ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 15-06-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,116
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


คลายล็อกทะเล 'ดร.ธรณ์' แนะกติกาดูวาฬ สัตว์หายาก ดูแบบไหนถึง New Normal ทะเลไทย



ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญทางทะเล ให้ข้อแนะนำถึงการปรับตัวสู่วิถีชีวิตใหม่ หรือ New normal ทะเลไทย โดยเฉพาะเมื่อเปิดอุทยานแห่งชาติ ในวันที่ 1 ก.ค.2563 เป็นต้นไป จะมีนักท่องเที่ยวออกมาชมท้องทะเลไทยมากขึ้น

เพจเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat โพสต์ว่า หลังจากคลายล็อก เพื่อนธรณ์เริ่มออกทะเล มีรายงานเจอวาฬบรูด้า/ฉลามวาฬ/โลมารัวๆ จึงอยากฝากไว้สักนิดเพื่อให้ New Normal ทะเลไทยเกิดขึ้นจริง โดยเฉพาะเมื่อเจอวาฬ ฉลามวาฬ หรือสัตว์หายาก ควรปฏิบัติตามกติกา ดังนี้

-ลดความเร็วเรือ 4 น็อต-เมื่อเข้าใกล้ในระยะ 100 เมตร หยุดเดินเรือ ลอยลำ เพื่อป้องกันอันตราย/รบกวนพฤติกรรม

-หากสัตว์เข้ามาหา เธอจะมาเอง ไม่ต้องห่วง

-สามลำคือตัวเลขในการเข้าชมวาฬ อย่ามุง อย่าเข้าไปเยอะ รอสักนิดให้เรือลำอื่นออกไปก่อนนะครับ

-อย่าให้อาหาร (โดยเฉพาะเต่า/โลมา)

-สังเกตุพฤติกรรมสัตว์ตลอดเวลา หากสัตว์แสดงออกว่าโดนรบกวน รีบหยุดทำทุกอย่าง

-หากเจอสัตว์บาดเจ็บ/ติดขยะ รีบแจ้งกรมทะเล (เบอร์โทรอยู่ในคอมเมนต์)

-ดูแลการเที่ยวตามมาตรการโควิด เก็บขยะให้เรียบร้อยและนำกลับมาแยกและจัดการ

-ลดขยะพลาสติกใช้แล้วทิ้งให้มากที่สุด

-ไม่ควรลงน้ำไปว่ายกับวาฬ/โลมา ในกรณีฉลามวาฬ อาจลงไปลอยคอดู แต่อย่าจับแตะเกาะ อย่าว่ายไล่ไปเป็นพรวน

-กรมทะเลไม่อนุญาตให้นำพาหนะอื่นๆ ที่ไม่เหมาะสมในการเข้าชมสัตว์หายากโดยเด็ดขาด

-การกระทำที่ไม่เหมาะสม จะส่งผลต่อสัตว์หายาก และจะส่งผลต่อการประกอบกิจกรรมในลักษณะนี้ต่อไปในอนาคต

ว่าง่ายๆ คือทำไม่ดี ซวยยกแก๊ง ต้องช่วยกันดู ช่วยกันเตือนนะฮะ ตอนนี้กระทรวงทรัพยากรฯ เฮี้ยบสุดๆช่วยกันสร้างการเที่ยวยุคใหม่ให้ทะเลยิ้มคนยิ้มนะครับ




https://mgronline.com/greeninnovatio.../9630000061576


*********************************************************************************************************************************************************


การจัดการทรัพยากรชายฝั่ง "อ่าวบ้านดอน"

โดย รศ.ดร.กรกฎ ทองขะโชค คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ



จากที่ผู้ประกอบการหรือผู้ที่อ้างสิทธิในการครอบครองพื้นที่สาธารณะโดยมิชอบด้วยกฎหมายบริเวณอ่าวบ้านดอน มีการปลูกสร้างรุกล้ำลำน้ำกับผู้ที่ครอบครองพื้นที่สาธารณะโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นคอกหอย ขนำ บริเวณอ่าวบ้านดอนมีพื้นที่ครอบคลุมตั้งแต่แหลมซุย อำเภอไชยา ถึงแหลมกุกา อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีลัษณะเป็นเวิ้งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคใต้ มีพื้นที่รอบอ่าวรวมประมาณ 477 ตารางกิโลเมตร ลักษณะแนวชายฝั่งมีความยาวประมาณ 120 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 6 อำเภอ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้แก่ อำเภอไชยา อำเภอท่าฉาง อำเภอพุนพิน อำเภอเมือง อำเภอกาญจนดิษฐ์ และอำเภอดอนสัก

อ่าวบ้านดอนมีลักษณะเป็นท้องกระทะรับน้ำจากคลองน้อยใหญ่ เป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์จากตะกอนปากแม้น้ำต่างๆ ที่ไหลลงสู่อ่าวบ้านดอน โดยเฉพาะแม่น้ำตาปี จึงเป็นศูนย์รวมของความสมบูรณ์และแหล่งรวมความหลากหลายในระบบนิเวศท้องทะเล อีกทั้งเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของสัตว์น้ำ และเป็นที่อนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อนนานาชนิด ทำให้พื้นที่อ่าวบ้านดอนมีการใช้ประโยชน์หลายประเภท ไม่ว่าการประมง การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทั้งทางตรงและทางอ้อม ลักษณะชายฝั่งทะเลตลอดทั่งอ่าวเป็นบริเวณน้ำตื้น

พื้นที่อ่าวบ้านดอนถูกใช้เป็นแปลงเลี้ยงหอยนางรม หอยแครง และหอยแมลงภู่ พื้นที่สาธารณะที่ชาวบ้านสามารถเข้าไปใช้ประโยชน์อาจจะด้วยการจับสัตว์น้ำหรือทำประมงพื้นบ้านเพื่อเลี้ยงชีพ สิทธิในการเข้าถึงทรัพยากรทะเลสาธารณะได้แปรเปลี่ยนเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล ที่ให้บุคคลสามารถถือกรรมสิทธิ์พื้นที่สาธารณะได้ ในช่วงต้นมีการจัดสรรพื้นที่ในทะเลให้บางส่วน และจากนโยบายของรัฐบาลดังกล่าว ทำให้มีกลุ่มนายทุนกว้านซื้อ หรือซื้อทะเลจากชาวบ้านเพื่อนำมาทำเป็นคอกหอยแครงเลี้ยงเป็นฟาร์มขนาดใหญ่

การจัดการทรัพยากรธรรมชาติโดยภาครัฐก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ได้แก่ ปัญหาการบุกรุกเพื่อทำคอกหอยแครงของนายทุน การรุกล้ำเข้ามาในเขตพื้นที่ทะเลสาธารณะ ส่งผลให้พื้นที่หากินของชาวประมงพื้นที่บ้านมีจำกัด หากินได้เพียงพื้นที่ร่องเดินเรือ และไม่สามารถรุกล้ำเข้าเขตคอกหอยนายทุนได้ การเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อมโดยการถูกทำลาย การตักตวงใช้ประโยชน์จากทรัพยากรมากเกินไป จนทรัพยากรลดลงอย่างรวดเร็ว จนนำไปสู่ปัญหาการแย่งชิงทรัพยากร การบุกรุกผู้มีอิทธิพลเข้ามายึดครองพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงขัดขวางการรื้นถอนของเจ้าหน้าที่ และเกิดความขัดแย้งระหว่างกลุ่มผู้มีผลประโยชน์ในพื้นที่อ่าวบ้านดอน

ทรัพยากรธรรมชาติมีความสำคัญและจำเป็นต่อมนุษย์เราเป็นอย่างมาก อีกทั้งอำนวยประโยชน์แก่มนุษย์ในด้านต่างๆ กล่าวคือ สามารถนำมาใช้ประกอบอาหาร หากขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติ ก็จะก่อให้เกิดปัญหากับมนุษย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้วยเหตุผลที่ว่าขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติที่ดี ย่อมแสดงให้เห็นถึงความลำบากยากไร้ของประชาชนในท้องถิ่น เนื่องจากประชาชนได้อาศัยทรัพยากรธรรมชาติต่างๆ ที่มีอยู่ในท้องถิ่น เพื่อประกอบอาชีพ

ทรัพยากรชายฝั่งที่มีอยู่ในชุมชนมีความสำคัญมาก สามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ในหลายด้าน การจัดการทรัพยากรทางธรรมชาติที่ดีต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาชน โดยการมีส่วนรวมในการตัดสินใจ (Decision Making) การดำเนินงาน (Implementation) การรักษาผลประโยชน์ (Benefit) และการประเมินผล (Evaluation) เป็นกระบวนการที่คนในชุมชนจะเข้ามาร่วมในการร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมตัดสินใจ ร่วมแก้ไขปัญหาเพื่อให้ทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่นเกิดความยั่งยืนและสืบทอดให้ลูกหลานต่อไป

อย่างไรก็ดี ภาครัฐในปัจจุบันมีพระราชบัญญัติการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล พ.ศ.2562 กฎหมายเกี่ยวกับผลประโยชน์ของชาติทางทะเล รวมถึงกิจกรรมทางทะเล ไม่ว่าจะเป็นการอนุรักษ์และการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางทะเลชายฝั่ง โดยให้จัดตั้ง ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เรียกโดยย่อว่า ?ศรชล.? ขึ้นในสำนักนายกรัฐมนตรี มีฐานะเป็นส่วนราชการรูปแบบเฉพาะ มีหน้าที่และอำนาจและรับผิดชอบเกี่ยวกับการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล นอกจากหน่วยงานรัฐอื่นๆ ที่มีอยู่เดิม ไม่ว่าจะเป็นกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมประมง แต่ก็ไม่สามารถจัดการความขัดแย้งในบริเวณอ่าวบ้านดอนได้

การบริหารจัดการทรัพยากรชายฝั่งทางทะเลในปัจจุบัน จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วนในการบูรณาการดำเนินงานร่วมกัน ซึ่งในทางปฏิบัติส่วนใหญ่ยังดำเนินการโดยภาครัฐ และยังมีส่วนร่วมน้อยจากภาคส่วนอื่นในสังคม ประกอบกับเครื่องมือและกลไกเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการทรัพยากรชายฝั่งยังไม่ได้ถูกนำมาใช้อย่างจริงจัง จึงเป็นผลให้ไม่สามารถสนับสนุนให้ภาคส่วนอื่นๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรชายฝั่งได้อย่งเต็มที่ และไม่สามารถสนับสนุนให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของสังคมให้มีวิถีชีวิตที่เป็นมิตรต่อทรัพยากรร่วม (Common Pool resources) ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์จากทรัพยากรมาเป็นของตนเองและพวกพ้อง

การขับเคลื่อนการบริหารจัดการทรัพยากรบนฐานอย่างยั่งยืน เป็นมิติสำคัญอย่างหนึ่งที่วางรูปแบบและมีการดำเนินงานที่ทำให้สมาชิกในชุมชนและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้ให้ความสำคัญต่อมิติการทำงานที่เอื้อต่อการมีส่วนร่วมในการทำงานได้เข้าร่วมแลกเปลี่ยน การรับรู้ ได้นำไปสู่การยกระดับของกิจกรรมที่มีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการอนุรักษ์ฟื้นฟู การแก้ไขปัญหา กติกา ข้อกำหนด สู่การเอื้อประโยชน์ การจัดการทรัพยากรทะเลและชายฝั่ง ที่เชื่อมโยงเข้ากับความมั่นคงด้านอาหารและความมั่นคงด้านอาชีพของชุมชนชายฝั่ง

รวมทั้งสร้างความตระหนัก การป้องกัน และการตั้งรับปรับตัวจากภัยธรรมชาติ การปรับเปลี่ยนกฎหมายและนโยบายที่เกี่ยวข้องต่อการจัดการทรัพยากรทะเลและชายฝั่งที่สะท้อนถึงความเป็นประชาธิปไตยในลักษณะที่เป็นข้อตกลงร่วมของชุมชนในการจัดการทรัพยากร ซึ่งมีลักษณะเฉพาะไปตามทรัพยากรแต่ละประเภท สิทธิชุมชนยังก่อให้เกิดการมีส่วนร่วมของชุมชน การตรวจสอบถ่วงดุล การเปลี่ยนแปลงและการเจรจาต่อรองอย่างต่อเนื่อง ระหว่างสมาชิกชุมชน และระหว่างชุมชนกับอำนาจภายนอก


https://mgronline.com/south/detail/9630000061434

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม