ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 16-09-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,241
Default

ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS


วิจัยพบ เต่าทะเล ถูกสังหารมากกว่า 1.1 ล้านตัวในรอบ 30 ปี



ข้อมูลล่าสุดจากงานวิจัยซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Global Change Biology ระบุว่า เต่าทะเล มากกว่า 1.1 ล้านตัวถูกสังหารอย่างผิดกฎหมายในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา โดยนักวิจัยเผยว่าความต้องการนำเต่าไปทำสินค้าฟุ่มเฟือยเป็นปัจจัยผลักดันที่ทำให้เกิดการซื้อขายเต่ากระ และเต่าตนุทั่วโลก ตอกย้ำความจำเป็นในการยกระดับมาตรการคุ้มครองเต่า

นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Arizona State ประมาณการว่า เต่าทะเล ราว 44,000 ตัวใน 65 ประเทศทั่วโลกถูกฆ่าและนำไปใช้ประโยชน์อย่างผิดกฎหมายทุกปีตลอดทศวรรษที่ผ่านมา แม้จะมีกฎหมายคุ้มครองก็ตาม

Jesse Senko อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัย Arizona State และผู้ร่วมเขียนงานวิจัยฉบับดังกล่าวระบุว่า แม้ว่าจำนวนเต่าที่ถูกสังหารตามรายงานจะสูงมาก แต่ยังไม่ได้สะท้อนจำนวนของเต่าที่ถูกฆ่าทั้งหมดอย่างแท้จริง เพราะการประเมินว่าเต่าถูกนำไปทำอะไรอย่างผิดกฎหมายนั้นมีขอบเขตที่กว้างมากและยากที่จะประเมินได้อย่างครบถ้วน

ดังนั้นในการวิจัยนี้ นักวิจัยจึงศึกษาวารสารทางวิชาการ รายงานในสื่อแบบสอบถาม และรายงานของสถาบันอนุรักษ์ต่างๆ จำนวนมากกว่า 209 ฉบับเพื่อระบุขอบข่ายการล่าเต่าอย่างผิดกฎหมาย โดยศึกษาการฆ่าเต่าเพื่อหวังเต่าทั้งตัว และเพียงเพื่ออวัยวะบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็น หัว หาง หรือกระดอง รวมถึงการลักลอบและพยายามค้าเต่าข้ามประเทศ

ทั้งนี้ เต่าทะเลมักถูกล่าเพื่อนำมาทำอาหาร ยาในการแพทย์แผนโบราณ และนำมาขายเป็นวัตถุโบราณ เครื่องประดับ หรือแม้กระทั่งอัญมณี องค์การสหประชาชาติระบุว่า การล่าและลักลอบค้าเต่าถือเป็นการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายที่มีมูลค่าทางตลาดสูงถึง 2.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี

Jesse Senko กล่าวว่า แม้ว่างานวิจัยจะพบหลักฐานยืนยันการลักลอบค้าเต่าจำนวนเกือบ 43,000 ตัวในช่วงระหว่างปี 2533 ถึง 2543 แต่ทั้งหมดนี้ก็น่าจะยังห่างไกลจากจำนวนที่แท้จริงอยู่มาก

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศมาดากัสการ์เป็นแหล่งยอดนิยมของการล่าเต่าทะเล โดยพบว่าส่วนใหญ่เวียดนามเป็นประเทศต้นทางของการลักลอบค้าเต่า มีจีนและญี่ปุ่นเป็นตลาดปลายทางที่นิยมผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากเต่า

Jesse Senko เห็นว่า ประเทศกำลังพัฒนาจะยังดำเนินกิจกรรมการลักลอบค้าเต่าต่อไปตราบใดที่ยังมีความต้องการนำเต่ามาทำสินค้าฟุ่มเฟือยจากประเทศที่มีรายได้มากกว่า

ประมาณ 95% ของเต่าที่ถูกล่ามาจากสองสายพันธุ์หลักๆ คือ เต่าตนุและเต่ากระ ทั้งนี้เป็นเพราะเต่าตนุมีเนื้อรสชาติอร่อย และเต่ากระมีกระดองที่สวยงาม โดยเต่าตนุได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ ขณะที่เต่ากระขึ้นทะเบียนเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ขั้นวิกฤต

อย่างไรก็ตาม การวิจัยก็ยังพบด้านดีอยู่บ้าง กล่าวคือ พบการนำเต่าไปใช้อย่างผิดกฎหมายลดลง 28% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา นักวิจัยเชื่อว่าตัวเลขที่ลดลงนี้เป็นผลมาจากการออกกฎหมายคุ้มครองเต่าที่เข้มงวดมากขึ้น

นอกจากนี้ งานวิจัยชิ้นนี้ยังเผยให้เห็นข้อมูลใหม่ที่ระบุถึงชนิดของเต่าที่ตกเป็นเป้าหมายและพื้นที่ของการล่า ซึ่งจะช่วยให้นักอนุรักษ์และนักกฎหมายทำงานเพื่อคุ้มครองประชากรเต่าได้ดียิ่งขึ้นในอนาคต ซึ่งนักวิจัยย้ำว่าปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคมเป็นสิ่งที่มีผลต่อการลักลอบค้าเต่าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะตราบใดที่ยังมีความต้องการจากประเทศที่ร่ำรวยกว่า การค้าเต่าจากประเทศที่ยากจนกว่าคงจะไม่มีทางหมดไปได้


https://dxc.thaipbs.or.th/news/%e0%b...8%b2%e0%b8%99/

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม