ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 19-03-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


เจ้าหลังลาย พะยูนเกาะลิบง ว่ายน้ำคู่ปลาช่อนทะเล เห็นใกล้ๆ กลางทะเลตรัง

ภาพสุดน่ารักเมื่อ "เจ้าหลังลาย" พะยูนหนุ่มเกาะลิบงว่ายน้ำอวดโฉมนักท่องเที่ยว ที่นั่งมากับเรือโดยสารเส้นทางท่าเรือหาดยาว-เกาะลิบง โดยว่ายน้ำคู่กับปลาช่อนทะเล กลางทะเลตรังให้คนชมอย่างใกล้ชิด



เมื่อวันที่ 18 มี.ค.64 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายยงยุทธ สักหลัด หรือผู้ใหญ่สุข ม.6 บ้านหาดยาว ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ว่า นายมานพ พรหมเวช หรือบังเวช อายุ 45 ปี คนขับเรือโดยสารเส้นทางท่าเรือหาดยาว-เกาะลิบง ได้ถ่ายภาพส่งคลิปมาบอกตนว่าพบพะยูน เพศผู้ กำลังว่ายน้ำเล่นกับปลาช่อนทะเลอย่างเพลิดเพลิน บริเวณหน้าเขาบาตูปูเต๊ะ ม.4 ต.เกาะลิบง บริเวณจุดที่น้องเรียมเคยอาศัยอยู่และได้ตายก่อนหน้านี้ ซึ่งวันนี้พบเป็นพะยูน ขนาดความยาว 2 เมตรเศษ หนักประมาณ 200 กก. ก่อนจะขับเรือโดยสารพานักท่องเที่ยวไปชมอย่างใกล้ชิด พร้อมเก็บภาพสุดน่ารัก โดยไม่มีทีท่าว่าจะตกใจแต่อย่างใด ท่ามกลางบรรยากาศตื่นตา ตื่นใจ ของเหล่านักท่องเที่ยวที่พบเห็น



นายมานพ หรือบังเวช คนขับเรือที่พบพะยูน กล่าวว่า วันนี้ขณะตนกำลังพานักท่องเที่ยวนั่งเรือออกไปเที่ยวทะเล พบดูพะยูนมีชื่อเจ้าหลังลายกำลังว่ายน้ำเล่นกับปลาช่อนทะเล โผล่ขึ้นมาหายใจบนผิวน้ำ นักท่องเที่ยวได้ชมอย่างใกล้ชิด และมักจะเจอมาว่ายน้ำเล่นในช่วงน้ำขึ้น เป็นภาพชินตาและมีความคุ้นชินกับผู้คนและจดจำเรือได้ เจ้าหลังลายเป็นชื่อที่ชาวบ้านช่วยกันตั้งชื่อให้เพราะมีรอยแผลตรงบริเวณหลัง มักจะว่ายน้ำมากินหญ้าเป็นประจำ

นอกจากนี้ ยังมีลูกพะยูนอีกตัวชื่อว่าเจ้าแดง แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเพศผู้หรือเพศเมีย แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอบ่อยนัก เพราะปกติสองตัวนี้จะอยู่ห่างกันถ้าใกล้กันจะต่อสู้ไล่กัดกัน สำหรับผู้ที่จะมาดูสามารถนั่งเรือมาจากท่าเรือหาดยาว นั่งเรือประมาณ 40 นาที ลงที่หน้าเขาบาตูปูเต๊ะ ซึ่งที่ผ่านมาลูกค้าจะมาแวะเวียนมาดูพะยูนกันเยอะ มีความคุ้นชินอยู่กับชาวเกาะลิบงมานานกว่า 4 ปีแล้ว มีความใกล้ชิดกับชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวใครที่สนใจสามารถดูได้.


https://www.thairath.co.th/news/local/south/2052955


*********************************************************************************************************************************************************


รู้จักเรือเฟอร์รี่ ดิ บลู ดอลฟิน แล่นจากสัตหีบถึงสงขลา ใช้เวลาแค่ 20 ชม.

เรือเฟอร์รี่ ดิ บลู ดอลฟิน เตรียมพร้อมใช้งาน แล่นจากสัตหีบถึงสงขลา ใช้เวลาแค่ 18-20 ชม. เชื่อมโยงภาคตะวันออก และภาคใต้ รองรับการขนส่งในอนาคต



นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงความคืบหน้าการเปิดให้บริการขนส่งทางน้ำเส้นทางระหว่างจังหวัดชลบุรี ท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดสงขลา ว่า ระยะแรกจะเดินเรือในเส้นทางระหว่างชลบุรี - สงขลา โดยออกเดินทางจากท่าเรือพาณิชย์สัตหีบไปยังสงขลา และจะขยายเส้นทางเชื่อมโยงเข้ากับประจวบคีรีขันธ์ในระยะต่อไป

นอกจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบท และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจรบูรณาการการทำงานร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนการให้บริการขนส่งทางน้ำในเส้นทางดังกล่าว โดยให้ประมาณการปริมาณการขนส่ง และการเดินทางในเส้นทางชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สงขลา เพื่อวางแผนการขนส่งเชื่อมโยงท่าเรือ และการบริหารจัดการพื้นที่หลังท่าให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีความคล่องตัว ไม่ให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัด และบรรลุผลสำเร็จเป็นรูปธรรมตามที่นโยบายกำหนด

สำหรับ เรือเฟอร์รี่ Blue Dolphin เป็นของบริษัท ซี ฮอร์ส เฟอร์รี่ จำกัด มีจุดน่าสนใจดังนี้

- ขนาด 7,003 ตันกรอสส์
- ความยาว 136.6 เมตร
- ความเร็ว 17 น็อต หรือ 31.48 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- รองรับรถบรรทุกได้ประมาณ 80 คัน
- รถยนต์ส่วนตัว 20 คัน
- ผู้โดยสารประมาณ 586 คน
- จะใช้เวลาในการเดินทางจากท่าเรือจุกเสม็ด หรือท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ จังหวัดชลบุรี ถึง สงขลา ระยะเวลาเพียง 18-20 ชั่วโมง ซึ่งเร็วกว่าทางรถยนต์ที่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 23-24 ชั่วโมง

ปัจจุบัน เรือเฟอร์รี่ Blue Dolphin ได้รับการตรวจรับรองความปลอดภัยจากกรมเจ้าท่าแล้ว เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 64 และคนประจำเรือได้รับการฝึกอบรมตามข้อกำหนด โดยเรือ ดิ บลู ดอลฟิน ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มจาก BOI แล้ว และจะเคลื่อนย้ายเรือเพื่อไปทดลองการเดินเรือที่ท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ คาดว่าจะทดสอบแล้วเสร็จในเดือน มี.ค. 64 และจะมีกิจกรรม Meet the Press ในช่วงเดือน เม.ย.64.


https://www.thairath.co.th/news/business/2052635

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม