ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 26-12-2014
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,106
Default


สึนามิครั้งต่อไป จะเกิดเมื่อ...? เตือนมหันตภัยคลื่นยักษ์ ถล่มแผ่นดิน!



นับเป็นเวลาครบ 10 ปีพอดิบพอดี ที่มหันตภัยสึนามิ โหมพัดมวลน้ำมหาศาลขึ้นบก ถล่มประเทศต่างๆ รอบทะเลอันดามันราบคาบเป็นหน้ากลอง ทรัพย์สินมหาศาลเสียหายจบสิ้นชั่วพริบตา ชีวิตอันมีค่ามอดม้วยไร้วันกลับ...มหันตภัยครั้งใหญ่ที่ติดอยู่ในความทรงจำของคนไทย ณ เวลานั้นคุณกำลังทำอะไรอยู่ จำได้ไหม?

ในโอกาสครบรอบ 10 ปีภัยพิบัติสึนามิ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้พูดคุยกับ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช อดีตผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ผู้ที่เคยทำนายว่า ประเทศไทยจะเกิดสึนามิครั้งใหญ่ แต่ไร้คนเชื่อ และชาวบ้านหาดกมลา จังหวัดภูเก็ต ผู้สูญเสียจากภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิ คุณป้าบุญ ขวัญยืน ที่มีชะตากรรมไม่ต่างอะไรจากตายทั้งเป็น....



ตะลึงนิ่งดูคลื่นยักษ์ ไร้ความรู้ ไม่รู้หลบหนี

ป้าบุญ ขวัญยืน หญิงวัย 62 ปี ผู้ที่ตกอยู่ในสถานการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ ถล่มชายฝั่งอันดามันของไทย เธอจำวินาทีชีวิตครั้งนั้นได้ติดตา คุณป้าวัย 62 ปี เล่าถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นราวกับว่า เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน ว่า ในวันที่เกิดคลื่นยักษ์สูงเท่าตึก ป้าบุญกับลูกสาวและหลานๆ อีก 3 คน กำลังนั่งพูดคุยเอกเขนกกันอยู่ที่เพิงหน้าบ้าน โดยระยะทางจากบ้านของป้าบุญนั้น ห่างจากหาดกมลา แค่เพียง 2 เสาไฟฟ้าเท่านั้น แต่จู่ๆ ป้าและครอบครัวก็ได้ยินเสียงชาวบ้านและนักท่องเที่ยวบริเวณหน้าหาดโหวกเหวกโวยวาย เสียงดังสนั่นรอบบริเวณ

ทั้งป้าและลูกๆ หลานๆ ต่างตื่นตกใจ พยายามกวาดสายตาค้นหาต้นตอที่ทำให้เกิดเสียง แต่แล้วสิ่งที่ทำให้ทุกคนต้องผงะ คือ คลื่นยักษ์สูงใหญ่ระดับเอวกำลังเคลื่อนที่เข้ามาใกล้บ้านป้าบุญอย่างรวดเร็ว ด้วยความที่ตัวป้าและเด็กๆ ต่างไม่เคยพบไม่เคยเจอคลื่นสูงเช่นนี้มาก่อน จึงทำได้แค่เพียงอุ้มหลานตัวเล็กๆ ขึ้นโต๊ะ ขึ้นเก้าอี้กันอย่างชุลมุน

“ป้าเห็นว่า ไอ้คลื่นยักษ์ที่เข้ามาพังบ้านป้า ดูท่าจะไม่ดี เลยตัดสินใจบอกลูกบอกหลานให้หนีขึ้นเขากันก่อน เพราะไม่รู้ว่ามันจะมาอีกลูกหรือเปล่า แต่ลูกสาวป้าเขาหวงของ ก็เลยขอเก็บของก่อน แล้วจะตามขึ้นไปทีหลัง แต่หลานเล็กๆ สองคนดันติดลูกสาวป้าแจ จะอยู่กับลูกสาวป้าให้ได้ ไม่ยอมหนึขึ้นเขาไปกับป้าด้วย จะมีก็แต่หลานคนโตอายุ 7 ขวบ วิ่งตามป้าขึ้นไป” หญิงวัย 62 ปี ผู้โดดเดี่ยวจำวินาทีเมื่อสิบปีก่อนได้ดี




นาทีคลื่นยักษ์ถล่ม ทำได้แค่เพียงภาวนา!

ทันทีที่ป้าบุญวิ่งขึ้นพ้นตีนเขาไปได้ไม่กี่อึดใจ คลื่นยักษ์สูงลิ่วราวกับจะกวาดเมืองทั้งเมือง กำลังโหมพัดกระหน่ำบ้านช่อง รีสอร์ตต่างๆ อย่างบ้าคลั่ง และหนึ่งในบ้านที่ไม่สามารถรอดพ้นจากน้ำมือคลื่นหายนะ ก็คือ บ้านชั้นเดียวยกสูงก่ออิฐ บ้านของป้าบุญที่มีลูกสาวและหลานๆ อันเป็นที่รักกำลังเก็บข้าวเก็บของกันอย่างขมักเขม้น เพื่อจะวิ่งตามป้าขึ้นเขาไปทีหลัง

“ในช่วงที่คลื่นลูกที่สองพัดเข้ามาอีก หัวใจป้าแทบหยุดเต้น ขาทั้งขาของป้าจู่ๆ ก็หมดแรง นั่งพับเพียบลงกับพื้น ยกมือขึ้นมาพนมผีสางนางไม้ ภาวนาให้ลูกหลานป้าแคล้วคลาดรอดชีวิต กลับมาเจอกันอีกครั้ง ในใจก็คิดว่า ถ้ามันจะพัดเอาทรัพย์สินป้าไป ก็เอาลงทะเลไปให้หมดเลย แต่ช่วยเมตตาอย่าเอาชีวิตของลูกหลานป้าไปก็เป็นพอ” ป้าบุญเล่าด้วยสีหน้าอาลัย

ในช่วงเวลาที่ป้าทำได้แค่เฝ้ารอ และมองดูชีวิตของคนมากมายดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากคลื่นยักษ์ หลายต่อหลายคนจมหายลงไปกับสายน้ำ คนพวกนี้บ้างก็เป็นคนรู้จัก สนิทสนมกันมาตั้งแต่เด็กๆ บ้างก็เป็นญาติสนิทมิตรสหาย บ้างก็เป็นชาวต่างชาติ แต่เจ้ากรรม ป้าบุญไม่สามารถช่วยเขาเหล่านี้ได้เลย เพราะด้วยมวลน้ำที่พัดเร็ว รุนแรง ปานปีศาจร้ายที่กั้นขวางความช่วยเหลือทั้งหมด



“ศพกอดกันกลม...” เสียงสะอื้นจากผู้รอดชีวิต

ไม่ถึงชั่วโมง แต่ราวกับนานหลายปีในความรู้สึกของป้าบุญ เมื่อระดับน้ำลดลงจนสามารถเดินลงไปตามทางเดิน ที่บัดนี้แทบไม่เหลือเค้าเดิมว่า แต่ก่อนเก่านั้น เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันเลื่องชื่อ ด้วยเศษซากปรักหักพังของตึกรามบ้านช่อง เละเทะทั่วพื้นที่ แต่ป้าบุญก็ยังรีบวิ่งอย่างกระเสือกกระสน โดยมีปลายทางคือ บ้านหลังน้อย ซึ่งเพิ่งจากลาหนีภัยมาเพียงชั่วครู่

“พอน้ำลด ป้ารีบวิ่งไปที่บ้านก่อนเลย ตอนนั้นไม่สนใจแล้วว่าจะเหยียบเศษแก้ว กิ่งไม้เกี่ยวแข้งเกี่ยวขา วิ่งไปชนิดที่ลืมเจ็บ แต่พอไปถึงบ้าน ป้านี่แทบเป็นคนบ้าไปเลย ร้องไห้ กรีดร้องสุดเสียง ลมจับ เพราะภาพแรกที่ป้าเห็นหลังจากวิ่งไปถึงที่บ้าน เป็นภาพที่ลูกสาวกับหลานอีกสองคน นอนกอดกันกลมอยู่ในบ้านที่พังยับเยิน และทั้ง 3 คนนั้นกลายเป็นร่างที่ไร้วิญญาณไปเสียแล้ว” หญิงชรากล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ


หอส่งสัญญาณเตือนภัยสึนามิ

ประชาชนแห่หนีขึ้นที่สูงกันให้วุ่น

กว่าจะมาถึงวันนี้ กว่าที่ความรู้สึกของป้าบุญจะกลับคืนมาดังเดิม ป้าผู้ประสบเคราะห์กรรมยังต้องประสบพบเจอกับเหตุการณ์ร้ายๆ ที่เหมือนเหยียบย่ำซ้ำเติมหัวใจของหญิงชราผู้นี้อีกครั้ง “สัญญาณเตือนภัยสึนามิ ที่ทางการเขาเอามาติดตั้งไว้ บางทีมันก็ดังขึ้นมา ทั้งๆ ที่ไม่มีภัยพิบัติอะไรเกิดขึ้นเลย และทุกครั้งที่เครื่องเตือนเจ้ากรรมดัง มันทำให้ป้าต้องนอนผวาแทบบ้า จะดึกจะดื่นป้าก็วิ่งขึ้นเขาทุกครั้งไป”

ขณะนี้ ป้าบุญ ประกอบอาชีพเป็นหมอนวดให้กับนักท่องเที่ยว แต่รายได้บางวันก็แทบจะไม่มีเสียแล้ว เพราะมีสาเหตุมาจากการที่ภาครัฐ เข้าจัดระเบียบชายหาด สั่งห้ามไม่ให้ตั้งเตียงผ้าใบและร่มร้านค้าตลอดแนวหาด แต่สิ่งที่หญิงชราวัย 62 ปี ทำได้ก็คือ ออกตระเวนไปกับแพทย์อาชีพ เพื่อออกงานนวดให้กับร้านรวงต่างๆ โดยมีรายได้ยังชีพเพียงน้อยนิด



ระบบเตือนภัยสึนามิของไทย ห่วยจริงหรือ?

ทว่า ดร.สมิทธ ธรรมสโรช อดีตผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวถึงปัญหาที่เกิดกับเครื่องเตือยภัยสึนามิ ว่า เท่าที่ทราบมา หอเตือนภัยที่ทางการได้เข้าไปติดตั้งให้กับชุมชนนั้น บางหอก็ไม่ทำงาน บางหอก็มีเถาวัลย์พันรกแน่น บางหอก็ถูกขโมยสายล่อฟ้า ทั้งๆ ที่เครื่องเตือนภัยเป็นเสมือนเครื่องมือรักษาชีวิต เพราะฉะนั้น ควรได้รับการดูแลอย่างดี

“ระดับชาติมีกฎหมายบังคับไว้ว่า ระบบเตือนภัยสึนามิ ต้องมีการซ้อมปีละ 2 ครั้ง ตั้งแต่เขาย้ายผมออกมา ไม่มีการซ้อมครั้งใหญ่ๆ ป้ายที่ทำการซ้อมก็ชี้ขึ้นเขาบ้าง ลงทะเลบ้าง ละเลย ไม่มีการดูแล บางคนก็เอาโฆษณาไปติดทับป้ายที่เราทำไว้” ดร.สมิทธ กล่าวถึงปัญหาปัญหาการเตือนภัย

ดังนั้น รัฐบาลควรปรับปรุงศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ทั้งในเรื่องของการเข้าไปดูแลรักษาเครื่องไม้เครื่องมือ ให้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ มิใช่ว่า ฝนตกน้ำท่วมประเทศไปแล้ว แต่เพิ่งจะมาเตือนภัย เพราะเรื่องเช่นนี้ต้องบอกกันล่วงหน้า เพื่อจะได้เตรียมต้วได้ทันท่วงที พร้อมกันนั้น บุคลากรที่จะเข้ามาทำงานที่ศูนย์เตือนภัยฯ จะต้องมีความรู้ทางด้านอุตุวิทยา อุทกวิทยา ธรณีวิทยา เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการบริหารงานได้อย่างมีคุณภาพ มิใช่ว่าเอาผู้ที่ไม่มีความรู้ ไร้ความสามารถเฉพาะทางมาเป็นผู้อำนวยการ




ประเทศไทย จะเกิดสึนามิอีกหรือไม่?

สึนามิเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เกิดแผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตรา คลื่นยักษ์ลูกใหญ่ใช้เวลาพัดขึ้นชายฝั่งไทยประมาณ 90 นาที แต่ในครั้งนี้ ดร.สมิทธ ผู้เชี่ยวชาญของประเทศญี่ปุ่น และผู้เชี่ยวชาญของประเทศไอร์แลนด์เหนือ ทำนายว่า หากเกิดแผ่นดินไหวที่บริเวณเกาะนิโคบา หรือหมู่เกาะอันดามัน คลื่นสึนามิจะพัดเข้าชายฝั่งจังหวัดระนอง จังหวัดพังงา ภายใน 30 นาทีอย่างแน่นอน แต่ยังไม่สามารถคำนวณได้ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวเมื่อใด

“ถ้าระบบเตือนภัยไม่ดีพอ และไม่มีการเตือนภัยล่วงหน้า ชีวิตของคนมากมายที่อยู่บริเวณนั้นๆ ย่อมหนีไม่ทันแน่นอน เพราะครั้งนี้มวลน้ำจะมาเร็วกว่ากำหนด และมาพร้อมกับความรุนแรงที่มากกว่าครั้งก่อน ซึ่งคราวที่แล้วใช้เวลา 90 นาที คลื่นสูง 16 เมตร ถึงจะเคลื่อนเข้าฝั่ง แต่ครั้งนี้คลื่นจะสูงกว่าเดิม ผมคิดว่าถ้ามันเกิดขึ้นอีก จะมีคนเสียชีวิตมากกว่าคราวที่แล้ว” ผู้เคยทำนายทายทักได้อย่างถูกต้องว่าเมืองไทยจะเกิดสึนามิกล่าวเตือน.


จาก ................ ไทยรัฐ วันที่ 26 ธันวาคม 2557
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายน้ำ : 28-12-2014 เมื่อ 09:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม