ดูแบบคำตอบเดียว
  #62  
เก่า 06-04-2011
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,216
Default


ธรรมชาติดุ-คนเดือด 'โลกาวินาศ' เรื่องลือที่ใกล้จะจริง?



เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา มีปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์คือ “ดาวเสาร์” โคจรเข้าใกล้ “โลก” มากที่สุดในรอบปี 2554 นี้ โดยอยู่ห่างจากโลกประมาณ 1,288 ล้านกิโลเมตร และจะมีความสว่างมากขึ้น เพราะโคจรอยู่ในตำแหน่งตรงข้ามกับ “ดวงอาทิตย์” ซึ่งนี่ก็เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้เป็นปกติ แต่ถ้าดูกันในทางโหราศาสตร์ดวงดาว มีจุดที่ถือว่าไม่ปกติ โดย อ.เก่งกาจ จงใจพระ บอกว่า... ดาวเสาร์ในทางโหราศาสตร์ถือเป็นดาวแห่ง ความทุกข์ บาปเคราะห์ ให้โทษ และเป็นดาวที่เกี่ยวกับดิน เมื่อเข้าใกล้โลกก็ต้องระวังภัยพิบัติทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น แผ่นดินไหว ดินถล่ม ยิ่งดาวเสาร์ใกล้โลกมาก ภัยลักษณะนี้ก็ยิ่งแรง ยิ่งต้องระวัง

สองศาสตร์ที่ต่างก็โยงกับดวงดาวยังมีมุมที่ต่างกันได้...ฉันใด ภัยต่างๆบนโลกที่สามารถจะเกิดขึ้นได้เป็นปกติก็มีคนคิดว่าเป็นเรื่องไม่ปกติ ได้...ฉันนั้น ดังเช่นภัยที่เกิดขึ้นบนโลกในระยะนี้...ที่ทำให้ ’เรื่องลือ...โลกาวินาศ“ หวนกลับมาอยู่ในกระแสวิพากษ์อีก ซึ่งในเมืองไทยก็มีข่าวว่ามีกลุ่มคนที่เชื่อว่าจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้

ในต่างประเทศถึงขั้นมีการระบุเป็นเชิง “ทฤษฎี”

’ทฤษฎีสิ้นโลก“ ในโลกออนไลน์ระเบ็งเซ็งแซ่??

ทั้งนี้ กับทฤษฎีวันสิ้นโลก (Doomsday Theories) นั้น มีการระบุถึงปัจจัยที่อาจเป็นต้นเหตุ 10 ปัจจัย ซึ่งเมื่อโลกเกิดภัยธรรมชาติบ่อย และดูจะทวีความรุนแรง รวมถึงมีเรื่องร้าย ๆ ที่เกิดโดยน้ำมือมนุษย์เอง มีเรื่องการสู้รบในประเทศโลกอาหรับ ก็ยิ่งทำให้ทฤษฎีดังกล่าวนี้ถูกส่งต่อกันมากในสังคมออนไลน์-ไซเบอร์

ปัจจัยที่ว่านี้ โดยสังเขปคือ... ’ผึ้งสูญพันธุ์“ เชื่อว่าอีกไม่นานผึ้งจะสูญพันธุ์ไปจากโลก เพราะสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ ยาฆ่าแมลง การตัดแต่งพันธุกรรมพืช คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพืช ทำให้อาหารขาดแคลน, ’ขาดแคลนน้ำมัน“ เชื่อว่าโลกกำลังใกล้เข้าสู่ยุคขาดแคลนน้ำมันอย่างสิ้นเชิง เชื่อว่าหากยังไม่มีการพัฒนาเชื้อเพลิงอื่นแทนน้ำมัน ไม่เกินปี ค.ศ. 2020 โลกจะไม่มีน้ำมันเหลืออยู่เลย จนเกิดกลียุค

’ก่อการร้ายทำลายโลก“ เป็นแนวคิดที่แพร่หลายมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่หลังเกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายครั้งใหญ่ในสหรัฐอเมริกา เมื่อ 11 ก.ย. 2544, ’สงครามโลกครั้งที่ 3 - สงครามนิวเคลียร์“ เชื่อว่าหากเกิดขึ้นจะทำลายสภาพอากาศ ทรัพยากรธรรมชาติ จนเกิดการแย่งชิงทรัพยากรครั้งใหญ่ และประชากรโลกจะเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก, ’ภูเขาไฟระเบิดครั้งใหญ่“ เชื่อว่าทุก 5–6 หมื่นปี ลาวาใต้พิภพจะปะทุรุนแรงจนภูเขาไฟต่างๆเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ อุณหภูมิโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจนสิ่งมีชีวิตปรับตัวไม่ทัน

’สนามแม่เหล็กโลกเปลี่ยนขั้ว“ เชื่อว่าสนามแม่เหล็กโลกจะเปลี่ยนขั้วทุก 2.5 แสนปี เมื่อเกิดขึ้นจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศแบบกลับด้าน ทำให้ประเทศเขตร้อนหนาวยะเยือก มีหิมะตก เกิดพายุหมุน แผ่นดินไหวรุนแรง, ’ภัยพิบัติจากดวงอาทิตย์“ เชื่อว่าหากดวงอาทิตย์เกิดการปะทุครั้งใหญ่ ความร้อนจะแผ่มาแผดเผาโลกจนหายนะ ซึ่งปัจจัยนี้โยงกับความเชื่อเรื่อง ค.ศ. 2012 เรื่องปีสิ้นโลกด้วย

’ดาวนิบิรุชนโลก“ เชื่อว่ามีดาวลึกลับในตำนาน มีขนาดใหญ่กว่าโลก และในปี ค.ศ. 2012 จะมีวงโคจรทับกับโลก จะพุ่งเข้าชนกับโลก ซึ่งนี่ก็ถูกเชื่อมโยงเข้ากับคำทำนายวันสิ้นโลก 21-12-2012 ด้วย, ’มนุษย์ต่างดาวบุกโลก“ เชื่อว่าอีกไม่เกิน 30 ปีจะมีมนุษย์ต่างดาวมาบุกโลก ซึ่งจะทำอะไรกับโลกและชาวโลกบ้างยังไม่รู้

และอีกปัจจัยคือ ’วิกฤติโลกร้อน“ เชื่อว่าภายในปี ค.ศ. 2100 สภาพอากาศจะยิ่งเปลี่ยนแปลงรุนแรงมากขึ้นเรื่อ ๆ โลกจะร้อนจนทำลายสมดุลธรรมชาติ คาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มสูงและแพร่กระจายไปทั่ว เกิดภัยพิบัติต่างๆ ทำลายแหล่งที่อยู่อาศัย ทรัพยากรธรรมชาติ ที่จำเป็นต่อมนุษย์ ชาวโลกต้องอพยพและแย่งชิงกัน

“ทฤษฎีดังกล่าว หลายเรื่องมีการหยิบยก กล่าวอ้าง เชื่อมโยงกับเรื่องวาระสุดท้ายของโลกและมนุษย์ หรือคำทำนายวันสิ้นโลกอยู่เสมอ” ...นักวิทยาศาสตร์อิสระ รศ.ดร.ชัยวัฒน์ คุประตกุล ระบุ

พร้อมทั้งสะท้อนผ่าน “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” อีกว่า... ปัจจัยต่างๆที่ว่ามานั้น บางอย่างก็เป็นไปได้ยาก บางทฤษฎีก็เป็นเรื่องเกินจริง เช่น ดาวนิบิรุ ซึ่งในทางวิทยาศาสตร์แทบจะไม่มีความเป็นไปได้เลย เพราะปัจจุบันยังไม่มีการตรวจพบดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ที่ถูกร่ำลือ แต่บางอย่างก็มีความเป็นไปได้ ส่วนจะมากหรือน้อยนั้น ไม่อาจตอบได้แน่ชัด อย่างไรก็ตาม ที่รับรู้ได้ ที่จับต้องได้มากที่สุด คือ “วิกฤติโลกร้อน” ที่เริ่มมีตัวอย่างให้เห็น ซึ่งก็คงไม่ถึงกับทำให้โลกดับสูญ แต่ ’ทำให้เกิดผลกระทบกับมนุษย์บนโลกในวงกว้าง!!“

“ก็อย่าตระหนกตกใจกันเกินไป หลายอย่างเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงเพื่อเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ แต่ก็ต้องมีการเก็บข้อมูล ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมต่อเนื่อง เพื่อหาข้อมูลให้มากขึ้น และเรื่องนี้ก็ช่วยทำให้เกิดความตระหนัก เกิดความสนใจและใส่ใจโลก ความเปลี่ยนแปลงในอนาคตของโลกมากขึ้น” …รศ.ดร.ชัยวัฒน์ ทิ้งท้าย

ทั้งนี้ เรื่อง “โลกาวินาศ-สิ้นโลก...ยังยากจะชี้ชัด” แต่ที่ชี้ได้ชัดๆแล้วก็คือ ’มนุษย์ทำลายมนุษย์ด้วยกันเอง...ก็น่ากลัวมาก“ และ ’มนุษย์ทำลายโลก...โลกก็ทำลายมนุษย์“ นี่ก็ต้องสำนึกไว้ให้จงหนัก...

ในเมืองไทยเราก็มี ’บทเรียน“ ให้เห็นกันอยู่?!?!?.




จาก ................. เดลินิวส์ วันที่ 6 เมษายน 2554
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม