เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 10-08-2011
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,160
Default พายุหมุนเขตร้อน - พายุสุริยะ



ไปอ่านจากเวปบอร์ดของกรมอุตุนิยมวิทยามา เป็นการพยากรณ์ที่น่าสนใจ


รู้ไว้ใช่ว่า...ใส่บ่าแบกหาบ


ลองอ่านดูนะคะ....



...................................


พายุหมุนเขตร้อน - พายุสุริยะ

โดย...คุณ TC-2011


ปัจจุบันโลกเราได้เปลี่ยนไปมากเเล้ว ข้อมูลจากเเผ่นดินไหว เมื่อปี 2002-2003 โดยเฉลี้ย มีเเผ่นดินไหวทั่วโลกรวมประมาณปีละ 400-500 ครั้ง เเต่ข้ามไปปี 2010 เมื่อปีที่เเล้วนี่เอง ไม่ถึงทศวรรษ มีเเผ่นดินไหวทั่วโลก พุ่งสูงขึ้นถึง 3000-5000 ครั้ง นี่เป็นเรื่องผิดปกติมาก



จากข้อมูลนี้คาดว่ามาจาก เเกนโลกเราเปลี่ยนเเปลงไป เมื่อนเเกนเปลี่ยน สนามเเม่เหล็กที่คอยปกป้องคุ้มครองโลก ที่คอยสะทอนอนุภาครังสีจากดวงอาทิตย์ อย่าง พายุสุริยะ ก็ลดลง ทำให้พายุสุริยะทะลุเข้ามาโลกมากขึ้น ส่งผลให้เปลือกโลกขยับ เเละสภาพอากาศเเปรปรวน


เเละเนื่องจากพายุสุริยะที่หลุดทะลุเข้ามายังโลกเพิ่มมากขึ้นทำให้ความร้อนเพิ่มสูงขึ้นด้วย โดยล่าสุด ปี 2011 ผลจากพายุสุริยะ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่เร่งน้ำเเข็งที่ปกคลุมภูเขาหิมาลัยใกล้หมดลงเร็วขึ้น สังเกตได้ว่าระยะหลัง เเม่น้ำโขงเเห้งอย่างชัดเจนในระยะ1-2 ปีที่ผ่านมา ชนิดที่เดินข้ามฝั่งไปมา หรือเตะผลได้เลย


เเละน้ำเเข็งบริเวณต่างทั่วโลกตามข่าว เเละสารคดี ละลายเร็วขึ้นหลายเท่าตัว ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นโดยเฉพาะบริเวณเเปซิฟิค เเต่เเค่น้ำสูงขึ้นยังไม่พอ การละลายของน้ำเเขง ส่งผลให้มีปริมาณน้ำจึดเยอะขึ้น ทำให้ความเค็มของมหาสมุทรลดลง


ความเค็มของน้ำทะเล นั้น เป็นตัวกำหนดทำให้ความเร็วในการเคลื่อนตัวของกระเเสน้ำใต้มหาสมุทร ยิ่งมีความเค็มมากการเคลื่อนตัวก็จะเร็วมาก เเต่เนื่องจากความเค็มที่มากนี้เองทำให้กระเเสน้ำไหลเปลี่ยนหมุนเววียนเร็วยิ่งขึ้นทำให้ อุุณหภูมิที่น้ำทะเลโดยเฉลี่ยจะไม่ร้อนมากเพราะมีการถ่ายเทตลอดเวลา


เเต่ในปัจจุบัน ความเค็มของมหาสมุทร มีน้อยลง เพราะปริมาณนำ้จืดที่มากขึ้น ทำให้ความเร็วในการเคลื่อนตัวของกระเเสน้ำใต้มหาสมุทรเริ่มช้าลง ... เเละเมื่อช้าลงการถ่ายเทของกระเเสน้ำ ก็จะเก็บความร้อนได้มากขึ้น เเละมากขึ้น


ทั้งนี้คาดการณ์ว่า นับเเต่นี้เป็นต้นไปโดยเฉพาะ มหาสมุทรเเปซิฟิคไต้ฝุ่น นอกจากระดับนำ้ทะเลที่สูงกว่ามหาสมุทรบริเวณอื่นเเล้ว ก็จะมีความร้อนเพิ่มสูงขึ้น ... จากเดิมที่มีจำนวนพายุหมุนเขตร้อนก่อตัวมากที่สุดในโลกอยู่เเล้ว ก็จะยิ่งมีพายุหมุนเขตร้อนก่อตัวเพิ่มมากขึ้นไปอีกโดยเฉลี่ย 30-40 ต่อไป


บางทีในอนาคตอาจทะลุถึง 50 ลูก ในประวัติศาสตร์(นับตั้งเเต่ไม่รวมหย่อมความกดอากาศตำ้ในอดีต)ก็เป็นได้


จากนี้ไปเราจะได้เห็นพายุหมุนเขตร้อนก่อตัวไม่เว้นอาทิตย์ ในช่วงฤดูกาลหลักไต้ฝุ่น

เเละประเทศไทยมีเเนวโน้มสูงที่จะได้รับอิทธิพลจากพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนตัวผ่านมากขึ้นด้วย


ที่กล่าวมานี้เป็นเพียงผลทางอ้อมของพายุสุริยะที่มีผลต่อ พายุหมุนเขตร้อนดังที่ได้อธิบายไว้


เเต่ก็ยังมีผลโดยตรงต่อพายุหมุนเขตร้อนด้วย ตรงนี้ผมยังมีข้อมูลไม่มากนักเเละยังทราบว่าพายุสุริยะจะผลกระทบโดยตรงต่อพายุหมุนเขตร้อนอย่างไร ปัจจัยอะไรของพายุสุริยะ ที่จะเป็นปัจจัยต่อพายุพายุหมุนเขตร้อน ซึ่งก็ขี้เกียจจะศึกษา ไว้จะหาเวลา


เเต่เท่าที่สังเกตในปีนี้พายุสุริยะมาถึงโลกทีไร พายุหมุนเขตร้อนรวมทั้งหย่อมความกดอากาศตำ่ส่วนใหญ่ไม่อ่อนกำลังลง ก็ทวีกำลังขึ้น ... ตรงนี้ละที่บอกว่ามันเป็นปัจจัยโดยตรงอย่างไร


ช่วงนี้ผมกำลังอินเทรนพายุสุริยะอยู่ เพิ่งมาสนใจปีนี้เอง ไปอ่านจากเว็บต่าง ๆ จากข่าว เเละจากสารคดี คิดว่านี้เป็นเรื่องใหญ่ ... เป็นปัญหาใหญ่ยิ่งกว่าพายุหมุนเขตร้อนเสียอีก เทียบกันเเล้วเล็กนิดเดียว


ข้อมูลล่าสุด อิทธิพลจากพายุสุริยะก็เป็นสาเหตุหนึ่งของการเริ่มปะทุของภูเขาไฟในฮาวาย ซึ่งนักธรณีวิทยาสหรัฐคาดว่า เกาะฮาวายจะขยายใหญ่ขึ้นเนื่องจากธารลาวาที่ไหลออกนอกชายฝั่ง ทำให้เเผ่นดินขยายออกไปมากขึ้น เเละจะปะทุใหญ่ในอนาคตอันไกล้นี้ ซึ่งตรงกับการทำนายเเละนิมิตตามข่าวที่ว่าก็ฮาวายจะใหญ่ขึ้น ...


เเต่เท่าที่กล่าวทั้งหมดยังไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่สุด เเต่เรื่องใหญ่ที่สุดเท่าที่อ่านเเละวิเคราะห์ได้คือ


จากพุทธทำนายตอนหนึ่งที่กล่าวที่กับเรื่องภัยพิบัติจากธรรมชาตื ช่วงหลังกึ่งพุทธกาลว่า ฯ



"ยักษ์หินที่ถูกสาบเป็นเวลานาน จะตื่นขึ้นมาอาละวาทโลก ดินฟ้าอากาศจะแปรปรวน ตลิ่งจะพัง แผ่นดินจะถล่มเป็นทะเลโลกมนุษย์จะดิ่งสู่ความหายนะ"
เมื่อเเกะข้อความเเล้ว คำว่า "ยักษ์หิน" น่าจะหมายถึงเเผ่นเปลีอกโลก ที่ทำให้เเผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด คำว่า "เเผ่นดินจะถล่มเป็นทะเล" น่าจะหมายถึงเเผ่นดินทรุดตัวลง ทำให้น้ำทะเลไหลเอ่อเข้ามา จากพุทธทำนายมันก็เป็นจริงในปัจจุบัน


เเละประโยคหนึ่งที่ท่าน ได้กล่าวไว้ในพุทธทำนายคือ "ดูก่อนอานนท์ เวลานั้นพลโลกเหลือน้อยมาก" พอเเกะเเล้ว คำว่าเวลานั้น ก็คือช่วงหลังกึ่งพุทธกาล คือปี 2500 เป็นต้นไป เเละคำว่า "เวลานั้นพลโลกเหลือน้อยมาก" ก็น่าจะหมายความว่ามีอยู่สิบคน รอดอยู่ประมาณ 1 คน 2 คน คือท่านใช้คำว่าน้อยมาก เเต่ถ้าน้อย เฉย ๆ ก็น่าจะ 3 คน 4 คน เเละประโยคที่ยกมาว่่านี้ ก็เป็นประโยคที่กล่าวหลังเรื่องเกี่ยวกัยภัยพิบัติธรรมชาติ เเละภัยจากมนษย์เสียด้วย


เเต่ผมอ่านดูเต็มเรื่องพุทธทำนายเเล้ว ไม่ว่าจะเรื่องภัยพิบัติจากมนุษย์ เเละภัยพิบัติจากธรรมชาติ เมื่อเเกะเเต่คำ ที่ท่านอุปมา - อุปมัย ดูเเล้ว เเสดงให้เห็นความเเม่นยำของพุทธองค์ว่า ที่คาดการณ์ไปเเล้วนั้น ถูกไปเเล้ว 100 เปอร์เซนต์ เหลือเพียงเเต่อุปมามัยที่ผมเเปลเอาว่า น่าจะหมายถึงสงครามโลกครั้งที่ 3 ข้อเดียวเท่านั้น



ไปๆมาๆ จากเรื่องพายุสุริยะกลายเป็นพุทธทำนาย ได้นะครับ งงตัวเองเหมือนกัน



...................................


ขอบคุณข้อมูลจาก....http://www2.tmd.go.th/webboard/show....ology&No=10998
__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 10-08-2011 เมื่อ 12:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 11-08-2011
lazyoctopussy lazyoctopussy is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: Jul 2009
ข้อความ: 249
Default

ขอบคุณนะคร๊าบบบ...อีกหนึ่งความรู้ที่เอาไว้เพิ่มรอยหยักในสมองของน้องหมึก...ขอเอาไปเล่าให้บรรดาลุงๆป้าๆบนรถทัวร์ฟังบ้างนะก๊าบ ^____^
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 12-08-2011
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,160
Default



ด้วยความยินดีจ้ะน้องอ้อย...

__________________
Saaychol
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 20:49


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger