![]() |
|
|
|
#1
|
||||
|
||||
|
เอาตัวรอดจาก “แผ่นดินไหว” ภาพสาธิตวิธีปฏิบัติตัวเมื่อเกิดแผ่นดินไหว โดยให้ก้มต่ำ หาที่กำบังและยึดไว้ให้แน่น (getthru.govt.nz) เมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหวให้ตั้งสติ แล้วปฏิบัติตามวิธีป้องกันตัวเองจากอันตรายดังนี้ - หากอยู่ภายในอาคารให้หลบในที่ปลอดภัยและพยายามอยู่ในจุดของบ้านที่แข็งแรงที่สุด เช่น หลบอยู่ใต้โต๊ะที่แข็งแรงหรืออยู่ชิดผนังภายในบ้าน ทั้งนี้เพื่อป้องกันตัวเองจากวัตถุต่างๆ ที่จะหล่นมาทำร้าย เป็นต้น และพยายามหลีกเลี่ยงที่จะอยู่ใกล้หน้าต่างกระจกบานใหญ่ บริเวณที่มีสิ่งของแขวนอยู่ เฟอร์นิเจอร์หนัก เครื่องใช้หนักๆ และบริเวณที่ติดไฟได้ง่าย - หากกำลังทำอาหารให้ปิดเตาไฟและคลุมเตาไว้ - หากอยู่นอกอาคาร ให้มุ่งไปยังสถานที่โล่งแจ้ง ซึ่งไม่มีสิ่งของที่จะตกลงมาทำร้ายได้ และพยายามอยู่ให้ห่างจากอาคารสิ่งก่อสร้าง ท่อส่งเชื้อเพลิง และต้นไม้ - หากขับรถอยู่ ให้ชะลอความเร็วอย่างช้าๆ แล้วหยุดรถข้างถนน หลีกเลี่ยงการหยุดรถบนหรือใต้สะพานและทางด่วน และพยายามหลีกเลี่ยงบริเวณที่เป็นท่อส่งเชื้อเพลิง ต้นไม้และป้ายสัญญาณขนาดใหญ่ แล้วหลบอยู่ภายในรถ จาก : ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 5 มีนาคม 2553
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
#2
|
||||
|
||||
|
ระทึกโลกแผ่นดินไหวชิลี ล้มล้าง “ทฤษฎีสึนามิ” ไทยระวัง ![]() หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 9.1 ริกเตอร์ เมื่อปี 2547 ส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิพัดเข้าชายฝั่งทะเลของ 15 ประเทศทั่วโลก จนมีผู้เสียชีวิตราว 2.3 แสนคน มีนักวิเคราะห์ด้านธรณีวิทยาและภัยพิบัติแผ่นดินไหวออกมาให้ข้อมูลว่า การเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาดนี้จะเกิดขึ้นตามรอบเวลาทุกๆ 500 ปี โดยวิเคราะห์จากสถิติที่บันทึกมาตั้งแต่อดีต ทำให้ผู้ที่ติดตามข่าวสารต่างมั่นใจว่า เหตุการณ์ลักษณะนี้จะยังไม่เกิดขึ้นอีกในช่วงอายุที่เหลือ แต่เหตุแผ่นดินไหวขนาด 8.8 ริกเตอร์ที่เกิดขึ้นที่ประเทศชิลี เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา แม้มีรายงานผู้เสียชีวิตเพียงไม่กี่พันคน แต่แผ่นดินไหวครั้งนี้ได้ทำลายทฤษฎีของผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวทั่วโลก เนื่องจากปี พ.ศ.2503 ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่ชิลี ตอนนั้นนักวิเคราะห์ให้ความเห็นตรงกันว่า ต้องรออีกไม่ต่ำกว่า 500-1,000 ปี จะเกิดขึ้นอีกครั้ง แต่เวลาผ่านไปเพียง 50 ปี แผ่นดินก็ไหวอย่างรุนแรงในจุดเดิมอีกครั้ง เมื่อทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ถูกล้มล้าง ทำให้เกรงกันว่าระยะเวลาของการเตือนภัยอาจใช้ไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "สึนามิ" ซึ่งเชื่อกันว่าจะเกิดทุก 500 ปี จากเหตุแผ่นดินไหวใหญ่ อาจเกิดขึ้นอีกในเวลาใดก็ได้ต่อจากนี้ไป ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยภัยธรรมชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต อธิบายว่า เมื่อปี พ.ศ.2503 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 9.5 ริกเตอร์ที่ชายฝั่งชิลี ถือเป็นระดับรุนแรงมากที่สุดตั้งแต่มีการบันทึกสถิติแผ่นดินไหว ส่งผลให้เกิดคลื่นสึนามิสูง ถึง 10 เมตร พัดข้ามทวีปไปถึงชายฝั่งญี่ปุ่น แต่โชคดีในอดีตชาวบ้านไม่นิยมอาศัยอยู่ตามชายฝั่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไปเพียง 2,000 กว่าคน สาเหตุที่เกิดก็เพราะแผ่นเปลือกโลกนาซกา (NAZCA) มุดตัวลงไปในแผ่นเปลือกโลกอเมริกาใต้ที่ทับซ้อนกันระยะลึก 20 เมตร หลังจากนั้นนักวิชาการก็ออกมายืนยันว่า กว่าจะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงระดับนั้นในชิลีอีกครั้ง ก็ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 500 ปี เพราะแผ่นเปลือกโลกต้องใช้เวลาในการสะสมพลังครั้งใหม่ "ไม่น่าเชื่อว่าผ่านไปแค่ 50 ปีก็เกิดแผ่นดินไหวที่ชิลีอีกครั้ง โดยจุดศูนย์กลางอยู่บริเวณแผ่นเปลือกโลกใกล้ที่เดิม นักวิชาการด้านนี้วิเคราะห์ว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก เพราะข้อมูลระบุว่ามีการมุดตัวของแผ่นเปลือกโลกนาซกาแค่ 4 เมตรเท่านั้น แต่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวระดับ เกือบ 9 ริกเตอร์ จากเดิมที่คาดว่าใน 50 ปีมุดตัวไป 4 เมตร ถ้าจะมุดตัว 40 เมตร ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 400-500 ปี เพื่อเกิดพลังสะสมให้เกิดขนาด 8 ริกเตอร์ขึ้นไป แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือเปลือกโลกมุดตัวซ้อนกันไม่ถึง 10 เมตร ก็ทำให้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงและมีสึนามิแล้ว หมายความว่าสึนามิที่เกิดในภูเก็ตและพังงาอาจเกิดซ้ำอีกครั้งได้ในไม่กี่สิบปีนี้” ดร.เสรี เล่าว่า เวลา 13.42 น. วันที่ 26 กุมภาพันธ์ เกิดแผ่นดินไหวที่ชิลีผ่านไปเพียง 12 นาที มีรายงานอีเมลเตือนมายังศูนย์เตือนภัยในประเทศไทย ส่วนที่ชิลีนั้นคาดว่ามีการเตือนภัยเช่นกัน แต่คงอพยพผู้คนไม่ทัน...แผ่นดินไหวและสึนามิเป็น ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการป้องกันที่ดีที่สุดคือการสร้างเครือข่ายส่งข้อมูล โดยเฉพาะข้อมูลจากทุ่นเตือนภัยที่อินเดีย ออสเตรเลีย และฟิลิปปินส์ เพราะถ้ารู้เร็วก็จะเตรียมหนีได้เร็ว "มีรายงานว่า แผ่นเปลือกโลกชื่อ "ฟิลิปปินส์" ขณะนี้มีการมุดตัวลึกถึง 38 เมตรแล้ว ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าจะดีดตัวกลายเป็นเแผ่นดินไหวและสึนามิขนาด ยักษ์หรือไม่ ระยะนี้หน่วยงานเตือนภัยของไทยต้องพยายามเชื่อมโยงข้อมูลกับฟิลิปปินส์ให้ดี เพราะไทยอยู่ห่างออกมาเพียง 2,000 กิโลเมตร คลื่นยักษ์สึนามิสามารถซัดเข้าชายฝั่งสงขลาได้ในเวลาประมาณ 14 ชั่วโมง" ดร.เสรี กล่าว ![]() อย่างไรก็ตามธรณีพิโรธที่ชิลีครั้งนี้ นอกจากทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวต้องพลิกทฤษฎีเรื่องรอบเวลาการเกิดสึนามิแล้ว ยังส่งผลกระทบสำคัญด้านอื่นคือ นักวิทยาศาสตร์จากนาซาได้สร้างแบบจำลองคอมพิวเตอร์วิเคราะห์ว่า หลังเกิดแผ่นดินไหวที่ชิลีแล้ว “แกนรูปทรงของโลก” (Earth's figure axis) ได้เคลื่อนที่ไปประมาณ 8 เซนติเมตร ส่งผลให้เวลาของโลกหดสั้นลง 1.26 ไมโครวินาที ถ้าเปรียบเทียบกับแผ่นดินไหวเมื่อ ปี 2547 คราวนั้นทำให้แกนโลกขยับไปประมาณ 7 เซนติเมตรและเวลาสั้นลงถึง 6.8 โมโครวินาที...ฟังดูน่าตื่นเต้น หากไม่รู้ว่า 1 ไมโครวินาทีเท่ากับ 1 ในล้านส่วนของวินาที คงไม่มีใครรู้สึกอะไรถ้าเวลาในโลกจะสั้นลงแค่ 1 ในล้านของวินาที !?! นายอารี สวัสดี นายกสมาคมดาราศาสตร์ไทย หนึ่งในกรรมการบริหารสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิเคราะห์ว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่หลังแผ่นดินไหวรุนแรง จะทำให้แกนโลกสั่นหรือขยับตัว แต่ไม่ส่งผลให้เวลาบนโลกเปลี่ยนไป เสมือนกับการโยนก้อนหิน 1 ก้อน เข้าใส่ตึก 20 ชั้น ไม่มีใครรู้สึกอะไร "แกนโลกปกติเอียงที่ 23 องศา 27 ลิปดา แผ่นดินไหวแต่ละครั้งไม่ได้ทำให้แกนโลกเปลี่ยนไป ในอดีตก็มีแผ่นดินไหวรุนแรงเกิดขึ้นตลอดเวลา แต่ยังไม่มีเครื่องมือตรวจจับแกนโลกได้ เมื่อเครื่องมือไฮเทคมากขึ้น การตรวจจับก็ละเอียดมากทำให้มีข้อมูลเหล่านี้ออกมา ถือเป็นรายงานทางวิชาการตามปกติ แต่มันเล็กน้อยมากๆจนแทบจะวัดไม่ได้ และสักพักแกนโลกจะขยับกลับเข้าที่เดิมตามธรรมชาติ ไม่ส่งผลกระทบให้ต้องปรับเวลา มนุษย์เพิ่งรู้จักตัวเองมาได้แค่ 5,000 ปี ขณะที่โลกเกิดมานานกว่า 6,000 ล้านปี เพราะฉะนั้นชั่วชีวิตของพวกเราคงไม่มีทางได้เห็นแกนโลกเอียงไปมากกว่า 23 องศา 27 ลิปดาอย่างแน่นอน" นายอารีกล่าวยืนยัน จาก : คม ชัด ลึก วันที่ 6 มีนาคม 2553
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
#3
|
||||
|
||||
|
'ธรณีพิโรธ' ชุดใหญ่! 'แกนโลกเอียง' ร้าย 'ไม่เท่าภัยมนุษย์' ![]() ระยะนี้ “โลก” ดูจะ “พิโรธ” โกรธเกรี้ยวแรงๆ เป็นชุดๆ มีทั้งหนาวหนัก-หิมะตกหนัก ร้อนสาหัส-แล้งสาหัส และที่ยิ่งน่ากลัวเพราะส่งผลร้ายต่อมนุษย์แบบฉับพลัน คือ “แผ่นดินไหว” ซึ่งระยะนี้เกิดขึ้นในระดับรุนแรงเป็นระลอกในหลายๆประเทศ และยังส่งผลต่อเนื่องให้เกิดคลื่นยักษ์ “สึนามิ” อีกต่างหาก !! เหตุแผ่นดินไหวรุนแรงนั้น ในปี 2553 นี้แค่ 2 เดือนเศษก็เกิดถี่ยิบ ไม่นับรวมที่เป็นอาฟเตอร์ช็อก ก็เกิดแล้วเกือบสิบครั้ง ในหลายประเทศ เช่น... 3 ม.ค. เกิดที่หมู่เกาะโซโลมอน รุนแรง 7.1 ริคเตอร์, 12 ม.ค. เกิดที่ประเทศเฮติ รุนแรง 7.0 ริคเตอร์, 1 ก.พ. เกิดที่ประเทศปาปัวนิวกินี รุนแรง 6.2 ริคเตอร์, 4 ก.พ. เกิดที่ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา รุนแรง 5.9 ริคเตอร์, 26 ก.พ. เกิดที่เมืองริวกิว ประเทศญี่ปุ่น รุนแรง 7.0 ริคเตอร์, 27 ก.พ. เกิดที่ประเทศชิลี รุนแรง 8.8 ริคเตอร์, 4 มี.ค. เกิดที่เกาะไต้หวัน รุนแรง 6.4 ริคเตอร์ และประเทศทางใต้ของประเทศไทยอย่างอินโดนีเซีย หรือฟิลิปปินส์ แผ่นดินก็ยังคงเขย่าน่ากลัวอยู่เนือง ๆ แผ่นดินไหวรุนแรงแต่ละครั้งสร้างความเสียหายมาก ในบางประเทศ “อาฟเตอร์ช็อก” ก็ยังรุนแรงมาก !! ทั้งนี้ ว่ากันถึงระดับความรุนแรงของแผ่นดินไหว ถ้าเป็นระดับ 1-2.9 ริคเตอร์ ถือว่าเล็กน้อยมาก แค่บางคนอาจรู้สึกวิงเวียน, 3-3.9 ริคเตอร์ ก็ยังเล็กน้อย แต่คนที่อยู่ในอาคารจะรู้สึกว่าอาคารสั่นสะเทือน, 4-4.9 ริคเตอร์ ระดับปานกลาง คนทั้งในและนอกอาคารจะรู้สึกถึงการสั่นสะเทือน วัตถุห้อยแขวนแกว่งไกว, 5-5.9 ริคเตอร์ เริ่มรุนแรงเป็นบริเวณกว้าง ทำให้สิ่งของวัตถุเคลื่อนที่, 6-6.9 ริค เตอร์ นี่เริ่มรุนแรงมาก อาคารเสียหายพังทลาย, 7.0 ริคเตอร์ขึ้นไป ระดับนี้ยิ่งกว่าคำว่ารุนแรงมาก จะเกิดการสั่นสะเทือนอย่างร้ายแรง อาคารและสิ่งก่อสร้างต่างๆเสียหายอย่างรุนแรง วัตถุบนพื้นถึงขั้นถูกเหวี่ยงกระเด็นได้เลย แผ่นดินจะแยก และระดับยิ่งกว่ารุนแรงมากนี้ยังอาจมีผลต่อทั้งโลก สามารถมีผลต่อการเปลี่ยนแปลง “แกนโลก-เวลา” “แผ่นดินไหว 8.8 ริคเตอร์ ที่ชิลี ทำให้แกนโลกเอียงราว 8 ซม. ทำให้แกนโลกหมุนเร็วขึ้น และทำให้ใน 1 วันมีเวลาลดลงเฉลี่ย 1.26 ไมโครวินาที (1 ไมโครวินาทีเท่ากับ 1 ในล้านของวินาที) แผ่นดินไหวสามารถทำให้โลกหมุนเร็วขึ้นจากการดันมวลสารของโลกเขยิบใกล้แกนโลก และสามารถทำให้โลกหมุนช้าลงหากขยับมวลสารออกจากแกนโลก” ...นี่เป็นสรุปเนื้อหาข่าวเมื่อวันก่อน ซึ่งมีการอ้างอิงการเปิดเผยของนักวิทยาศาสตร์องค์การบริหารการบินและอวกาศของสหรัฐอเมริกาหรือนาซา อย่างไรก็ตาม กับเรื่องนี้ ผศ.ดร.พรชัย พัชรินทร์ตนะกุล ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกว่า... แกนโลกที่เปลี่ยนไป 8 ซม. ทำให้เวลาช้าลงกว่าเดิม 1.26 ไมโคร วินาทีนั้น ถือว่าเล็กน้อยมาก ซึ่งปกติแกนโลกก็ขยับตัวตลอดเวลาอยู่แล้ว โดยถ้าจะถึงกับเปลี่ยนทิศของโลกอย่างชัดเจน ต้องใช้เวลานับหมื่นๆปี เพราะขนาดความกว้างของโลกมีเส้นผ่าศูนย์กลางกว่า 10,000 กม. “บริเวณทิศเหนือและทิศใต้ของโลกในปัจจุบันเมื่อหลายหมื่นปีมาแล้วก็เป็นเส้นศูนย์สูตรมาก่อน ซึ่งกว่าจะมาเป็นอย่างทุกวันนี้ต้องใช้เวลานานนับหมื่นปี และถ้าใครกลัวเรื่องวันสิ้นโลก ปี ค.ศ.2012 คงเป็นไปไม่ได้ โลกใบนี้จะยังคงหมุนไปในระบบสุริยจักรวาลอีกนานแสนนาน การขยับของแกนโลกแค่ 8 ซม. เวลาช้าลง 1 ในล้านวินาที ถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก” ...นักวิชาการระบุ ขณะที่นักวิชาการภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬา ลงกรณ์มหาวิทยาลัย อีกคนหนึ่ง คือ ดร.สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ ก็บอกว่า... แกนโลกเป็นส่วนประกอบ 1 ใน 3 ของโครงสร้างภายในโลก ถ้าเราผ่าครึ่งผลไม้เราจะเห็นส่วนประกอบภายใน 3 ส่วนคือ... 1.เปลือกผิวบาง ๆ, 2.เมล็ดที่อยู่แกนกลาง, 3.เนื้อผลไม้ ซึ่งก็เช่นกัน ถ้าผ่าครึ่งโลกได้ก็จะเห็น... 1.เปลือกโลกชั้นบางด้านนอกสุด, 2.แกนโลกขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงแกนกลาง และ 3.ชั้นแมนเทิล ที่ประกอบเป็นเนื้อโลก ซึ่งทั้ง 3 ส่วนนี้สำคัญไม่แตกต่าง-ไม่แยกจากกัน และที่เรียกว่า “แกนโลก” แท้จริงคือแกนสมมุติ เป็นโครงสร้างของโลกที่หมุนไปด้วยกัน “ถ้าเปรียบกับลูกข่าง แกนโลกคือตะปูตรงกลาง ซึ่งการเหวี่ยงของลูกข่างในระยะแรกๆ แกนลูกข่างจะตั้งตรง พอหมุนไปสักพักแกนก็จะส่าย โลกก็เช่นเดียวกัน แต่กว่าแกนโลกจะส่ายแบบนั้นต้องใช้เวลานานมาก การโคจรของโลกในระบบสุริยจักรวาลทุกวันนี้ยังไม่มีอะไรมารบกวน โลกก็ยังคงหมุนรอบตัวเองและหมุนรอบดวงอาทิตย์ไปเรื่อยๆ ซึ่งหมุนมานานกว่า 5,000 ล้านปีมาแล้ว ไม่ต้องกังวลว่าโลกจะแตกดับไปในเร็วๆนี้ โลกใบนี้จะยังคงหมุนต่อไปอีกเป็นพันล้าน-หมื่นล้านปี” ...ดร.สธนระบุ พร้อมทั้งทิ้งท้ายว่า... ด้วย “ฝีมือมนุษย์” ที่ทำให้อากาศและน้ำเปลี่ยนแปลง นี่ต่างหากที่ “เปลี่ยนโลกไปในทางเลวร้าย” “หายนะโลก-หายนะมนุษย์” เกิดขึ้นได้เร็ว ๆ นี้แน่ แต่ “ด้วยฝีมือของมนุษย์เราเอง” นี่แหละ !?!?!. จาก : เดลินิวส์ วันที่ 8 มีนาคม 2553
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
#4
|
||||
|
||||
|
อ้างอิง:
|
![]() |
| คำสั่งเพิ่มเติม | |
| เรียบเรียงคำตอบ | |
|
|