ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 04-11-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ดู "เต่าทะเล" น่ารัก ที่ "เกาะมันใน" เกาะอนุรักษ์เต่าแห่งเดียวในไทย

"ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก" บนเกาะมันใน จ.ระยอง เป็นสถานที่อนุบาลลูกเต่าทะเลก่อนจะปล่อยลงสู่ทะเล ซึ่งมีทั้งส่วนของอาคารพิพิธภัณฑ์เต่าทะเลไว้ให้ความรู้เรื่องเต่า และมีบ่อเลี้ยงเต่าช่วงวัยต่างๆ ให้ได้ชม




https://mgronline.com/news-clips/3dJUEhYN2ag


*********************************************************************************************************************************************************


ตะลึง! ความมหัศจรรย์แหล่ง "กัลปังหา" ที่หัวเกาะกระดาน ความสวยงามแห่งท้องทะเลตรัง



ตรัง ? นักดำน้ำตะลึงในความมหัศจรรย์ของแหล่ง "กัลปังหา" ที่บริเวณ "หัวเกาะกระดาน" หนึ่งในสถานที่จัดงานวิวาห์ใต้สมุทรอันโด่งดัง เนื่องจากมีปริมาณหนาแน่น และสวยงามแห่งหนึ่งของท้องทะเลตรัง

หลังจากสถานการณ์ฟ้าฝนใน จ.ตรัง เริ่มลดลง และเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวทางทะเลตรัง โดยเฉพาะในช่วง 2 เดือนท้ายสุดของปี 2563 ทำให้นักท่องเที่ยวทยอยกันเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังท้องทะเลตรังในยุค New Normal ซึ่งช่วงนี้ค่อนข้างจะมีสภาพธรรมชาติที่สวยสดงดงาม และเหมาะสำหรับการดำน้ำลงไปชมความมหัศจรรย์ใต้ท้องทะเล โดยเฉพาะหนึ่งในแหล่ง "กัลปังหา" ที่นักท่องเที่ยวนิยมดำน้ำลงไปสัมผัส อย่างที่บริเวณ "หัวเกาะกระดาน" หรือ "เกาะแห่งความรัก" เนื่องจากเป็นหนึ่งในสถานที่จัดงานวิวาห์ใต้สมุทรอันโด่งดัง

"จารโบ" แห่ง Ezy Free Dive Thailand ครูสอนดำน้ำชื่อดังระบุว่า "กัลปังหา" ที่บริเวณหัวเกาะกระดาน อาทิ กัลปังหาพุ่มไม้ กัลปังหาพิณ กัลปังหาพัด ถือเป็นจุดที่มีปริมาณหนาแน่นมากแห่งหนึ่งของทะเลตรัง จนบรรดานักดำน้ำต้องตะลึงในความมหัศจรรย์ ถึงแม้ในเดือนหนึ่งๆ จะสามารถดำน้ำลงไปชมได้แค่ 6-8 วัน และในแต่ละวันจะดำน้ำลงไปชมได้แค่ 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น เพราะเป็นจุดที่มีกระแสน้ำแรง จึงต้องคำนึงเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม ก็เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากนิยมดำน้ำลงไปชมความสวยงามของธรรมชาติกัน


https://mgronline.com/south/detail/9630000113923


*********************************************************************************************************************************************************


ทช.เดินหน้าผุดถนนเลียบทะเลกว่า 1,500 กม. วางแนวผ่านจุดไฮไลต์ หนุนท่องเที่ยวไทย



ทช.เร่งพัฒนาถนนเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ (ไทยแลนด์ริเวียร่า) 1,500 กม. ถนนเลียบแม่น้ำโขง 750 กม. และถนนเลียบชายเขาด้านทิศใต้ของเขาใหญ่ "บูรพาคีรี" 175 กม. ขึงแนวผ่านแหล่งท่องเที่ยว จุดชมวิวไฮไลต์ ช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชน ส่งเสริมเศรษฐกิจในประเทศ

นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยถึงการพัฒนาให้เป็นถนนเพื่อการท่องเที่ยวและเส้นทางชมทิวทัศน์ (Scenic Route) ว่า ทช.มีนโยบายที่จะเพิ่มศักยภาพของโครงข่ายสายทาง ถนนเพื่อการท่องเที่ยวและเส้นทางชมทิวทัศน์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวของไทยตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (2561-2580) โดยมีการปรับปรุงถนนทางหลวงชนบทให้มีความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการเดินทางเข้าถึงและเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ รวมถึงการปรับปรุงภูมิทัศน์ให้เป็นจุดชมทิวทัศน์หรือแหล่งเรียนรู้ในชุมชน ซึ่งในปัจจุบัน ทช.อยู่ระหว่างดำเนินการ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้

1. ถนนเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ (Thailand Riviera) เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวตามแนวชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกของอ่าวไทย จากจังหวัดสมุทรปราการถึงจังหวัดนราธิวาส แบ่งการดำเนินการเป็น 4 ระยะคือ

ระยะที่ 1 จากจังหวัดสมุทรสงครามถึงจังหวัดชุมพร ระยะทางประมาณ 659 กม. ปัจจุบันดำเนินการก่อสร้างไปแล้วมากกว่า 80% จำนวน 35 โครงการ ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง จำนวน 5 โครงการ และในปี 2565 ได้เสนอของบประมาณดำเนินการอีกจำนวน 2 โครงการ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จทั้งหมดในปี 2566

ระยะที่ 2 จากจังหวัดชุมพรถึงจังหวัดสงขลา ระยะทางประมาณ 555 กม. เริ่มต้นก่อสร้างบางช่วงแล้วตั้งแต่ปี 2563 โดยมีแผนก่อสร้างขยายไหล่ทาง 25 โครงการ ปรับปรุงผิวจราจร 41 โครงการ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จทั้งหมดในปี 2569

ระยะที่ 3 จากจังหวัดสมุทรปราการถึงจังหวัดสมุทรสงคราม ระยะทางประมาณ 144.59 กม. ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการสำรวจออกแบบและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม คาดว่าจะเริ่มต้นก่อสร้างได้ในปี 2566 แนวเส้นทางประกอบด้วย แนวเส้นทางสายหลัก ความยาวรวม 88.64 กม., แนวเส้นทางที่แยกออกไปยังแหล่งท่องเที่ยว ความยาวรวม 48.75 กม. และแนวเชื่อมต่อกับถนนเลียบชายฝั่งทะเลอ่าวไทยช่วงจังหวัดสมุทรสาครถึงจังหวัดชุมพร ความยาวรวม 7.20 กม.

ระยะที่ 4 จากจังหวัดสงขลาถึงจังหวัดนราธิวาส ระยะทางประมาณ 190 กม. คาดว่าจะสำรวจออกแบบในปี 2566

นอกจากนี้ ยังมีการสำรวจออกแบบถนนเพิ่มเติมแนวเลียบเทือกเขาตะนาวศรีในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระยะทางประมาณ 250 กม. แนวเส้นทางประกอบด้วย แนวเส้นทางสายหลัก ความยาวรวม 186 กม. ครอบคลุมพื้นที่ 6 อำเภอของจังหวัดเพชรบุรี และ 2 อำเภอของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์, แนวเส้นทางที่แยกออกไปยังแหล่งท่องเที่ยว ความยาวรวม 71.30 กม. และแนวเส้นทางที่เชื่อมกับโครงข่ายทางหลวงสายหลัก ความยาวรวม 87.70 กม.


2. ถนนเลียบแม่น้ำโขง "นาคาวิถี" สนับสนุนเขตพัฒนาการท่องเที่ยววิถีชีวิตลุ่มแม่น้ำโขง จากจังหวัดเลยถึงจังหวัดอุบลราชธานี ระยะทางรวมประมาณ 750 กม. โดยปัจจุบันได้ดำเนินการสำรวจออกแบบระยะที่ 1 แล้ว จากจังหวัดมุกดาหารถึงจังหวัดนครพนม ระยะทางประมาณ 42 กม. และจะดำเนินการสำรวจออกแบบส่วนที่เหลือในระยะถัดไป ทั้งนี้ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2565


3. ถนนเลียบชายเขาด้านทิศใต้ของเขาใหญ่ "บูรพาคีรี" มีระยะทางประมาณ 175 กม. ผ่านแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญหลายแห่งในจังหวัดนครนายก นครราชสีมา ปราจีนบุรี และสระแก้ว เช่น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และอุทยานแห่งชาติปางสีดา ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างสำรวจออกแบบ


https://mgronline.com/business/detail/9630000113883

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม