ดูแบบคำตอบเดียว
  #47  
เก่า 23-01-2011
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is online now
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,226
Default


ข่าวปะการังฟอกขาวไม่ทำธุรกิจดำน้ำหด



ผู้ประกอบการดำน้ำลึก หมู่เกาะสุรินทร์-สิมิลัน ระบุ ยังไม่มีการยกเลิกทัวร์ หลังเจอข่าวปะการังฟอกขาวแพร่สะพัด แต่กังวลมีผลกระทบระยะยาว ขณะที่นักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ยังแห่เที่ยวเกาะจำนวนมาก ด้านชาวเน็ตสวดยับปิดอุทยานฯทางทะเลใต้ 7 แห่งไม่ตรงจุดที่ปะการังเสียหาย

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณท่าเทียบเรือท่องเที่ยวรัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นท่าเรือท่องเที่ยวนำนักท่องเที่ยวไปยังเกาะแก่งต่างๆ บริเวณอ่าวพังงา และเกาะพีพี ช่วงเช้าวันที่ 22 ม.ค.54 ซึ่งตรงกับวันหยุดว่า ยังคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศที่จองตั๋วเดินทางไปท่องเที่ยวตามเกาะแก่งในทะเลฝั่งอันดามัน แม้ว่ากรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้มีมาตรการปิดจุดดำน้ำที่มีปะการังเสียหาย ในเขตอุทยานแห่งชาติทางทะเลฝั่งอันดามัน 3 แห่ง คือ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตนารา เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์และอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันในจังหวัดพังงา

หัวหน้าไกด์เรือท่องเที่ยวพีพีครุยเซอร์ ระบุว่า การปิดแหล่งดำน้ำ ส่งผลกระทบต่อการเดินทางไปพักผ่อนตามเกาะของนักท่องเที่ยวน้อย โดยปริมาณนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยวตามเกาะต่างๆในฝั่งอันดามันตั้งแต่ช่วงปีใหม่เป็นต้นมา ถือว่ายังดีอยู่ เฉลี่ยประมาณ 90 % แต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 2,000 คน ปลายทางส่วนใหญ่จะอยู่ที่เกาะพีพี เกาะลันตา เกาะหลีเป๊ะ แต่อย่างไรก็ตามคงต้องรอดูอีกสักระยะหนึ่งว่าผลกระทบจากมาตรการดังกล่าวจะทำให้นักท่องเที่ยวลดลงไปหรือไม่ เพราะพึ่งประกาศเพียง 2 วัน จึงยังไม่เห็นผลที่ชัดเจน

ด้านผู้ประกอบการดำน้ำลึกที่เกาะสิมิลันและหมู่เกาะสุรินทร์อีกรายหนึ่ง กล่าวว่า ในส่วนของการจองทัวร์ไปดำน้ำที่หมู่เกาะสุรินทร์ และหมู่เกาะสิมิลัน ในจังหวัดพังงา ขณะนี้ยังไม่มีการยกเลิก แต่เชื่อว่าในระยะยาวมาตรการนี้จะส่งผลกระทบต่อตลาดท่องเที่ยวดำน้ำอย่างแน่นอน เนื่องจากมีการให้ข้อมูลที่ไม่ชัดเจนของพื้นที่ปะการังว่าเสียหายถึง 80 % อาจจะทำให้นักท่องเที่ยวเข้าใจผิด เพราะข่าวกระจายไปทั่วโลก โดยปะการังฟอกขาวมีเฉพาะแหล่งดำน้ำตื้นซึ่งอุณหภูมิสูง แต่ไม่มีในผลกระทบในปะการังน้ำลึกที่อุณหภูมิประมาณ 24- 26 องศาเซลเซียส และปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นกับปะการังทั่วโลก ดังนั้นผู้เกี่ยวข้องควรเร่งให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และ ททท.ต้องเร่งสร้างความเข้าใจต่อตลาดดำน้ำที่จะมาท่องเที่ยวในพื้นที่ด้วย เนื่องจากนักท่องเที่ยวที่ยังไม่จองทัวร์ อาจจะตัดสินใจเปลี่ยนจุดหมายปลายสถานที่ดำน้ำที่ไม่ใช่ในประเทศไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ห้ามดำน้ำใน 7 อุทยานแห่งชาติชื่อดังทั้งฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทยเพื่อฟื้นฟูปะการังที่เกิดการฟอกขาวโดยมีผลตั้งแต่วันที่ 21 มกราคมนั้น ส่งผลให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากนักท่องเที่ยวที่เข้าไปโพสท์ข้อความในเว็บไซต์พันทิปดอทคอมว่า จุดที่กรมอุทยานฯสั่งปิดห้ามดำน้ำนั้นไม่สัมพันธ์กับจุดที่เกิดปะการังฟอกขาว เช่น อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ บริเวณอ่าวแม่ยายทิศเหนือ เกิดปะการังฟอกขาวถึง 99.9% เกาะสุรินทร์เหนือ หน้าช่องแคบตอนใน เกิดฟอกขาว 93.6% เกาะปาชุมบา ตะวันออกเฉียงเหนือ เกิดฟอกขาว 95% เกาะสุรินทร์ใต้ฝั่งตะวันออก (อ่าวเต่า) แต่กรมอุทยานฯไม่ปิด กลับสั่งปิดบริเวณอ่าวสุเทพ อ่าวไม้งาม เกาะสตอร์ค หินกอง อ่าวผักกาด และแนวปะการังหน้าที่ทำการอุทยานฯ ซึ่งเกิดการฟอกขาว 70% หรืออุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จุดที่เกิดปะการังฟอกขาวมากคือ เกาะสิมิลันตะวันออก หน้าประภาคาร ฟอกขาว 89.3% ไม่ปิด กลับไปปิดบริเวณอ่าวไฟแว๊บและอีส ออฟ อีเด็น ซึ่งเป็นจุดที่เกิดปะการังฟอกขาวไม่มากนัก




จาก ..................... คม ชัด ลึก วันที่ 22 มกราคม 2554
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม