ดูแบบคำตอบเดียว
  #8  
เก่า 15-03-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,345
Default

ขอบคุณข่าวจาก BBCThai


นักวิทยาศาสตร์พบซากฟอสซิลสัตว์เลื้อยคลานในทะเล "หน้าตาชวนขนลุก" จากยุคไดโนเสาร์ ............... โดย โซเฟีย เฟอร์เรรา ซานโตส


นักวิทยาศาสตร์เผยภาพร่างที่สร้างขึ้นมาใหม่ของสัตว์เลื้อยคลานดึกดำบรรพ์ที่มีอายุในราว 66 ล้านปีก่อน
ที่มาของภาพ,ANDREY ATUCHIN/UNIVERSITY OF BATH/PA WIRE


นักวิทยาศาสตร์ในสหราชอาณาจักรเปิดเผยว่า ได้ค้นพบซากฟอสซิลของสัตว์เลื้อยคลานในทะเลที่มีรูปร่างหน้าตา "ชวนให้ฝันร้าย" ที่เคยมีชีวิตเป็นผู้ล่าในมหาสมุทร เมื่อราว 66 ล้านปีก่อน

สิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์นี้คือ "คินจาเรีย อาคูตา" (Khinjaria acuta) มีขนาดลำตัวยาวราว 8 เมตร ขนาดเท่ากันกับลำตัวของวาฬเพชฌฆาต และมีฟัน "คล้ายดาบหรือมีด" โดยนักวิจัยระบุว่า สัตว์ชนิดนี้อาจจะมีชีวิตอยู่ร่วมกับไดโนเสาร์ อย่าง ไทแรนโนซอรัส เร็กซ์ และไทรเซอราทอปส์

การศึกษาฟอสซิลสัตว์ดึกดำบรรพ์ชนิดนี้ เกิดขึ้นจากการวิเคราะห์กะโหลกศีรษะและซากโครงกระดูกที่ถูกค้นพบที่เหมืองแห่งหนึ่งในประเทศโมร็อกโก

ดร.นิค ลองริช จากมหาวิทยาลัยบาธ ในสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นผู้นำการศึกษาครั้งนี้ ได้เขียนบรรยายลักษณะของสัตว์โบราณที่ขุดค้นพบนี้ว่า สิ่งมีชีวิตที่ "แปลกประหลาด" ที่มี "หน้าตาของปิศาจและมีฟันคล้ายใบมีด" ซึ่งทำให้นักวิจัยหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ด้วยฟันของมันและขากรรไกรที่แข็งแรงจะทำให้สัตว์ตัวนี้กลายเป็น "ฝันร้าย" สำหรับผู้ที่พบเห็น และพลังการกัดของมันยิ่งน่าสะพรึงกลัว

จากสิ่งที่ค้นพบจึงทำให้ทีมงานวิจัยต้องช่วยกันคิดว่า ชื่อใดที่เหมาะสมสำหรับสัตว์ชนิดนี้


"คำว่า คินจาร์ (khinjar) มาจากภาษาอาหรับ มีความหมายว่า กริช หรือ ดาบ ที่ใช้เพื่อการต่อสู้ ส่วนคำว่า อาคูตา (acuta) มาจากภาษาละติน มีความหมายว่า คม ดังนั้น ความหมายโดยรวมจึงหมายความว่า กริชอันคน หรือ มีดอันคม" ดร.ลองริช อธิบาย

"คินจาเรีย อาคูตา" จัดเป็นสัตว์ในตระกูลสัตว์เลื้อยคลานในทะเลขนาดยักษ์ ที่ชื่อว่า "โมซาซอรัส" (mosasaurs) ญาติห่าง ๆ ของมังกรโคโมโดและงูอนาคอนดาในปัจจุบัน

นักวิจัยเชื่อว่า สัตว์เลื้อยคลานดึกดำบรรพ์พันธุ์นี้เป็นเพียงหนึ่งในกลุ่มสัตว์ผู้ล่าชั้นบนสุดของห่วงโซ่อาหาร ที่มีถิ่นอาศัยอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกนอกชายฝั่งประเทศโมร็อกโก

"พวกมันคือหนึ่งในสัตว์ทะเลประจำภูมิภาคที่มีความหลากหลายที่สุดชนิดหนึ่ง ที่สามารถพบเห็นได้ในที่ใดก็ได้ และในช่วงเวลาต่าง ๆ ในประวัติศาสตร์ และยังคงมีชีวิตอยู่รอดก่อนที่บรรดาสัตว์เลื้อยคลานในทะเลและไดโนเสาร์จะสูญพันธุ์" ดร.ลองริช กล่าว

ทั้งสัตว์จำพวกโมซาซอรัสและไดโนเสาร์สูญพันธุ์เมื่อเข้าสู่ช่วงการสิ้นสุดของปลายยุคครีเทเชียส หรือราว 66 ล้านปีก่อน ซึ่งนำไปสู่การเปิดโอกาสให้ท้องทะเลได้กลายเป็นที่อยู่อาศัยของบรรดาวาฬ แมวน้ำ และปลานานาชนิด เช่น ปลากระโทงดาบและปลาทูน่า

นอกจากนี้ จากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวยังทำให้ห่วงโซ่อาหารในของสัตว์ทะเลในยุคใหม่ มีสัตว์ผู้ล่าขั้นสูงสุดจำนวนน้อยกว่า

"ดูเหมือนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในโครงสร้างระบบนิเวศเมื่อ 66 ล้านปีก่อน" ดร.ลองริช ระบุ

"ความหลากหลายอย่างไม่น่าเชื่อของกลุ่มสัตว์ผู้ล่าชั้นสูงสุดในห่วงโซ่อาหารในช่วยปลายยุคครีเทเชียส ถือว่าไม่ปกตินัก และพวกเราเองก็ไม่เห็นสภาพการณ์ดังกล่าวในระบบนิเวศทางทะเลในยุคใหม่ด้วย"

อย่างไรก็ตาม ดร.ลองริช กล่าวเพิ่มเติมว่า มีอะไรเกิดขึ้นกับสัตว์เลื้อยคลานในทะเลเหล่านั้นจนเป็นสาเหตุทำให้ระบบนิเวศเปลี่ยนแปลงไป หรือ มีอะไรเกิดขึ้นกับบรรดาสัตว์ที่เป็นเหยื่อ หรือ อาจจะเป็นที่การเปลี่ยนแปลงด้านสภาพแวดล้อม ซึ่งทีมวิจัยของเขาก็ยังไม่ทราบเช่นกัน

"แต่สิ่งนี้ ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่อันตรายอย่างยิ่งสำหรับ ปลา เต่าทะเล หรือ แม้แต่สัตว์เลื้อยคลานในทะเล" เขากล่าวทิ้งทาย


https://www.bbc.com/thai/articles/ckrx13pe8kpo

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม