เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 13-07-2010
Udomlert's Avatar
Udomlert Udomlert is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 414
Default Udomlert

หวังว่า คงไม่ใช่ Southern Seaboard นะครับ ตอนนี้คนสตูลก็เริ่มออกมาบอกเล่าความไม่ชอบมาพากล
__________________
We make a living by what we get,
we make a life by what we give.
(Winston Churchill)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 14-07-2010
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,123
Default



ข่าวนี้อ่านแล้วสะท้อนสะท้านใจ....


มลพิษระยองน่าห่วง สารปรอทกระทบหญิงท้อง




กลุ่มศึกษาและรณรงค์มลภาวะอุตสาหกรรม เผยผลการตรวจสุขภาพประชาชนพื้นที่จังหวัดระยอง พบประชาชนมี อนุพันธ์ของสารเบนซิน มากกว่าปกติ 3.1% เสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง และพบโลหะหนักประเภทปรอทและสารหนู อีก 34.8% อันตรายมากในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์...


14 ก.ค. น.ส.เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้ประสานงานกลุ่มศึกษาและรณรงค์มลภาวะอุตสาหกรรม เปิดเผยผลการตรวจสุขภาพประชาชนพื้นที่จังหวัดระยอง ตามโครงการสำรวจสุขภาพประชาชนในเขตควบคุมมลพิษและนอกเขตควบคุมมลพิษ พบประชาชนมีอนุพันธ์ของสารเบนซินมากกว่าปกติ 3.1% และพบโลหะหนักประเภทปรอทและสารหนู อีก 34.8% ว่า แม้ผลการตรวจสุขภาพประชาชนในพื้นที่จังหวัดระยองครั้งนี้ จะพบสารอันตรายในระดับไม่สูงมากจนน่าวิตก และเป็นผลสำรวจที่เสร็จเพียง 80% ก็ตาม


"ต้องยอมรับว่า มีการเจ็บป่วยเกิดขึ้นจริงในพื้นที่ ซึ่งยังไม่สามารถระบุลงไปได้ชัดเจนว่า เกิดขึ้นจากสารพิษประเภทใดบ้าง แต่เชื่อว่าหากประชาชนยังคงได้รับสารพิษสะสมอยู่ตลอดเวลา ก็จะเกิดการสะสมและส่งผลเสียต่อสุขภาพรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหากประชาชนยังคงต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีมลพิษอยู่ ก็ยังวางใจไม่ได้ ยกตัวอย่างสารเบนซินที่พบ เป็นสารอินทรีย์ที่ระเหยง่าย และเป็นสารก่อมะเร็ง หากชาวบ้านยังคงต้องหายใจในอากาศที่มีสารเบนซินสะสมอยู่ทุกวันๆ ก็อาจสะสมพัฒนากลายเป็นมะเร็งได้ หรือกรณีสารปรอท เป็นสารที่ทำลายระบบประสาทส่วนกลาง อันตรายมากโดยเฉพาะในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ หากได้รับสารสะสมในร่างกายปริมาณสูง อาจทำให้ทารกในครรภ์พิการได้" น.ส.เพ็ญโฉม กล่าว

นอกจากนี้ ผู้ประสานงานกลุ่มศึกษาและรณรงค์มลภาวะอุตสาหกรรม กล่าวอีกว่า ข้อเสนอแนะการเฝ้าระวังสุขภาพของประชาชน ควรดำเนินการใน 2 ส่วนหลักคือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตั้งระบบการเฝ้าระวังมลพิษอย่างเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะมลพิษทางอากาศ และอีกส่วนคือชุมชน ต้องมีการจัดระบบการเฝ้าระวังด้วยตัวเอง เช่น เมื่อได้กลิ่นผิดปกติจะต้องรู้แล้วว่าควรป้องกันตัวเองอย่างไร ส่วนกระทรวงสาธารณสุขจะต้องมีระบบการติดตามตรวจสอบสุขภาวะของประชาชนใน พื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการติดตามการการแพร่กระจายของมลพิษในพื้นที่ต่อไป

__________________
Saaychol
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 15-07-2010
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,123
Default



คนญี่ปุ่นมาพูดเรื่องมาบตาพุดเอง....ลองอ่านดูนะตะ


จาก...คมชัดลึก http://www.komchadluek.net/detail/20100714/66568



[COLOR="Navy"]ญี่ปุ่นจี้นายกฯเร่งแก้ปมมาบตาพุดลั่นผิดหวังรัฐจัดการช้า-เตือนเสีย โอกาสแข่งขัน


นายกฯ พบนักลงทุนญี่ปุ่น ปลอบใจให้รอรัฐแก้ปัญหาโครงการมาบตาพุด ด้านประธานหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ สวนกลับผิดหวัง ชี้รัฐออกประกาศประเภทกิจการรุนแรงล่าช้า ทำให้วางแผนลงทุนลำบาก เตือนหากปล่อยนานไทยเสียโอกาสทางการแข่งขัน ญี่ปุ่นอาจหันไปลงทุนประเทศอื่นในอาเซียน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษงาน “นายกรัฐมนตรีพบนักธุรกิจญี่ปุ่น” จัดโดยสมาคมไทย-ญี่ปุ่น ร่วมกับหอการค้าญี่ปุ่น กรุงเทพฯ (เจซีซี) โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญและบทบาทของนักลงทุน และนักธุรกิจชาวญี่ปุ่น ที่สร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีหลายบริษัทจากญี่ปุ่น เช่น มิตซูบิชิ โตโยต้า และนิสสัน ที่ประกาศแผนขยายการลงทูนในไทย เพื่อผลิตรถยนต์เพื่อการส่งออก เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการให้ความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจไทย พร้อมทั้งขอให้นักธุรกิจญี่ปุ่นอดทนรอการแก้ไขปัญหาในโครงการมาบตาพุด ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกำลังเร่งแก้ไขอยู่


นายจุนอิจิ มิโซโนะอูเอะ ประธานหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ
กล่าวว่า ปัญหาที่ทำให้นักลงทุนญี่ปุ่นกังวลใจในขณะนี้คือ ปัญหาการเมืองและปัญหาการลงทุนในโครงการมาบตาพุด โดยที่น้ำหนักจะอยู่ที่มาบตาพุดมากกว่า โดยเฉพาะความไม่ชัดเจนในการประกาศประเภทกิจการ หรือโครงการที่อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อชุมชน ด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) และสุขภาพ (เอชไอเอ) ตามมาตรา 67 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญปี 2550 ซึ่งนักลงทุนญี่ปุ่นต้องการเห็นการประกาศฉบับนี้ออกมาโดยเร็ว แม้นายกฯ ระบุว่าจะประกาศประเภทกิจการภายใน 2 เดือน แต่นักลงทุนมองว่าช้าเกินไป และมีผลต่อแผนการลงทุนในอนาคตของนักลงทุน


ความไม่ชัดเจนในการประกาศประเภทกิจการที่มีผลกระทบรุนแรงฯ ส่งผลกระทบต่อแผนการลงทุนในอนาคตของนักลงทุน ทำให้เรารู้สึกผิดหวัง เพราะเรารอมานานแล้ว แม้ว่านายกฯ ระบุว่าจะประกาศประเภทกิจการที่อาจมีผลกระทบรุนแรงฯ ภายใน 2 เดือน แต่ถือว่ายังช้าไป นักลงทุนต้องการให้ประกาศโดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม เห็นด้วยที่ไทยจะมีการประกาศมาตรฐานการผลิตอุตสาหกรรมที่สูงขึ้น เพื่อคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม แต่นักลงทุนก็ต้องการให้ประกาศฉบับนี้ออกมาโดยเร็ว" นายจุนอิจิ ระบุ


ทั้งนี้ หากไทยไม่มีการพัฒนาตัวเองก็จะสูญเสียอำนาจในการแข่งขัน เมื่ออาเซียนรวมตัวเป็นตลาดเดียวกันในปี 2015 การที่นักลงทุนญี่ปุ่นจะหันไปลงทุนประเทศอื่นๆ ในอาเซียนก็มีโอกาสสูง แต่ยอมรับอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนฯ ของไทยมีความแข็งแกร่งมาก นักลงทุนญี่ปุ่นจะยึดไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ต่อไป ขณะที่อุตสาหกรรมการผลิตอื่นๆ ก็มีศักยภาพมากเช่นกัน


ด้านนายฮิเดโนริ มัสสอิ ประธานบริษัทโตชิบาไทยแลนด์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ปัจจัยการเมืองถือเป็นปัจจัยเสี่ยงของเศรษฐกิจไทย แต่นักลงทุนญี่ปุ่นมีความเชื่อมั่นที่จะลงทุนในไทย หากพิจารณาระหว่างปัจจัยเสี่ยงกับโอกาสการลงทุน พบว่าอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ ไทยยังเป็นประเทศที่น่าลงทุนที่สุดขณะนี้

__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 15-07-2010 เมื่อ 15:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:20


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger