ดูแบบคำตอบเดียว
  #74  
เก่า 29-10-2011
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,318
Default


ใช้ไฟ-กั้นน้ำ..ห้ามมั่ว 'โดยประมาท' ทำคนตาย 'ติดคุก!'



"เพิ่มโทษในช่วงน้ำท่วม จากเดิมข้อหาลักทรัพย์มีความผิดตามมาตรา 334 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ถ้าหากลักทรัพย์ในช่วงบ้านเมืองกำลังประสบปัญหาอุทกภัย รวมถึงทำลายคันกั้นน้ำ จะมีโทษคือจำคุกระหว่าง 1-5 ปี และปรับ 2,000-10,000 บาท แต่ถ้าหากเป็นการกระทำผิดมากกว่า 2 องค์ประกอบ มีโทษจำคุก 1-7 ปี และปรับ 20,000-24,000 บาท” ...นี่เป็นการแถลงเมื่อวันก่อนของทางฝ่ายตำรวจ พวกหัวขโมยที่ซ้ำเติมทุกข์น้ำท่วมจำใส่หัวไว้

อย่าคิดว่า น้ำท่วม...ตำรวจที่ไหนจะมาตรวจ-มาจับ

เพราะตำรวจก็ถูกชาวบ้านกดดัน...ต้องเอาจริงแน่…

ทั้งนี้ ว่ากันถึงกฎหมาย การลงโทษผู้กระทำความผิดในช่วงน้ำท่วม ทาง “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ก็ขอเตือนเราๆท่านๆทั้งหลายว่า ’ช่วงน้ำท่วมก็ต้องระวังจะตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าคนตายโดยประมาท!!“ โดยมีองค์ประกอบของคดีคือ ’กระแสไฟฟ้า“ และ ’วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้สร้าง-ใช้ในการป้องกันน้ำท่วม“

สำหรับกรณีกระแสไฟฟ้า “ไฟช็อต-ไฟดูด” ในช่วงที่เกิดน้ำท่วม กับน้ำท่วมครั้งใหญ่ปีนี้ทาง “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” เป็นสื่อแรกๆที่เตือนให้ระวังกัน และก็เตือนซ้ำอีกหลายครั้ง แต่กระนั้นก็น่าสลดใจที่มีคนตายเพราะกระแสไฟฟ้าในช่วงน้ำท่วมไปแล้วหลายราย ทั้งในบ้านเรือนของตนเองและตามถนนหนทางที่เกิดน้ำท่วม ซึ่ง ณ ที่นี้ก็ขอย้ำเตือนกันอีกว่าเรื่องนี้ไม่ระวังไม่ได้ โดยเฉพาะกับน้ำท่วมในเขตเมืองและไม่ได้มีการตัดกระแสไฟฟ้า

นอกจากต้องกลัวว่าตนเองจะถูกไฟช็อต-ไฟดูดแล้ว การใช้กระแสไฟฟ้าในช่วงน้ำท่วม ไม่ว่าจะเป็นการใช้ไฟตามปกติในบ้านในบริษัทในหน่วยงานตนเอง หรือใช้กับอุปกรณ์สู้น้ำท่วมต่างๆ ก็ยังต้องระวังกระแสไฟฟ้าดูด-ช็อตคนอื่นด้วย ขณะที่ การใช้วัสดุต่างๆมาสร้างป้องกันการถูกน้ำท่วม ต้องทำให้มั่นคงแข็งแรง ไม่เพียงในแง่การป้องกันน้ำท่วม แต่ต้องไม่สุ่มเสี่ยงต่อการพังทลายจนก่ออันตราย ทั้งกับตนเองและผู้อื่น

กับกรณีการตกเป็นผู้ต้องหา โดยมีองค์ประกอบคดีคือกระแสไฟฟ้าหรือวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ป้องกันน้ำท่วมนั้น ว่ากันทางหลักกฎหมาย ทาง อ.วันชัย สอนศิริ เลขานุการคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค ให้ความรู้ความเข้าใจว่า... กรณีน้ำท่วมบ้านน้ำท่วมพื้นที่ ในเบื้องต้นเจ้าของบ้าน เจ้าของพื้นที่จะต้องตัดไฟฟ้า ซึ่งนอกจากจะเพื่อความปลอดภัยของตัวเองแล้ว ยังเป็นการป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดต่อชีวิตของผู้อื่นด้วย กรณีที่ประมาท ทำให้เกิดไฟฟ้าช็อตคนอื่นเสียชีวิต เจ้าของบ้าน เจ้าของพื้นที่มีความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 291 ที่ระบุไว้ว่า ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท

อีกทั้ง ญาติผู้เสียชีวิต หรือผู้เกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิต สามารถฟ้องร้องทางแพ่งต่อเจ้าของบ้าน เจ้าของพื้นที่ต้นเหตุ ได้ด้วย โดยกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 ระบุไว้ว่า ผู้ใดจงใจประมาทเลินเล่อทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมาย ให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างใดอย่างหนึ่งก็ดี ผู้นั้นทำละเมิด จำเป็นต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทน

อ.วันชัย ชี้ต่อไปว่า... นอกจากระหว่างเอกชนกับเอกชนแล้ว กรณีต้นเหตุเกิดจากหน่วยงานรัฐ ซึ่งรวมถึงหน่วยงานที่ดูแลการตัดกระแสไฟฟ้า ถ้าปล่อยปละละเลยเรื่องไฟฟ้าจนเป็นเหตุให้บุคคลเสียชีวิต ก็สามารถจะถูกฟ้องร้องความผิดทางแพ่งให้รับผิด ร่วมรับผิด ตามมาตรา 420 ของกฎหมายแพ่งได้เช่นกัน

กรณี วัสดุต่างๆในการป้องกันการถูกน้ำท่วม พังหรือถล่ม ทำให้คนอื่นบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ทาง อ.วันชัย แยก 2 กรณีคือ ถ้าเป็นเหตุที่เกิดจากภัยพิบัติธรรมชาติซึ่งควบคุมไม่ได้จริงๆ ให้ถือเป็นเหตุสุดวิสัย แต่ถ้าเป็นเหตุที่เกิดจากการสร้างไม่ได้มาตรฐาน มีคนเสียชีวิต เจ้าของผู้สร้างต้องรับโทษอาญา มาตรา 291 จำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท และญาติหรือผู้เกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิตก็ฟ้องร้องทางแพ่งตามมาตรา 420 ให้จ่ายค่าสินไหมทดแทนได้ ซึ่งก็เช่นเดียวกับกรณีละเลยเรื่องไฟฟ้า

ทั้งนี้ เลขานุการคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนฯ ยังบอกด้วยว่า... วิกฤติน้ำท่วม อย่าตื่นตระหนกจนขาดสติ อย่าตื่นตูมตามข่าวลือ ในภาวะแบบนี้ทุกคนควรแบ่งปันความทุกข์ ความลำบาก ความไม่สะดวกสบาย และควรถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน การเห็นแก่ตัว ยิ่งในภาวะไม่ปกติยิ่งไม่ควรทำ ใครเอาแต่สบายหรือเอาตัวรอดแล้วคนอื่นเดือดร้อนหมด สุดท้ายคนนั้นก็อยู่ไม่ได้ เพราะคนอื่นอยู่ไม่ได้ ซึ่งนี่ก็รวมถึงเรื่องการขโมยกระสอบทราย ทำลายคันดิน ขูดรีดค้ากำไรเกินควรซึ่งเป็นการซ้ำเติมทุกข์ประชาชนในวิกฤติน้ำท่วม ซึ่งทั้งเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำเพราะทำให้คนอื่นๆเดือดร้อนกันทั่ว และเป็นการกระทำความผิด มีโทษตามประมวลกฎหมาย

ช่วง “น้ำท่วม” จะต้อง “ระวังฆ่าคนตายโดยประมาท” ด้วย

และช่วยกันจับตา มีใครหาประโยชน์โดยมิชอบหรือไม่??

มีใคร ’โกงกินบนทุกข์น้ำท่วมของคนไทย“ หรือไม่?????.




จาก ....................... เดลินิวส์ วันที่ 29 ตุลาคม 2554
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม