ดูแบบคำตอบเดียว
  #34  
เก่า 11-06-2010
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default


ถอดรหัสหายนะโลก วัน "ดาวเรียงตัว" 12มิ.ย.53



จากกรณี เกิดกระแสข่าวลือสร้างความสับสน-ตื่นตระหนกในโลกอินเตอร์เน็ตผ่านอีเมล์ลูกโซ่ ว่า

ในวันที่ 12 มิถุนายน 2553 นี้ โลกมนุษย์ รวมถึงประเทศไทย อาจเกิดหายนะ เพราะผลจากปรากฏการณ์ดาวเคราะห์เรียงตัว เป็นเหตุให้เกิดแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิครั้งใหญ่ตามมาทำลายล้างโลก

ล่าสุด นักวิชาการจากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จัดเวทีสัมมนาเรื่อง "ตอบทุกคำถามสังคมไทยที่กังวลต่อการล่มสลายของโลก" ที่คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ เพื่อให้ข้อมูลตามหลักวิชาการแก่ประชาชน

ดร.สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า

ข้อมูลจากอีเมล์ลูกโซ่ดังกล่าวอ้างว่า ในวันที่ 12 มิถุนายน 2553 ประมาณ 11.30 UTC จะมีแผ่นดินไหว 7-8.5 ริกเตอร์ และอาจจะมีสึนามิตามมาในพื้นที่โซนแรกคือ เอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ อาจจะเป็นหมู่เกาะสุมาตรา โซนที่สองในยุโรป แถบประเทศ อิตาลี สเปน และกรีก และโซนที่สาม ประเทศในอ่าวเม็กซิโก หรือทางฝั่งตะวันตกของประเทศอเมริกา โดยเป็นข้อมูลจากเว็บไซต์และอ้างว่าทำไมปฏิกิริยาบนดวงอาทิตย์จึงเกี่ยวกับแผ่นดินไหว คือ ถ้าเกิดปฏิกิริยาบนดวงอาทิตย์แล้ว จะทำให้โลกเกิดแผ่นดินไหวตามมาในเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง พร้อมกับนำแบบจำลองของตำแหน่งดาวเคราะห์ในช่วงที่มีเหตุการณ์สึนามิครั้งใหญ่ของโลก 10 ครั้งมาประกอบ

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่า ในการเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ทั้ง 10 ครั้งนั้น ดาวเคราะห์ไม่ได้เรียงตัวในแนวเดียวกันแต่อย่างใด


ดร.สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์

ดังนั้น คำกล่าวที่ว่าดาวเคราะห์เรียงตัวกันแล้วเกิดแผ่นดินไหว ดูจากการเรียงตัวกันของดาวเคราะห์ในวันที่เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ๆของโลก 10 ครั้ง ไม่มีครั้งใดที่ดาวเคราะห์เรียงตัวกัน ที่สำคัญขณะนี้เป็นการพูดถึงวันที่ 12 มิถุนายน 2553 มองจากแบบจำลองคือดาวเคราะห์อยู่ในแนวดิ่งลง แต่โลกอยู่ในแนวตั้งฉาก ฉะนั้น โลกไม่ได้อยู่ในแนวเดียวกันกับดาวเคราะห์ในวันที่ 12 มิถุนายนอย่างแน่นอน ซึ่งในวันที่อ้างอื่นๆก็เช่นเดียวกัน ไม่มีวันใดที่โลกอยู่ในตำแหน่งเรียงตัวกันกับดาวเคราะห์และขนาดของแรงไม่สามารถทำให้เกิดอะไรได้

การกล่าวอ้างที่พูดถึงในเว็บไซต์และในจดหมายเรื่องหายนะดาวเรียงตัวเป็นคำอ้างที่ไม่มีหลักฐานและไม่มีการชี้แจงหรืออ้างบทความงานวิจัย ไม่ค่อยจะตรงกับงานวิจัยที่เขียนอยู่ และไม่มีผู้เขียน ไม่ระบุชื่อ เป็นลักษณะที่ไม่รู้ว่าสิ่งที่เขียนในจดหมายลูกโซ่คืออะไรกันแน่ เป็นการคาดเดาไว้ก่อน

ดร.สธน อธิบายให้ความกระจ่างต่อไปว่า ข้อมูลในวันโลกาวินาศอีกเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ คือเรื่องของการกลับขั้วสนามแม่เหล็กโลก

หลายคนคิดว่าหากเกิดการกลับขั้วสนามแม่เหล็กโลกจะมีการพลิกสลับขั้ว

แต่ที่จริงแล้ว โลกของเรามีสนามแม่เหล็กอยู่ ทิศทางของสนามแม่เหล็กเหมือนแท่งแม่เหล็ก แต่แท่งแม่เหล็กของโลกกลับกับแท่งแม่เหล็กที่เราอยู่ปกติ นั่นคือแท่งแม่เหล็กโลกขั้วใต้อยู่ที่ทิศเหนือ และแท่งแม่เหล็กโลกขั้วเหนืออยู่ที่ทิศใต้ ซึ่งสนามแม่เหล็กนี้เกิดจากการไหลของกระแสโลหะหลอมเหลวที่อยู่ในแกนกลางโลก เป็นเหมือนไดนาโมที่เราเอาขดลวดมาพันแล้วผ่านกระแสไฟฟ้าและเกิดสนามแม่เหล็ก ซึ่งเป็นแนวคิดที่ทราบกันมานานเนื่องจากการไหลของกระแสนี้ไม่สม่ำเสมอ

ดังนั้น กระแสแม่เหล็กโลกจึงมีการเคลื่อนที่เปลี่ยนตำแหน่งอยู่เรื่อยๆ ตามการไหลของมัน เช่น มีการพบว่าในปี ค.ศ. 1904 อยู่บริเวณหนึ่ง และในปี 1996 จะเคลื่อนที่ไปอยู่อีกบริเวณหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ

หากถามว่าสนามแม่เหล็กโลกกลับขั้วได้หรือเปล่า คำตอบคือ "กลับได้"

จากการศึกษา "หิน" ที่ละลายแล้วแข็งตัวพบว่า โลกของเรากลับขั้วมาแล้วหลายครั้ง เวลาที่กลับและหินละลายออกมาใต้โลกยังที่ร้อนอยู่โลหะทั้งหลายที่อยู่ในหิน ยังหมุนไปมาได้ พอมาเจอสนามแม่เหล็ก มันจะปรับตัวเข้าตามสนามแม่เหล็ก เหมือนกับการที่เราเอาไขควงไปเผาให้ร้อน แล้วไปวางใกล้แม่เหล็ก พอไขควงนั้นเย็นลง จะเป็นแม่เหล็กไปด้วย กระบวนการที่ทำให้เกิดความร้อนสามารถทำให้เกิดแม่เหล็กได้

เพราะฉะนั้น หินจะมีสภาพความเป็นแม่เหล็กตามสภาพแม่เหล็กโลก ซึ่งพบว่ามีการเปลี่ยนมาแล้วหลายครั้ง แต่ละครั้งเว้นช่วงประมาณ 1 ล้านปี

ปัจจุบัน โลกของเราจากการกลับครั้งสุดท้าย ผ่านมาแล้วประ มาณ 7 แสนปี และในระหว่าง 1 ล้านปี อาจจะมีการกลับขั้วเป็นช่วงสั้นๆ 4-5 พันปี มีบ้าง ซึ่งช่วงเวลาการกลับขั้วไม่แน่นอน

ดังนั้น การกลับขั้วของสนามแม่เหล็กเกิดขึ้นได้ แต่ไม่ใช่โลกจะพลิกกลับ แต่สนามแม่เหล็กโลกจะอ่อนกำลังลง และมีความยุ่งเหยิงมากขึ้นมีผลกับสัตว์ที่ต้องอาศัยสนามแม่เหล็กในการเดินทาง นกพิราบ ปลาฉลามวาฬ การใช้เข็มทิศ ดาวเทียม GPS หรือการใช้อุปกรณ์ที่ต้องอาศัยคลื่นวิทยุ โทรศัพท์มือถือ แต่อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ ก่อนจะกลับไปสู่สภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบันอีกครั้ง

ข้อมูลที่ปรากฏจากอีเมล์ลูกโซ่ที่บอกว่า ขั้วโลกจะพลิกกลับข้างภาย ใน 49 วันนั้น เป็นเวลาในช่วงการพลิกใช้เวลาเป็นพันปี ระหว่างการพลิกการเปลี่ยนแปลงใช้เวลา ณ ปัจจุบัน 7 แสนปี แต่เรารู้ว่ามีการเปลี่ยนแน่ๆ เพราะมีการวัดจากสนามแม่เหล็กโลกและรู้ว่ามีการอ่อนตัวลงของสนามแม่เหล็กโลก แต่ในปัจจุบันสนามแม่เหล็กโลกขึ้นๆลงๆ 7 แสนปีที่ผ่านมาเคยอ่อนกว่านี้ด้วยซ้ำ ฉะนั้น ยังไม่ใช่ประเด็นที่จะก่อให้เกิดปัญหามากมาย

การพลิกก็ไม่ใช่โลกพลิกกลับข้าง และการเปลี่ยนแปลงนั้นช้า เป็นพันหรือแสนปีขึ้นไป

ข้อมูลข่าวสารที่ประชาชนได้รับไม่ว่าจะเป็นในเรื่องอะไรควรมีการกลั่นกรอง ค้นคว้า ถามจากผู้รู้ หรืออาจใช้ช่องทางของคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ไม่ว่าจะเป็นการฝากข้อสงสัยต่างๆ พร้อมช่องทางในการติดต่อกลับที่สายด่วนคณะวิทยาศาสตร์ 0-2218-5555 หรืออีเมล์ scichula@gmail.com หรือ scicupr@gmail.com เพื่อให้นักวิชาการได้เข้าไปมีส่วนให้ข้อมูลที่ถูกต้อง อ้างอิงหลักฐานและหลักวิชาการ เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชนได้อีกทาง



จาก : ข่าวสด วันที่ 11 มิถุนายน 2553
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม