ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
หินใต้ท้องทะเล ให้เบาะแสเกี่ยวกับแผ่นดินไหว
การสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐอเมริกาได้ประเมินจำนวนแผ่นดินไหวในช่วง 50 ปี โดยที่ประมาณ 100,000 ครั้งที่สามารถสัมผัสได้ และประมาณ 100 ครั้งที่ก่อเกิดความเสียหาย แผ่นดินไหว อันทรงพลังเหล่านี้ได้ทำลายบางส่วนของประเทศต่างๆ รวมถึงคร่าชีวิตผู้คนหลายพันคน ทำให้ต้องใช้เงินหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
แต่จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ครั้งต่อไปเมื่อไหร่นั้น นักวิทยาศาสตร์เผยว่าต้องคอยตรวจสอบพื้นที่ต่างๆ เช่น รอยเลื่อนซานแอนเดรียสในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา และรอยเลื่อนนอร์ท อนาโตเลียน ในตุรกี ล่าสุด นักธรณีวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยเดลาแวร์ ในสหรัฐฯ เผยว่ากำลังสำรวจใจกลางมหาสมุทรที่มีแผ่นดินไหวขนาด 6 ริกเตอร์ซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำ และสิ่งที่พบอาจช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ทำนายการเกิดแผ่นดินไหวบนบกได้ ซึ่งเบาะแสสำคัญก็คือหินก้นทะเล เช่น หินเพริโดไทต์ (Peridotite) เป็นหนึ่งในหินที่พบมากที่สุดในเขตรอยเลื่อนใต้ทะเล นักธรณีวิทยาอธิบายว่ารอยเลื่อนจะทำให้น้ำทะเลจำนวนมากไหลลงสู่ความลึกมากกว่า 16 กิโลเมตรใต้พื้นทะเล เมื่อน้ำเข้าไปในหินก็จะทำปฏิกิริยากัน และยังพบว่าการแทรกซึมของน้ำทะเลทำให้เกิดการตกผลึกของแร่ธาตุเม็ดเล็กๆ และสิ่งเหล่านี้ทำให้หินเล็ดลอดตามไปแทนที่จะเกิดเหตุการณ์พัดร่วงหลุด
อย่างไรก็ตาม แม้จะยังไม่มีทางหยุดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ไม่ให้เกิดขึ้นได้ แต่การรู้ คุณสมบัติของหินก็เพื่อทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นในเขตรอยเลื่อนและแผ่นดินไหวจนนำไปสู่การพยากรณ์การเกิดแผ่นดินไหวตามมา.
Credit : University of Delaware
https://www.thairath.co.th/news/foreign/2164427
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
|