ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 06-11-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


เตือนระวังแมงกะพรุนถ้วยขณะลงเล่นน้ำชายหาดแหลมสิงห์-ท่าใหม่ จ.จันทบุรี

จันทบุรี - เตือน! ประชาชนระวังแมงกะพรุนขณะลงเล่นน้ำบริเวณชายหาดใน อ.แหลมสิงห์ และ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี หลังพบแมงกะพรุนถ้วยนับล้านตัวเริ่มเข้าหากินริมชายฝั่ง หวั่นอาจมีแมงกะพรุนมีพิษปะปน



จากกรณีที่มีการพบแมงกะพรุนถ้วยจำนวนมาก ลอยหากินใกล้ชายฝั่งบ้านบางกะไชย อ.แหลมสิงห์ และ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ซึ่งครั้งล่าสุด แมงกะพรุนถ้วยหลากสีจำนวนมากนับล้านตัวเหล่านี้ ได้เคยลอยตามกระแสน้ำเข้ามาในพื้นที่ชายหาดบ้านจ้าวหลาว ต.คลองขุด อ.นายายอาม และบ้านอ่าวหมู ต.คลองปลาดุก อ.แหลมสิงห์ เมื่อหลายปีก่อน และมักจะเป็นเช่นนี้ประจำในช่วงปลายฝนต้นหนาว

และเมื่อน้ำทะเลลดระดับลงแมงกะพรุนจำนวนมากที่ลอยตามน้ำจะกลับลงทะเลไม่ทัน ทำให้แมงกะพรุนจำนวนมากนอนตายเกลื่อนชายหาด และการที่แมงกะพรุนจำนวนมากเข้ามาหากินใกล้ชายฝั่ง ถือเป็นสิ่งบ่งชี้ของวงจรชีวิตทางธรรมชาติที่สมบูรณ์ในทะเล โดยเฉพาะพวกแพลงก์ตอน ลูกปลา ลูกกุ้ง อาหารของแมงกะพรุนที่อุดมสมบูรณ์ในเขตพื้นที่น้ำตื้นนั้น



วันนี้ (5 พ.ย.) หน่วยงานท้องถิ่น และผู้นำชุมชนในพื้นที่ จ.จันทบุรี ได้แจ้งเตือนประชาชน ชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวให้ระมัดระวังแมงกะพรุนขณะลงเล่นน้ำบริเวณชายหาด เนื่องจากแมงกะพรุนมีพิษ และอาจส่งผลต่อผิวหนังซึ่งผู้ที่มีอาการแพ้แมงกะพรุนอาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้

ทั้งนี้ ชาวบ้านในพื้นที่ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ผู้ที่มีอาการแพ้แมงกะพรุนบางรายอาจถึงขั้นหมดสติหากสัมผัสถูกตัวแมงกะพรุน

ส่วนสาเหตุที่ทำให้แมงกะพรุนถ้วยมีสีสันต่างๆ ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ และในเขตน้ำตื้นแบบชายฝั่งจะมีเพียงสีขาวและลายจุด หากเป็นน้ำลึกจะมีสีน้ำเงินและสีชมพูสวยงาม

นอกจากนี้ แมงกะพรุนที่ปะปนมากับแมงกะพรุนถ้วยอีกชนิดหนึ่ง คือ แมงกะพรุนไฟ ซึ่งจะมีตัวสีน้ำตาล และอาจเป็นอันตรายเมื่อถูกร่างกายทำให้ปวดแสบปวดร้อน คันที่ผิวหนัง บางรายถ้าแพ้ฤทธิ์แมงกะพรุนไฟอาจถึงขั้นหมดสติได้


https://mgronline.com/local/detail/9630000114825


*********************************************************************************************************************************************************


อุทาหรณ์! หนูน้อยทำหมวกตกน้ำพบปลาตะกละกลืนลงท้อง โชคดีหมอช่วยชีวิตนำออกได้ทัน

ผอ.ศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ จุฬาฯ เตือนหากไปให้อาหารปลาควรระมัดระวัง อย่าทำอะไรตกน้ำ เพราะสิ่งแปลกปลอมต่างๆ สามารถฆ่าสัตว์น้ำได้ หลังมีเด็กทำหมวกตกน้ำและปลาได้กลืนลงท้อง และหมอสามารถช่วยชีวิตนำหมวกออกจากท้องปลาได้ทัน พร้อมชื่นชมแม่เด็กที่แจ้งทีมช่วยเหลือ เพราะห่วงชีวิตปลา



วันนี้ (5 พ.ย.) เฟซบุ๊ก "Nantarika Chansue" หรือ รองศาสตราจารย์ สัตวแพทย์หญิง ดร.นันทริกา ชันซื่อ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโพสต์ภาพ เผยเรื่องราวหลังได้รับร้องเรียนให้ช่วยเหลือปลาตัวหนึ่ง ซึ่งกลืนหมวกของเด็กลงท้อง หลังจากเด็กน้อยทำหมวกตกน้ำไป ทำให้คุณแม่ของน้องเป็นห่วงปลามาก

โดยระบุรายละเอียดว่า "เรื่องที่ต้องเล่าสู่กันฟัง เมื่อหนูน้อยทำหมวกหล่นลงไปในบ่อปลา เมื่อ 4 วันก่อน ที่วัด แล้วเจ้าปลาตะกละตัวนี้ก็กลืนลงไป ทีมของศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ จุฬาฯ ได้รับการติดต่อจากคุณแม่ของน้อง ซึ่งเป็นห่วงปลามาก เราจึงเข้าไปทำการนำหมวกออกมาได้สำเร็จ ปลอดภัยทั้งปลาและหมวก

ฝากให้ช่วยระวังเวลาไปดูบ่อปลาบ่อเต่า อย่าให้มีของหล่นลงไปนะคะ มันจะกลายเป็นสิ่งแปลกปลอมที่ฆ่าสัตว์ได้ และขอบคุณคุณแม่ท่ีมีความรับผิดชอบต่อชีวิตปลา ขอบคุณทางวัดท่ีให้ความร่วมมือช่วยเหลืออย่างดี และขอบคุณทีมงานที่เปลี่ยนตารางชีวิตเพื่อมาช่วยชีวิตปลาตัวนี้ และขอบคุณภาพจากคุณหมอฟ้า"


https://mgronline.com/onlinesection/.../9630000114724


*********************************************************************************************************************************************************


แม่เต่ากระนิรนามขึ้นวางไข่! ที่ปลายอ่าวเทียน สะท้อนชายฝั่งทะเลไทยสงบและปลอดภัย

เต่ากระขึ้นวางไข่บริเวณระหว่างปลายอ่าวเทียนและอ่าวในหุบของเกาะทะลุ พื้นที่รับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม (เตรียมการ) เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มันวางไข่จำนวน 178 ฟอง นับเป็นอีกครั้งที่ตอกย้ำว่าพื้นที่ชายฝั่งทะเลไทยมีความอุดมสมบูรณ์ และสงบเพียงพอที่ทำให้แม่เต่ามั่นใจ



พิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2563 เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม (เตรียมการ) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันตก และศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จัดกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังการขึ้นวางไข่ของแม่เต่ากระ

พบแม่เต่ากระ (ไม่ทราบชื่อ เนื่องจากสแกนไม่พบไมโครชิพ) ขึ้นวางไข่บริเวณระหว่างปลายอ่าวเทียนและอ่าวในหุบของเกาะทะลุ อำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 178 ฟอง ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม(เตรียมการ) เจ้าหน้าที่ฯ ได้ดำเนินการวัดขนาดของแม่เต่าตัวดังกล่าว มีความกว้าง 79 ซม. ความยาว 73 ซม. ระยะทางจากรอยขึ้นถึงชายน้ำประมาณ 10 เมตร

ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยฯ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องติดตามดาวเทียม (GPS Track) บนกระดอง พร้อมทั้งฝังไมโครชิพหมายเลข 933076400530527 และยังร่วมกันเคลื่อนย้ายไข่เต่าให้พ้นจากบริเวณที่น้ำทะเลท่วมถึงไปยังจุดอนุบาลฯ วัด ความลึกหลุม 45 ซม. ความกว้างของหลุม 21 ซม. และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เฝ้าระวังและเก็บข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมง

เต่ากระ หรือ เต่าปากเหยี่ยว มีลักษณะคล้ายเต่าตนุ เป็นเต่าทะเลขนาดกลาง มีลำตัวไม่ใหญ่มากนัก จะงอยปากแหลมงองุ้มคล้ายกับจะงอยปากของนกเหยี่ยว มีเกล็ดบริเวณหัวด้านหน้า 2 คู่ และเกล็ดบริเวณด้านข้างข้างละ 4 เกล็ด ลักษณะของกระดองมีลวดลายและสีสันสวยงาม ขอบกระดองเป็นหยักโดยรอบ ซึ่งในอดีตมักจะถูกนำไปทำเป็นเครื่องประดับและข้าวของต่าง ๆ เช่น หวี เมื่อโตเต็มที่ จะมีขนาดความยาวประมาณ 100 เซนติเมตร และมีน้ำหนักประมาณ 120 กิโลกรัม

เต่ากระพบกระจายพันธุ์ในเขตอบอุ่นในมหาสมุทรทั่วโลก มักอาศัยอยู่ใกล้ชายฝั่งที่สงบเงียบไม่มีการรบกวน จากการศึกษาพบว่า เต่ากระกินทั้งได้พืชและสัตว์ โดยใช้ปากที่งองุ้มนี้กินทั้งสาหร่ายทะเล, หญ้าทะเล รวมทั้งสัตว์น้ำประเภทต่าง ๆ รวมถึงปะการังด้วย วางไข่บนชายหาดครั้งละ 150-250 ฟอง

เต่ากระจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองประเภทที่ 1 ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 และจัดเป็น 1 ใน 4 ชนิดของเต่าทะเลที่พบได้ในน่านน้ำไทย


https://mgronline.com/greeninnovatio.../9630000114888
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม