ดูแบบคำตอบเดียว
  #29  
เก่า 28-04-2010
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default


"สมิทธ"เผยจุดจบโลกใกล้มาถึง หลังเผชิญสารพัดภัยพิบัติ โอกาสล่มสลายเร็วกว่าคาด เตือนไทยสึนามิเข้าอีก


ดร.สมิทธ ธรรมสโรช

ที่โรงแรมดุสิต ปริ้นเซส อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 27 เม.ย. นายวิทยา กามนต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดการสัมมนาโครงการ "เติมน้ำ ต้านแล้ง" ที่จัดขึ้นโดยหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา โดยมีนักธุรกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ประกอบการและประชาชนในจังหวัดนครราชสีมา จำนวนกว่า 200 คน เข้าร่วมการสัมมนาในครั้งนี้ โดยทางหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ได้เชิญ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการมูลนิธิเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ , อาจารย์ปราโมทย์ ไม้กลัด กรรมการมูลนิธิชัยพัฒนา และ ดร.ทองเปลว กองจันทร์ ผู้อำนวยการส่วนอุทกวิทยากรมชลประทาน มาเป็นผู้บรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับปัญหาและสาเหตุของการเกิดภัยแล้งในประเทศ รวมถึงแนวทางในการรับมือและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

ดร.สมิทธ เปิดเผยว่า จากสภาพภมิอากาศขณะนี้ สถานการณ์น่าเป็นห่วงอย่างมาก เพราะในบางจังหวัดโดยเฉพาะทางภาคเหนือของประเทศไทย อย่างเช่นที่จังหวัดลำปาง อุณภูมิสูงถึง 43 องศาเซลเชียส เมื่อ 2 - 3 อาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็อุณหภูมิที่สูงที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยเผชิญมา แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ภัยแล้งที่กำลังเกิดขึ้นจะเกิดขึ้นในอนาคตว่า สภาพอากาศต่อจากนี้ไปของประเทศจะมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอีก ซึ่งถือเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง เพราะการที่อุณภูมิสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเกิน 3 วันขึ้นไปนั้น ตามหลักวิชาการจะทำให้เกิดคลื่นความร้อน หรือที่เรียกว่า ฮีทเวฟ ซึ่งคลื่นความร้อนดังกล่าวสามารถทำให้คนที่ได้รับคลื่นความร้อนนี้ถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็กเล็ก ซึ่งที่ผ่านมาก็พบว่ามีผู้เสียชีวิตบ้างแล้ว

ประธานกรรมการมูลนิธิเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวต่อว่า หากสภาพอากาศยังมีลักษณะเช่นนี้ยาวไปถึงปีหน้า ก็จะยิ่งส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชนเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากการที่พลเมืองโลกและการเจริญเติบโตทางด้านอุตสาหกรรมมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขึ้นไปในชั้นบรรยาการศมากเกินไป ไม่เฉพาะในประเทศไทยแต่เป็นอย่างนี้ทั่วโลกส่งผลให้อุณหภูมิที่ห่อหุ้มโลกสูงขึ้น ดังนั้นสิ่งสำคัญที่จะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้อันดับแรกทุกคนจะต้องช่วยกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงมาให้ได้มากที่สุด และช่วยกันปลูกต้นไม้ให้มากขึ้นเพื่อใช้เป็นตัวดูดทรัพย์ก๊าซเรือนกระจกเหล่านั้น หากทุกคนยังไม่ตระหนักถึงเรื่องนี้แนวโน้มความรุนแรงของสภาพอากาศจะยิ่งสูงขึ้นอีกในปีต่อๆไป โดยเฉพาะในปี 2554 ที่กำลังจะมาถึงจะมีปรากฏการเอลนินโญ่เกิดขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิก ก็ยิ่งจะทำให้สภาพอากาศเลวร้ายและประชาชนจะต้องประสบกับปัญหาภัยแล้งและเผชิญกับคลื่นความร้อนที่รุนแรงมากขึ้นอีก นอกจากนี้ เหตุการณ์แผ่นดินไหวในหลายประเทศที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ แม้จะไม่ได้มีสาเหตุมาจากสภาวะโลกร้อน แต่ก็มีแนวโน้มที่ประเทศไทยจะต้องเผชิญกับปัญหานี้เช่นกัน เนื่องจากมีการพยากรณ์ว่าในระยะเวลาอันใกล้นี้จะเกิดการเคลื่อนตัวของเปลือก โลกในมหาสมุทรอินเดียและทะเลอันดามัน ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงก็อาจจะเกิดคลื่นสึนามิในบริเวณภาคใต้ฝั่งอันดามันของไทยขึ้นได้ ดังนั้นการจัดทำระบบเตือนภัยต่างๆจึงต้องมีการเตรียมพร้อมไว้อย่างดีและประชาชนเองก็ต้องมีความตื่นตัวที่จะเตรียมตัวรับมือกับเหตุการณ์ที่อาจะเกิดขึ้น

ดร.สมิทธฯ กล่าวอีกว่า เหตุการที่เกิด ขึ้นทั้งแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิดในหลายประเทศนั้น แสดงให้เห็นว่าจุดจบของโลกใกล้เข้ามามากขึ้นทุกที ซึ่งมีสถาบันต่างๆจากหลายประเทศคาดการณ์ว่าโอกาสที่จะเกิดการล่มสลายของโลกจะเร็วขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ ซึ่งหากเกิดขึ้นใกล้กับประเทศไทยอาจจะทำให้รอยเลื่อนที่มีอยู่ในไทยจำนวน 13 แห่งโดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดรอยเลื่อนด่านเจดีย์สามองค์ จังหวัดกาญจนบุรีซึ่งเคยมีการเคลื่อนตัวจนทำให้เกิดแผ่นดินไหวขึ้นในอดีต ก็อาจจะได้รับผลกระทบและเกิดขึ้นซ้ำอีกได้



จาก : มติชน วันที่ 28 เมษายน 2553
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม