล ซึ่งติดตามการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการอับปางของเรือหลวงสุโขทัยมาโดยมาตลอด แย้งว่า เร็วเกินไปที่จะสรุปว่า กองทัพเรือควรกู้เรือขึ้นมาทั้งลำหรือไม่ เพราะต้องติดตามต่อว่ารายงานการสอบสวนข้อเท็จจริงของกองทัพเรือจะออกมาเช่นไร และตั้งข้อสังเกตว่า การตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ทำโดยกองทัพเรือเองนั้น จะสามารถไว้ใจได้หรือไม่ว่า "เป็นไปอย่างตรงไปตรงมา"


ไม่พบผู้สูญหายทั้ง 5 คน

วานนี้ (11 มี.ค.) เป็นวันสุดท้ายของปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายและปลดวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัย หลังจากดำเนินมาตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา

ภารกิจนี้เป็นปฏิบัติการร่วมกันระหว่างกองทัพเรือไทยและกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญาจัดซื้อเรือหลวงสุโขทัยจากสหรัฐฯ ที่ระบุว่าไทยมีข้อตกลงกับกองทัพสหรัฐฯ เรื่องการห้ามไม่ให้ชาติอื่นเข้าถึงเทคโนโลยีอาวุธ และแผนการกู้เรือต้องผ่านการรับรองจากรัฐบาลสหรัฐฯ ก่อน

เรือหลวงสุโขทัยที่มีน้ำหนักกว่า 930 ตัน อับปางลงเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2565 หลังเดินทางออกจากฐานทัพเรือสัตหีบ มุ่งหน้าไปร่วมงานคล้ายวันประสูติของ เสด็จเตี่ย หรือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ที่ จ.ชุมพร โดยเรือลำดังกล่าวบรรทุกกำลังพลทั้งหมด 106 นาย เป็นกำลังพลประจำเรือกว่า 70 นาย ขณะที่อีกกว่า 30 นาย ไม่ใช่กำลังพลประจำเรือ แต่มาจากหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นต้น

จุดอับปางอยู่ห่างจากท่าเรือ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 20 ไมล์ทะเล ที่ความลึก 50 เมตร ตัวเรือตั้งตรง เอียงซ้ายประมาณ 7 องศา โดยข้อมูลล่าสุดพบว่า มีผู้สูญหาย 5 นาย เสียชีวิต 24 นาย และรอดชีวิตกว่า 70 นาย

"ปัจจุบันตัวเรือจมโคลนประมาณ 1 เมตร บริเวณภายนอกตัวเรือรวมถึงอุปกรณ์ที่อยู่ภายนอกทั้งหมดถูกปกคลุมด้วยตะกอนดิน เพรียง และหอย ความหนาประมาณ 1 นิ้ว ขณะที่ภายในตัวเรือเริ่มถูกปกคลุมไปด้วยตะกอนดินและเศษวัสดุต่าง ๆ ที่เริ่มย่อยสลาย ไม่พบการรั่วไหลของน้ำมันหรือสารเคมีต่าง ๆ" พล.ร.อ.ชาติชาย ในฐานะผู้อำนวยการ กองอำนวยการค้นหาและปลดวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัย กล่าวในการแถลงข่าวปิดปฏิบัติการกู้เรือหลวงสุโขทัยแบบจำกัด เมื่อวานนี้

อย่างไรก็ตาม การกู้เรือหลวงสุโขทัยครั้งนี้เป็นการกู้แบบจำกัด ไม่ใช่การกู้เรือขึ้นจากทะเลทั้งลำ โดยใช้เรือโอเชียน เวเลอร์ (Ocean Valor) ของสหรัฐฯ เป็นฐานปฏิบัติการกลางอ่าวไทย

ตลอดระยะเวลา 19 วันของภารกิจนี้ มีการดำน้ำทั้งสิ้น 83 เที่ยว รวมระยะเวลาดำน้ำ 65 ชั่วโมง 15 นาที แต่ไม่พบผู้สูญหายทั้ง 5 คน

พล.ร.อ.ชาติชาย กล่าว่า ชุดประดาน้ำลงสำรวจตัวเรือทั้งภายในและภายนอก รวมถึงห้องที่คาดว่าผู้สูญหายทั้ง 5 คนน่าจะติดอยู่ ได้แก่ สะพานเดินเรือ ห้องศูนย์ยุทธการ ห้องผู้บังคับการเรือ ห้องวิทยุ ห้องโถงนายทหาร ห้องเมสพันจ่า ห้องเมสจ่า ห้องเครื่องจักรใหญ่ ห้องเสมียนพลาธิการ ห้องเรดาห์ 2 ห้องเก็บแผนที่ และช่องทางเดินในชั้นดาดฟ้าหลัก แต่ด้วยความข้อจำกัดและความเสี่ยงต่าง ๆ ทำให้ไม่สามารถสำรวจได้ทุกห้องตามแผนที่วางไว้

"แต่เนื่องจากระดับความลึกของน้ำที่ 50 เมตร รวมถึงข้อจำกัดในการเข้าถึงห้องต่าง ๆ ภายในตัวเรือ ในชั้นที่ต่ำกว่าดาดฟ้าหลัก รวมทั้งความเสี่ยงในระดับสูงต่อนักดำน้ำ ทำให้เราไม่สามารถเข้าไปได้ทุกห้อง" ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ กล่าว


ปลดวัตถุอันตรายและทำให้สิ้นสภาพความเป็นยุทธบริภัณฑ์ได้สำเร็จ

ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ แถลงต่อว่า ทางกองทัพเรือของสหรัฐฯ ทำให้ยุทโธปกรณ์จำนวน 3 รายการสิ้นสภาพความเป็นยุทธบริภัณฑ์ (Demilitarization) ได้แก่ อาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้นฮาร์พูน, ตอร์ปิโด MK309 และเครื่องมือสื่อสารที่เกี่ยวข้อง

ขณะที่ทางกองทัพเรือได้นำอาวุธบางส่วนขึ้นมาจากน้ำ ได้แก่ ปืนกล 20 มม. จำนวน 2 กระบอก, ปืนเล็กยาว M16 จำนวน 10 กระบอก

นอกจากนี้ ยังมีการนำสิ่งของมีคุณค่าทางจิตใจของเรือหลวงสุโขทัยจำนวน 11 รายการขึ้นมาจากน้ำเช่นกัน เช่น ป้ายชื่อเรือสุโขทัย, พญาครุฑประจำเรือ, พระพุทธรูปประจำเรือ, พระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, แผ่นนูนรูปเสด็จเตี่ย, ระฆังเรือ, ธงราชนาวีผืนใหญ่, สมอเรือ, ป้ายขึ้นระวางประจำการเรือ และป้ายทำเนียบผู้บังคับการเรือหลวงสุโขทัย เป็นต้น

ทางชุดปฏิบัติการยังตัดเสากระโดงเรือความสูง 4.5 เมตร ออกจากตัวเรือด้วย เพื่อเพิ่มความปลอดภัยด้านการเดินเรือให้กับเรือลำอื่น ๆ ทำให้จากเดิมส่วนที่สูงที่สุดของเรือหลวงสุโขทัยถึงผิวน้ำอยู่ที่ระยะ 27 เมตร เพิ่มเป็นระยะ 31.5 เมตร

"กองทัพเรือจะจัดสร้างอนุสรณ์สถานเรือหลวงสุโขทัยต่อไป โดยใช้อุปกรณ์และชิ้นส่วนของเรือที่ถอดถอนและนำขึ้นมาจากปฏิบัติการครั้งนี้ เพื่อรำลึกถึงเรือหลวงสุโขทัยที่ประจำการมา 37 ปี รวมถึงความกล้าหาญและความเสียสละของกำลังพลที่เสียชีวิตและสูญหาย" พล.ร.อ.ชาติชาย กล่าว


(มีต่อ)

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม