ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 01-04-2015
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,159
Default มนุษย์คือนักทำลายธรรมชาติ ตัวจริงเสียงจริง






ภาพถ่ายดาวเทียมที่เห็นข้างบนนี้ ดูเหมือนภาพวาดที่สวยงามน่าประทับใจ...ในความเป็นจริงแล้ว ภาพดังกล่าวเป็นภาพที่น่าเศร้าสลดใจมากกว่า เพราะได้แสดงให้เห็นสภาพของทะเลปิดที่ชื่อว่า อารัล (Aral Sea) ตั้งอยู่ระหว่างพรมแดนของอุซเบนิสถานและคาซัคสถาน ซึ่งในอดีตเคยสวยงามและอุดมสมบูรณ์ด้วยปลาและสัตว์น้ ำชนิดต่างๆ แต่ในปัจจุบันนี้ สภาพกลับเสื่อมโทรม ปริมาณน้ำในทะเลได้เหือดแห้งลดน้อยถอยลงเรื่อยๆ จนเหลือปริมาณเพียง 1 ใน 4 ของปริมาณน้ำที่มีอยู่เดิม และความเค็มของน้ำได้เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 5 เท่า



ภาพแสดงการเปรียบเทียบปริมาณน้ำในทะเลอารัลในปี 2532 (ซ้าย) และ 2557 (ขวา)

ภาพจาก ... (http://en.wikipedia.org/wiki/Aral_Se...a1989_2014.jpg



เหตุแห่งความเสื่อมโทรมดังกล่าว สืบเนื่องมาจาก แม่น้ำอามูดาร์ยาและแม่น้ำเซียร์ดาร์ยา ที่เคยนำน้ำลงมาสู่ทะเลอารัล ได้ถูกเปลี่ยนเส้นทางเพื่อสนองตอบโครงการชลประทานของสหภาพโซเวียต ที่ต้องการนำน้ำไปใช้เพื่อการเกษตรในดินแดนของตน นอกจากนี้ น้ำในทะเลอารัลเองได้เกิดการเน่าเสียอย่างหนัก อันเป็นผลจากการทิ้งปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลงจากการทำเกษตรกรรมขนาดใหญ่ที่อยู่รอบๆ ลงไปในทะเลอารัลโดยตรง



ในที่สุด...การทำประมงในทะเลอารัลที่เคยเฟื่องฟูก็ถึงการณ์ล่มสลาย เพราะปลาและสัตว์น้ำทั้งหลาย ไม่สามารถอาศัยในน้ำที่เค็มจัดและเน่าเสียได้ จึงพากันตายไปจนหมด เรือประมงที่เคยออกหาน้ำมาช้านาน ต้องถูกจอดทิ้งให้ผุพังอยู่บนพื้นทรายปนเกลือที่เคยเป็นพื้นน้ำทะเล กลายเป็นสุสานเรือประมงที่ไม่น่าดู และผลที่ตามมาช่างน่าเศร้าสลดใจ เมื่อชาวประมงที่ไม่มีงานจะทำ ต้องเปลี่ยนอาชีพไปรับจ้างทั่วไปในไร่เกษตรกรรม โรงงานอุตสาหกรรม หรือไม่ก็ตกงาน ชีวิตยากลำเค็ญแสนสาหัสอย่างที่ไม่เคยประสบมาก่อน




บทเรียนจากทะเลอารัลที่ดูสวยงามจากอวกาศ น่าจะสอนให้เราได้เห็นแล้วว่า การทำลายทะเลและสิ่งแวดล้อมของมนุษย์นั้น จะนำแต่ความเดือดร้อนมาให้มนุษย์อย่างเราๆท่านๆได้ในไม่ช้าไม่นาน....

__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 01-04-2015 เมื่อ 12:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม