ขอบคุณข่าวจาก BBCThai
สหประชาชาติเรียกร้องนานาชาติผนึกกำลังกอบกู้สิ่งแวดล้อมโลก
เลขาธิการยูเอ็นเตือนว่า "ธรรมชาติมักจะโต้กลับด้วยสัพพะกำลังและความโกรธเกรี้ยว"
"โลกของเรากำลังพัง" นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวเตือนว่ามนุษยชาติกำลังทำสงคราม "ฆ่าตัวตาย"กับธรรมชาติ พร้อมเรียกร้องให้ประชาคมโลกร่วมมือกันเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์อย่างแท้จริง
เลขาธิการยูเอ็น กล่าวเรื่องนี้ในงานพิเศษด้านสิ่งแวดล้อมของบีบีซีว่า "ธรรมชาติมักจะโต้กลับด้วยสัพพะกำลังและความโกรธเกรี้ยว"
นอกจากนี้เขายังต้องการให้การต่อสู้กับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นหัวใจสำคัญในภารกิจโลกขององค์การสหประชาชาติในปีหน้านี้
ในสุนทรพจน์ที่มีชื่อว่า "สภาพการณ์โลก" นายกูเตอร์เรสประกาศว่า เป้าหมายหลักในปี 2021 ของยูเอ็นคือการสร้างความร่วมมือระดับโลกเพื่อทำให้การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์
การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิให้เป็นศูนย์หมายถึงการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้มากที่สุด และสร้างภาวะสมดุลระหว่างก๊าซเรือนกระจกที่จะปล่อยออกมาในอนาคตกับการลดปริมาณก๊าซดังกล่าวที่สะสมอยู่ในชั้นบรรยากาศโลก
นายกูเตอร์เรสกล่าวว่า ทุกประเทศ เมือง สถาบันการเงิน และบริษัทต่าง ๆ "ควรต้องดำเนินแผนการสู่การเปลี่ยนผ่านไปสู่การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิให้เป็นศูนย์ภายในปี 2050" ซึ่งในมุมมองของเขา องค์กรเหล่านี้จะต้องดำเนินการอย่างเด็ดเดี่ยวเพื่อมุ่งสู่วิถีทางที่ถูกต้อง นั่นคือลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของโลกลง 45% จากระดับในปี 2010 ให้ได้ภายในปี 2030
ส่วนข้อเรียกร้องอื่น ๆ ของเลขาธิการยูเอ็นได้แก่
- ตั้งราคาการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
- ยุติการให้เงินช่วยเหลือและการอุดหนุนด้านเชื้อเพลิงฟอสซิล
- เปลี่ยนภาระภาษี (tax burden) จากภาษีเงินได้ไปเป็นภาษีคาร์บอน และเปลี่ยนสถานะจากผู้เสียภาษีไปเป็นผู้ก่อมลพิษ
- ให้บรรจุเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ไว้ในนโยบายและการตัดสินใจด้านเศรษฐกิจและการคลังต่าง ๆ
- ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้คนทั่วโลกที่กำลังเผชิญกับผลกระทบรุนแรงจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ภัยธรรมชาติล้างโลก
นายกูเตอร์เรส ยอมรับว่าจำเป็นต้องดำเนินมาตรการสุดโต่งเพื่อแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในปัจจุบัน
"ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์แสดงชัดเจนว่า ถ้าโลกไม่ลดการผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิลลง 6% ทุกปี ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงปี 2030 อะไร ๆ ก็จะเลวร้ายลงอย่างมาก"
เลขาธิการยูเอ็น ชี้ว่า นโยบายด้านสภาพอากาศที่มีอยู่ในปัจจุบันยังไม่เพียงพอที่จะใช้รับมือปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้น พร้อมระบุว่า "หากไม่มีการดำเนินการที่เหมาะสม เราก็อาจมุ่งสู่หายนะ นั่นคือ การที่อุณหภูมิโลกเพิ่มสูงขึ้น 3-5 องศาเซลเซียสในศตวรรษนี้"
ซึ่งผลกระทบดังกล่าวเริ่มเกิดขึ้นแล้วในหลายพื้นที่ทั่วโลก
"ไฟป่าและน้ำท่วม พายุไซโคลนและเฮอร์ริเคนที่รุนแรงกลายเป็นเรื่องปกติใหม่ในปัจจุบัน" เขากล่าว
"ความหลากหลายทางชีวภาพกำลังล่มสลาย ทะเลทรายกำลังแผ่ขยายอาณาเขต มหาสมุทรกำลังเต็มไปด้วยขยะพลาสติก ในอีก 30 ปีข้างหน้าจะมีพลาสติกมากกว่าปลาในทะเล"
นายกูเตอร์เรส เรียกร้องให้ประชาคมโลกให้คำมั่นอันทะเยอทะยานที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในการประชุมภาคีแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ COP ที่เมืองกลาสโกว์ของสกอตแลนด์ในเดือน พ.ย. ปีหน้า
นอกจากนี้เขาจะกดดันให้มีการดำเนินการเรื่องวิกฤตสภาพภูมิอากาศโลก และเรียกร้องให้นานาชาติร่วมกันแก้วิกฤตการสูญพันธุ์ ซึ่งกำลังทำลายความหลากหลายทางชีวภาพ และดำเนินความพยายามเพื่อลดมลพิษ โดยใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
เลขาธิการยูเอ็น กล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่มนุษย์ต้องหยุดทำสงครามกับโลก "เราต้องประกาศสงบศึกอย่างถาวรและกลับมาปรองดองกับธรรมชาติอีกครั้ง"
https://www.bbc.com/thai/international-55160422
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
|